DITP ประกาศจัดงาน Thai Music Meetup – Gan Bei หนุนอุตสาหกรรมดนตรีของไทยในไต้หวัน

DITP ประกาศจัดงาน Thai Music Meetup – Gan Bei หนุนอุตสาหกรรมดนตรีของไทยในไต้หวัน

วันพฤหัสบดี ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2568, 13.10 น.

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “Thai Music Meetup – Gan Bei” ว่า กิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์อุตสาหกรรมดนตรีของไทยในไต้หวัน ภายใต้โครงการผลักดัน Soft Power ผ่านธุรกิจบริการศักยภาพ เพื่อผลักดัอุตสาหกรรมดนตรีไทยให้ก้าวสู่เวทีโลก พร้อมสร้างโอกาสเจรจาธุรกิจ คาดสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 500 ล้านบาทภายใน 5 ปี

ทั้งนี้ ตามแผนงานสนับสนุนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของ DITP ในสาขาต่างๆ เช่น หนังสือ เกม ดนตรี และแฟชั่น เพื่อต่อยอดทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดใหม่ๆ พร้อมบทบาทสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมดนตรีไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดต่างประเทศ จึงได้จัดงาน “Thai Music Meetup – Gan Bei” โดยมุ่งเน้นตลาดไต้หวัน ซึ่ง มีประชากรมากกว่า 23 ล้านคน และมีแนวโน้มการเติบโตของตลาดดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง


อย่างไรก็ตามโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเพลงดิจิทัล คาดว่าภายในปี 2568 จะมีมูลค่าสูงถึง 1.25 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 45,000 ล้านบาท) โดยร้อยละ 88 ของรายได้มาจาก Music Streaming  ศิลปินไทยมียอดรับฟังจากผู้ใช้งานในไต้หวันสูงเป็นอันดับต้นๆ ในเอเชีย และมีการสร้างกระแส (Buzz) พร้อมการประชาสัมพันธ์อย่างเป็นระบบผ่านสื่อออนไลน์ วิทยุ โทรทัศน์ และ Social Media ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนที่จำเป็นต่อการผลักดันศิลปินไทยสู่เวทีโลก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการรับรู้ สร้างฐานแฟนคลับ และสร้าง Country of Origin Branding ให้ศิลปินไทยเป็นที่รู้จักอย่างต่อเนื่อง และเป็นตัวแทนในการส่งเสริมการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศในเวทีนานาชาติ

สำหรับงาน“Thai Music Meetup – Gan Bei” จะจัดขึ้นในวันที่ 17 กันยายน 2568 นี้ ที่ไต้หวัน โดยมุ่งเน้นส่งเสริมการเจรจาธุรกิจ การสร้างเครือข่ายพันธมิตร และความร่วมมือทางการค้ากับต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผู้จัดเทศกาลดนตรี ผู้นำเข้าศิลปินไทยและสื่อมวลชน เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ภายในงานแถลงข่าวยังมีการจัดเสวนาพิเศษในหัวข้อ อุตสาหกรรมดนตรีไทยไปไกลได้แค่ไหน โดยได้รับเกียรติจาก คุณนัดส์ เจดีย์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ลาวด์ลี่ พรีเฟอร์ จำกัด กล่าวว่า การสนับสนุนศิลปินไทยไปแสดงในต่างประเทศ เป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันอุตสาหกรรมดนตรีไทยสู่เวทีโลก ทั้งการสร้างฐานแฟนเพลงใหม่และการเปิดตลาดสากล ขณะเดียวกันการมีพื้นที่แสดงและรางวัลเชิดชูเกียรติภายในประเทศ จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและพัฒนาศิลปินรุ่นใหม่ให้พร้อมก้าวไประดับนานาชาติอุตสาหกรรมดนตรีไทยยังมีศักยภาพสูงในการสร้างรายได้ระดับโลก แต่ก็ยังเผชิญกับอุปสรรคบางประการ โดยเฉพาะข้อจำกัดด้านการเดินทาง การขอวีซ่า และภาษา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ศิลปินไทยต้องเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน หากได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสมจากภาครัฐและเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ก็จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและโอกาสในการขยายผลงานสู่เวทีโลกได้อย่างยั่งยืน

ข้อมูลล่าสุดจาก IFPI Global Music Report 2024 สะท้อนชัดว่า อุตสาหกรรมดนตรีของไทยเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง ในปี 2567 รายได้จากอุตสาหกรรมดนตรีโลกมีมูลค่ากว่า 28.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และยังคงเติบโตต่อเนื่องปีละกว่าร้อยละ 10 สำหรับประเทศไทย อุตสาหกรรมดนตรีมีมูลค่าตลาดกว่า 107 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือ 3,400 ล้านบาท)  เติบโตขึ้นถึงร้อยละ 18.1 จากปีก่อนหน้า และได้รับการจัดอันดับว่า เป็นประเทศที่มีรายได้จากอุตสาหกรรมเพลงติดอันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  อันดับที่ 5 ของเอเชีย และอันดับที่ 26 ของโลก ซึ่งสะท้อนว่า อุตสาหกรรมดนตรีของไทยกำลังก้าวสู่บทบาทสำคัญในฐานะ Soft Power ที่สร้างทั้งรายได้ทางเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ที่น่าภาคภูมิใจ

- 030 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top