อุตสาหกรรมกุ้งเจอศึกหนัก SCB EICคาดปีหน้าส่งออกหดตัว2.6%

อุตสาหกรรมกุ้งเจอศึกหนัก SCB EICคาดปีหน้าส่งออกหดตัว2.6%

วันพุธ ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

 

นางสาวโชติกา ชุ่มมี  ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการผลิต ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) วิเคราะห์แนวโน้มอุตสาหกรรมกุ้งมูลค่าส่งออกกุ้งของไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2025 อยู่ที่ 713.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐขยายตัว 1.8%YOY รับแรงหนุนจากการส่งออกกุ้งแปรรูปไปยังตลาดหลักทั้งญี่ปุ่นและสหรัฐฯที่เติบโตดีโดยเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ส่วนหนึ่งได้รับอานิสงส์จากการเร่งนำเข้ากุ้งของคู่ค้าฝั่งสหรัฐฯ ก่อนที่ภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariffs) เต็มรูปแบบจะเริ่มมีผลบังคับใช้


นอกจากนี้ ผู้นำเข้าสหรัฐฯ บางส่วนยังมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานด้วยการหันมาสั่งซื้อกุ้งจากซัพพลายเออร์ไทยมากขึ้น เพื่อทดแทนการนำเข้ากุ้งจากคู่แข่งบางประเทศ เช่น อินเดีย ซึ่งจะโดนเก็บภาษีตอบโต้ในระดับที่สูงกว่าไทยค่อนข้างมาก

สำหรับทิศทางอุตสาหกรรมกุ้งในช่วงที่เหลือของปีนี้และในระยะต่อไป มีแนวโน้มเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงด้านลบ (Downside risks) มากขึ้น โดยเฉพาะจากผลกระทบของนโยบายภาษีทรัมป์ที่คาดว่าจะเริ่มเห็นผลชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4/2025 เป็นต้นไป เนื่องจากอัตราภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นจะทำให้ต้นทุนการนำเข้ากุ้งของคู่ค้าสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะยิ่งกดดันความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของกุ้งไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอื่นที่โดนเก็บภาษีในระดับใกล้เคียงกันหรือต่ำกว่า เนื่องจากไทยมีต้นทุนการผลิตกุ้งที่สูงกว่าคู่แข่งอื่นในตลาดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นอกจากนี้ ผู้นำเข้ากุ้งฝั่งสหรัฐฯ ยังอาจต้องมีการปรับขึ้นราคาขายเพื่อส่งผ่านภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น (Cost pass-through) บางส่วนไปยังผู้บริโภค ซึ่งจะกระทบต่อกำลังซื้อและอุปสงค์ในสินค้ากุ้ง และทำให้คำสั่งซื้อจากไทยชะลอลงได้ในระยะต่อไป

ประเด็นความเสี่ยงเหล่านี้ทำให้ภาพรวมการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมกุ้งในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้าอยู่ในภาวะเปราะบางต่อเนื่อง โดย SCB EIC คาดการณ์ว่าการส่งออกกุ้งในปี 2025 มีแนวโน้มหดตัวเล็กน้อยที่ -0.4%YOY จากอุปสงค์ในตลาดสหรัฐฯ ที่จะเริ่มแผ่วลงในช่วงปลายปี หลังจากที่มีการเร่งนำเข้ากุ้งไปแล้วค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่สำหรับปี 2026 คาดว่าการส่งออกกุ้งของไทยจะยังหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ที่ -2.6%YOY  จากผลกระทบของ Reciprocal tariffs ที่ชัดเจนมากขึ้นรวมทั้งอุปสงค์จากตลาดส่งออกหลักอย่างจีนและญี่ปุ่นที่คาดว่าจะชะลอลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจ

นอกจากประเด็นความเสี่ยงทางการค้าจากกำแพงภาษีแล้วผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยังต้องเตรียมรับมือกับความท้าทายด้านอื่นๆร่วมด้วยไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นซึ่งจะยิ่งกดดันความสามารถในการแข่งขันด้านราคา เนื่องจากกุ้งเป็นสินค้าที่มีความอ่อนไหวด้านราคาสูง (Price sensitive) และเป็นสินค้าที่สามารถทดแทนกันได้ รวมทั้งกฎระเบียบการค้าโลกที่มีแนวโน้มเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแรงกดดันด้านการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตลอดห่วงโซ่การผลิตและตอบโจทย์เทรนด์การเลี้ยงกุ้งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อยกระดับศักยภาพการเติบโตและการแข่งขัน รวมทั้งต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเพื่อเตรียมรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการแข่งขันของสินค้านวัตกรรมทางเลือกใหม่ ๆ (Novel foods) ในตลาดสินค้าอาหารทะเลที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top