นางพิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 มีแนวโน้มชะลอตัวลง และอาจส่งผลต่อเนื่องถึงปี 2569 จากปัจจัยสำคัญของผลกระทบภาคการส่งออกจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ ซึ่งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจดังกล่าวส่งผลให้อุตสาหกรรมสินเชื่อหดตัวลง และผู้บริโภคยังระมัดระวังการใช้จ่าย
อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิจากการดำเนินงานหลักของเคทีซียังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและควบคุมต้นทุน ภายใต้กลยุทธ์การขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมเร่งพัฒนาแพลตฟอร์มและระบบบริการ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของสมาชิก เพิ่มความคล่องตัวในการให้บริการ ควบคู่การบริหารคุณภาพสินทรัพย์อย่างรอบคอบ เพื่อรักษาความมั่นคงของพอร์ตสินเชื่อในระยะยาว และสร้างความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนในทุกมิติ
โดยกลุ่มบริษัทเคทีซียังรักษาฐานรายได้รวมไว้อย่างมั่นคงจากช่วงเดียวกันของปี 2567 โดยในงวดไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 6,906 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% จากรายได้ดอกเบี้ยตามการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อ ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น และการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีค่าใช้จ่ายรวม 4,343 ล้านบาท ลดลง 4.0% จากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง ซึ่งเป็นผลจากการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี และค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ลดลงจากการบริหารเงินกู้ยืมที่สอดคล้องกับการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อ ส่งผลให้สามารถทำกำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 เท่ากับ 1,951 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7%
ในขณะที่กำไรงวด 9 เดือนของปี 2568 อยู่ที่ 5,707 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8% และยังคงรักษาระดับเงินสำรองที่แข็งแกร่งและเพียงพอ ซึ่งสะท้อนได้จาก NPL ratio ของกลุ่มบริษัทเคทีซีไม่เกินกว่าอัตราที่ได้ตั้งเป้าไว้ อย่างไรก็ตามเคทีซียังให้ความสำคัญกับการติดตามสภาวะเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์และดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง
ทั้งนี้ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 เคทีซีมีฐานสมาชิกรวม 3,608,017 บัญชี เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวม 106,913 ล้านบาท ขยายตัว 0.7% อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL) ลดลงอยู่ที่ 1.85% จำนวนสมาชิกบัตรเครดิต 2,903,481 บัตร เพิ่มขึ้น 5.3% เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้บัตรเครดิตและดอกเบี้ยค้างรับรวม 69,451 ล้านบาท ขยายตัว 0.5% NPL บัตรเครดิตอยู่ที่ 1.15% ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตร 9 เดือนของปี 2568 มูลค่า 219,572 ล้านบาท ขยายตัว 3.8% สมาชิกสินเชื่อบุคคลเคทีซี 704,536 บัญชี เพิ่มขึ้น 2.5% เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สินเชื่อบุคคลและดอกเบี้ยค้างรับรวม 35,836 ล้านบาท(ขยายตัว 3.0% NPL สินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 2.40% และมียอดสินเชื่อใหม่ของ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” 1,650 ล้านบาท ในส่วนของลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อในบริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง จำกัด (KTBL) มีมูลค่า 1,627 ล้านบาท ลดลง 28.8% ซึ่งเคทีซีได้หยุดปล่อยสินเชื่อประเภทนี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 ปัจจุบันมุ่งเน้นการติดตามหนี้และบริหารจัดการคุณภาพพอร์ตสินเชื่อที่มีอยู่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี