นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า  จากการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ ช่วงครึ่งปีแรก 2568  ภาพรวมยอดขายใหม่ทั่วประเทศยังชะลอตัวต่อเนื่อง โดยลดลงกว่า 29.3% ส่งผลให้หน่วยเหลือขายเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 234,315 หน่วย มูลค่ารวมเกือบ 1,490,923 ล้านบาท โดยเฉพาะอาคารชุดในพื้นที่กรุงเทพฯ–ปริมณฑล ซึ่งมีสัดส่วนเหลือขายสูงที่สุดในประเทศ กลุ่มที่น่ากังวลที่สุดคือระดับราคากลางล่าง 2–3 ล้านบาท และ 3–5 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังซื้อเปราะบางและได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอมากที่สุด

อย่างไรก็ตามแม้ผู้ประกอบการจะเปิดโครงการใหม่ลดลงถึงเกือบครึ่ง 46%  เพื่อระบายสต๊อกเก่า แต่จำนวนยอดขายกลับไม่ฟื้นตัว ทำให้สินค้าคงค้างเพิ่มขึ้นทุกประเภท ทั้งคอนโดฯ ทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว และบ้านแฝด โดยเฉพาะคอนโดฯ ซึ่งมีสัดส่วนเหลือขายมากถึง 37.8% ของตลาดทั้งหมด

โดยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่ามีหน่วยเหลือขายสะสมกว่า 93,600 หน่วย เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยของโครงการใหม่ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับยอดขายที่ชะลอ สะท้อนภาระต้นทุนของผู้ประกอบการที่ยังอยู่ในระดับสูง

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าปี 2568  ในพื้นที่กรุงเทพฯ - ปริมณฑลจะมีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ จำนวน 52,000 หน่วย ลดลง 17.2%  จากปี 2567 ซึ่งเป็นช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด และคาดว่าจะมีมูลค่าที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ประมาณ 390,000 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -22.2 จากปี 2567 ที่มีจำนวน 62,771 หน่วย และมีมูลค่า 500,968 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่าตลาดที่อยู่อาศัยปี 2568 ยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ยังคงชะลอตัว โดยปัจจัยสนับสนุนตลาดยังคงเป็นเรื่องมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และจดจำนอง รวมถึงการผ่อนคลาย LTV ซึ่งมีผลถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลง

ขณะเดียวกันรัฐบาลมีโนบายสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำผ่านธนาคารของรัฐ แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงคือ เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังที่มีแนวโน้มชะลอตัว ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของผู้ประกอบการรายกลาง และรายเล็ก จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง กำลังซื้อต่างชาติที่ลดลง การลงทุนพัฒนาโครงการใหม่จำเป็น ต้องพิจารณาสินค้าคงเหลือขายในแต่ละทำเล และในแต่ละระดับราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มราคา 2 – 3ล้านบาท  ที่มีจำนวนสูงถึง 17,268 หน่วย 27.1% ของจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จเหลือขายทั้งหมด ผู้ประกอบการต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าสู่ตลาดมากขึ้นสำหรับที่อยู่อาศัยกลุ่มนี้ โดยรวม REIC ประเมินว่า ยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งปี 2568 ยังมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดราคากลางล่างที่มีสต๊อกคงค้างจำนวนมากในปัจจุบัน

- 030