วิตกเหล็กจีนเข้าทุ่มตลาด ทำลาย supply chain อุตสาหกรรมไทย

วิตกเหล็กจีนเข้าทุ่มตลาด ทำลาย supply chain อุตสาหกรรมไทย

วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

นายฮิเดกิ โอกาวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทนิปปอน สตีล ( Nippon Steel ) บริษัทเหล็กรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก ได้กล่าวใน The Standard Economic Forum 2025 ว่า  ช่วงนี้หลายคนอาจไม่รู้ว่า เหล็ก ที่ดูเหมือนเป็นของพื้นฐานนี่แหละ กำลังกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเศรษฐกิจโลก  ตอนนี้โลกใช้เหล็กกว่า 1.7 พันล้านตันต่อปี ครึ่งหนึ่งอยู่ใน “งานก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน” ส่วนที่เหลือคือเครื่องจักร รถยนต์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งกล่าวได้ว่า ไม่มีเหล็ก ชีวิตเราก็แทบเดินต่อไม่ได้ แต่ปัญหาคือ “เหล็กล้นโลก” เพราะจีนในฐานะผู้ผลิตรายใหญ่สุด พอความต้องการในประเทศตก เขาก็เริ่ม “ระบายออก”ส่งเหล็กออกไปทั่วโลกในราคาถูก จนทำให้ราคาตลาดผันผวนหนัก ประเทศไหนที่ไม่มีอุตสาหกรรมเหล็กของตัวเอง หรือไม่มีห่วงโซ่การผลิตในประเทศ ก็ต้อง ซื้อเหล็กจากต่างประเทศในราคาที่สูงกว่า บางช่วงถึงขั้นของขาดผลิตไม่ทันตลาดด้วยซ้ำ

ทั้งนี้ถ้าเราปล่อยให้ supply chain อ่อนแอ วันหนึ่งมันจะพังทั้งระบบ ของถูกเข้ามาทำลายผู้ผลิตในประเทศ -พอเกิดวิกฤต ก็กลับไม่มีของใช้เอง -สุดท้าย ต้องจ่ายแพงกว่าใคร  ยกตัวอย่าง ประเทศไทย ที่ประเทศไทยคือประเทศในเอเชียที่มี supply chain อุตสาหกรรมยานยนต์ครบที่สุดในภูมิภาค ตอนโควิดทั่วโลกผลิตรถไม่ได้ แต่ไทยกลับ “ฟื้นตัวได้เร็วสุด” เพราะมีระบบซัพพลายเออร์กว่า 2,000 รายตั้งแต่โรงงานหลักไปจนถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนเล็ก ๆ นี่คือสิ่งที่เขาเรียกว่า “supply chain แข็งแรง  ข้อมูลจากปี 2022 ยังยืนยันด้วยตัวเลขว่า ไทยส่งออกสินค้ารวม 324 พันล้านดอลลาร์ โดยกว่า 73% เป็นสินค้าจากการผลิต เวียดนามก็สูงไม่แพ้กันที่ 85% แต่ถ้าเทียบกับประเทศที่ supply chain ยังไม่แน่น อย่างเมียนมา (44%) หรือ ลาว (33%) จะเห็นเลยว่าส่งออกได้ต่างกันชัดเจน 


“ประเทศที่มีห่วงโซ่อุตสาหกรรมหนาแน่น คือประเทศที่ขับเคลื่อนการส่งออกได้จริง แล้วทำไม “ไทย” ถึงถูกมองว่ายังมีโอกาสอีกเยอะ? เพราะตอนนี้ไทยมี 2 จุดแข็งที่ประเทศอื่นอิจฉา 1.ห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่มั่นคงอยู่แล้ว ไทยสามารถผลิตและประกอบในประเทศได้หลายขั้นตอน ทำให้ไม่ต้องพึ่งนำเข้ามากเท่าประเทศเพื่อนบ้าน 2.ตำแหน่งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เป็นกลาง (neutral) ไทยไม่ได้อยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งในสงครามการค้าหรือภูมิการเมือง ซึ่งทำให้นักลงทุนต่างชาติยัง “ไว้ใจไทย” มากกว่าหลายประเทศในเอเชีย ” นายฮิเดกิ กล่าว

นายฮิเดกิ กล่าวย้ำว่า “supply chain ที่ดี ไม่ได้แค่ช่วยอุตสาหกรรมยืนได้ แต่ช่วยให้ประเทศยืนได้ แม้ในวันที่โลกไม่มั่นคง”  ฟังแล้วผมรู้สึกเลยครับว่าหลายครั้งเรามองข้ามสิ่งที่เรามี แต่คนต่างชาติกลับเห็นว่า “ไทย” ยังมีศักยภาพอีกมาก ถ้าเรารักษาระบบอุตสาหกรรมที่เข้มแข็งนี้ไว้ได้ประเทศไทยอาจกลายเป็น “จุดศูนย์กลางการผลิตแห่งใหม่ของเอเชีย”โดยที่เราไม่ต้องแข่งด้วยค่าแรงถูก แต่แข่งด้วย “โครงสร้างที่ยั่งยืนกว่า” ถ้าวันหนึ่ง supply chain ไทยแข็งแรงเท่าญี่ปุ่นหรือเกาหลี อนาคตเศรษฐกิจเราจะไปได้ไกลอีกมาก  

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top