สินค้าGIยกระดับศก.ชุมชน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า8.2หมื่นล้าน

สินค้าGIยกระดับศก.ชุมชน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า8.2หมื่นล้าน

วันศุกร์ ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาเปิดเผยผลสำเร็จของการส่งเสริมสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ในปี 2568 อย่างครบวงจรตั้งแต่การขึ้นทะเบียนGI การควบคุมคุณภาพการส่งเสริมการตลาดGI ทั้งในไทยและในต่างประเทศ และสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่อง GI ให้กับผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สินค้า GI ไทยซึ่งปัจจุบันเป็นที่ยอมรับแล้วว่ามีอัตลักษณ์ มีความพิเศษจากสินค้าทั่วไป จากทั้งเรื่องราวความเป็นมาและคุณภาพของสินค้า สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่ผู้ประกอบการ ชุมชนที่ผลิตสินค้าได้ โดยในปี 2568 จากจำนวนสินค้า GI ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน 239 รายการ ทำมูลค่าได้สูงถึงกว่า 82,000 ล้านบาท

“GIเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน เพราะถือเป็นสินค้าที่มีความพิเศษ เป็นชื่อเสียงหรืออัตลักษณ์ของชุมชนที่สัมพันธ์กับลักษณะทางภูมิศาสตร์ (ดิน น้ำ อากาศ และภูมิปัญญาท้องถิ่นของพื้นที่) จึงแตกต่างจากสินค้าทั่วไป เมื่อสามารถควบคุมคุณภาพและรักษามาตรฐานการผลิตโดยการขึ้นทะเบียนเป็น GI ได้ ก็ช่วยสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคว่าเป็นสินค้าที่ผลิตได้ตรงตามความคาดหวัง จึงขายได้ราคาดีกว่าสินค้าทั่วไป และสร้างรายได้และอาชีพให้กับชุมชน


ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 กรมฯได้ขึ้นทะเบียนสินค้า GI ไทย27 รายการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 6,100 ล้านบาท ทำให้จำนวนสินค้า GI ของไทยในปัจจุบันอยู่ที่239 รายการ รวมมูลค่าการตลาดทั้งสิ้น 82,000 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มี GI ของไทย 212 รายการ มูลค่าการตลาด 76,000 ล้านบาท)

สินค้า GI ที่ทำรายได้ติด Top 10 ในปี 2568 ได้แก่ 1) ทุเรียนหมอนทองเขาบรรทัด (ตราด) 11,047 ล้านบาท  2) ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา 6,661 ล้านบาท  3) ทุเรียนหมอนทองระยอง 4,886 ล้านบาท  4) ข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟบุรีรัมย์ 4,812 ล้านบาท  5) มะพร้าวทับสะแก (ประจวบคีรีขันธ์) 3,776 ล้านบาท  6) เหล้าแป้ (แพร่) 3,632 ล้านบาท  7) มะขามหวานเพชรบูรณ์3,363 ล้านบาท  8) หอมแดงศรีสะเกษ 2,882 ล้านบาท  9) กุ้งก้ามกรามบางแพ (ราชบุรี) 2,570 ล้านบาท  และ 10) ทุเรียนบางนรา (นราธิวาส) 2,544 ล้านบาท

กรมฯ ยังส่งเสริมให้ผู้ผลิตสินค้า GI มีการทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า เพื่อรักษามาตรฐานการผลิต ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคว่าได้รับของดีมีคุณภาพที่มาจากแหล่งผลิตโดยตรงซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 กรมฯ ได้ช่วยผู้ผลิตจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า GI ให้กับ 9 สินค้า ได้แก่ ขนุนหนองเหียงชลบุรี ส้มสายน้ำผึ้งฝาง ลิ้นจี่จักรพรรดิฝาง (เชียงใหม่) มันแกวบรบือ (มหาสารคาม) สับปะรดบึงกาฬ ผ้าหมักโคลนบึงกาฬ กล้วยหอมทองเพชรบุรี ส้มควายภูเก็ต และทุเรียนหมอนทองเขาบรรทัด (ตราด) ส่งผลให้ปัจจุบันสินค้า GI ไทย มีระบบควบคุมคุณภาพสินค้าแล้ว 203 รายการ คิดเป็นร้อยละ 85 ของสินค้า GI ไทยทั้งหมด และมีผู้ประกอบการได้รับอนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์ GI ไทยกว่า 16,000 รายซึ่งเป้าหมายของกรมฯ คือจะทยอยจัดทำระบบควบคุมคุณภาพให้กับสินค้า GI ทุกรายการ

สำหรับแผนการส่งเสริมสินค้า GI ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 กรมฯ พร้อมรับลูกนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ให้ความสำคัญและเดินหน้าส่งเสริมสนับสนุนสินค้า GI ไทยแบบครบวงจรต่อเนื่องมุ่งเน้นการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ พาณิชย์จังหวัด ในการเฟ้นหาสินค้าคุณภาพที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นให้เข้าสู่ระบบการคุ้มครองGI ทูตพาณิชย์ในต่างประเทศเรื่องการวิเคราะห์ตลาดเป้าหมาย และขยายตลาดสินค้า GI ไทยสู่สากล รวมทั้งพัฒนาต่อยอดสินค้า GIให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในตลาดสินค้าพรีเมียม และร้านอาหาร Fine Dining ในการใช้ GI เป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารที่จะช่วยให้เกิดยอดสั่งซื้อ GI จากผู้ผลิตอย่างสม่ำเสมอ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า GI ยิ่งขึ้น

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top