นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เปิดเผยว่า ไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตยานยนต์ที่สำคัญของโลก โดยในปี 2566 มียอดการผลิตเป็นอันดับ 10 ของโลก และอันดับ 1 ในอาเซียน อีกทั้งยังมีมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 3.2 ล้านล้านบาท หรือ 18% ของ GDP ประเทศ
อย่างไรก็ตามจากปัญหาสภาพภูมิอากาศ และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ต้องปรับตัวสู่การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทาน ดังนั้นผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวและหาโอกาสขยายธุรกิจไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบราง เครื่องมือแพทย์ และอากาศยาน เป็นต้น โดยเฉพาะระบบขนส่งทางรางถือเป็นระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ต้นทุนต่ำ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่เน้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านรางและผลักดันขีดความสามารถในการออกแบบและผลิตรถไฟในประเทศโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีมาตรฐานระดับโลก
ทั้งนี้ดีพร้อมร่วมมือกับ สถาบันยานยนต์ เพื่อพัฒนาและยกระดับบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้สามารถนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติและดิจิทัลไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม รวมถึงสร้างโอกาสและเชื่อมโยงธุรกิจผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สามารถปรับตัวเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมระบบรางและการผลิตรถไฟที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย
โดยดีพร้อมได้จัดงานสัมมนา “พลิกโอกาสอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ระบบรางแห่งอนาคต” เพื่อชี้แจงกิจกรรมยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมระบบรางรองรับการเปลี่ยนผ่านของระบบห่วงโซ่อุปทานใหม่ พร้อมเสริมทักษะและพัฒนาด้านเทคโนโลยี หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ และดิจิทัล รวมถึงการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปประยุกต์ใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคอุตสาหกรรมไทยในอนาคต
“เชื่อมั่นว่ากิจกรรมดังกล่าว จะสามารถยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมระบบราง และพร้อมปลุกพลังให้ลุกขึ้นมาออกแบบพัฒนาระบบรางให้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายของอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนที่เข้มแข็งที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีความพร้อมทั้งมาตรฐานการผลิตและการบริการ มีแรงงานที่มีทักษะฝีมือ ตลอดจนความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและความปลอดภัยสำหรับอุตสาหกรรมระบบราง ขณะเดียวกัน ยังเป็นการก้าวสู่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ที่ไม่เพียงแต่จะขยายความสำเร็จจากอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่อุตสาหกรรมระบบราง แต่ยังเป็นการก้าวไปข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางรางให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปอย่างยั่งยืน”นายดุสิต กล่าว
นายเกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ที่ไทยมีความเชี่ยวชาญในการผลิตชิ้นส่วนและมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย สามารถปรับตัวเพื่อต่อยอดศักยภาพเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมระบบรางได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากได้รับข้อมูล ความรู้ และแนวทางการพัฒนาที่ถูกต้อง เพื่อปรับตัวไปสู่อุตสาหกรรมการผลิตระบบรางที่กำลังจะเกิดขึ้นในไทย เพื่อร่วมกันผลักดันอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน โดยได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้กำหนดจัดกิจกรรมเพื่อผู้ประกอบการอย่างเนื่อง
ทั้งนี้สถาบันยานยนต์ได้เปิดรับสมัครผู้ประกอบการเข้าร่วมการฝึกอบรมบุคลากร “หลักสูตรความรู้พื้นฐานระบบราง” เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมระบบรางตั้งแต่พื้นฐาน องค์ประกอบและชิ้นส่วน รวมไปถึงด้านมาตรฐานและความปลอดภัย ทั้งด้านทฤษฎีและปฏิบัติ การเยี่ยมชมและศึกษาดูงาน ณ โรงรถจักรธนบุรี รวมถึงจัดสัมมนาเครือข่ายและจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) อีกด้วย
โดยสถาบันยานยนต์ได้เปิดรับสมัครและคัดเลือก ให้ผู้ประกอบการได้ส่งบุคลากรเข้าร่วมอบรม เป็นจำนวน 3 รุ่น เริ่มรุ่นที่ 1 ในเดือนสิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้สามารถติดต่อขอรับข้อมูลการสมัครได้ที่ แผนกพัฒนาบุคลากรอุตสาหกรรมยานยนต์ สถาบันยานยนต์
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี