‘เซ็นทรัลพัฒนา’ ขยายพอร์ตรุกบ้านเดี่ยว 13 โครงการ มูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้าน

‘เซ็นทรัลพัฒนา’ ขยายพอร์ตรุกบ้านเดี่ยว 13 โครงการ มูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้าน

วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 11.52 น.

ร.อ. กรี เดชชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจที่อยู่อาศัย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์ ดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมากว่า 10 ปี โดยเริ่มจากคอนโดมิเนียม ภายใต้แบรนด์ Escent ใน 3 ทำเลแรก ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น และระยอง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สามารถปิดการขายได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว จากนั้นได้ขยายการพัฒนาทั้งโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมไปยังหัวเมืองต่างๆ กว่า 20 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมต่อยอดสู่การพัฒนา ‘บ้านเซ็นทรัล’ โซนกรุงเทพฯ อย่างแข็งแกร่ง

“เราไม่ได้มองตัวเองเป็นแค่ผู้พัฒนาอสังหาฯ แต่เป็น Lifestyle Creator ที่สร้างวิถีชีวิตและรูปแบบการอยู่อาศัยแบบใหม่ ผ่าน 3  กลยุทธ์หลัก ได้แก่ Location-Led Strategy – การเลือกทำเลศักยภาพให้กลายเป็นพื้นที่อยู่อาศัยคุณภาพ, Brand Portfolio Strategy - การสร้างเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์อย่างชัดเจนเพื่อตอบโจทย์แต่ละกลุ่มเป้าหมาย และ Customer-Centric Experience - การสร้างประสบการณ์ก่อนและหลังการขาย ผ่านบริการและนวัตกรรมต่างๆ รวมทั้งสิทธิพิเศษที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ลูกค้าไม่ว่าจะเป็น Eat-Play-Stay-Shop เพื่อให้ ‘บ้านเซ็นทรัล’ เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในใจลูกค้า”


นอกจากกลยุทธ์ดังกล่าวแล้ว สิ่งที่ทำให้ “บ้านเซ็นทรัล” แตกต่างจากคู่แข่ง คือ มาตรฐาน Best of Best  ที่เราใส่ใจครบมิติในการอยู่อาศัย ได้แก่ 1) Structure & System : ระบบโครงสร้างที่แข็งแรงและออกแบบเพื่อการอยู่อาศัยระยะยาว เน้นความใส่ใจในทุกรายละเอียดด้านงานก่อสร้าง การวางระบบโครงสร้างพื้นฐาน ไปจนถึงพื้นที่การใช้งาน อาทิ Seismic Test – เสาทุกต้นผ่านการทดสอบความสมบูรณ์ตามมาตรฐานของโครงการ, Conventional System - การใช้ระบบก่ออิฐด้วยอิฐมวลเบา ที่มีความแข็งแรง ทนทานสูง และยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนพื้นที่ในอนาคต, Slab on Beam – พื้นจอดรถถูกออกแบบวางบนคานป้องกันการทรุดตัว, Sanitary System  - การเดินท่อประปาเหนือฝ้าเพื่อง่ายต่อการซ่อมบำรุง,   Flood Protection ระบบป้องกันน้ำท่วมแบบครบวงจร เป็นต้น

2) Privacy & Security ระบบความปลอดภัยถึง 7 ระดับเพื่อความอุ่นใจในการอยู่อาศัย ได้แก่ Double Gate แยกโซน Resident และ Visitor, License Plate Recognition Access Control ระบบตรวจจับป้ายทะเบียนอัตโนมัติ, VMS (Visitor Management System) ระบบบันทึกข้อมูล สำหรับ Visitors ที่มาติดต่อ รวดเร็ว และแม่นยำ, SECURITY 24 ชั่วโมง, CCTV ติดตั้งกล้องวงจรปิดครอบคลุมทุกพื้นที่ และรั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร รวมทั้ง Magnetic Sensor & Shock Sensor ที่ประตู-หน้าต่าง ตรวจสอบการเปิด - ปิด และตรวจจับแรงสั่นสะเทือน ของบานประตูและหน้าต่าง

3) Privilege & After Sales Service บริการและประสบการณ์หลังการขายที่สร้างความผูกพันระยะยาวกับลูกค้า ลูกบ้านจะได้รับสิทธิพิเศษในฐานะ Central Citizens โดยรับสิทธิพิเศษจากเครือเซ็นทรัล เพื่อเติมเต็มคุณภาพชีวิตในทุกมิติ อาทิ บริการช่องจอดรถพิเศษเฉพาะลูกบ้านในศูนย์การค้าเซ็นทรัล, ส่วนลดและสิทธิพิเศษ จากแบรนด์ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป เช่น Tops, Robinson, Powerbuy, Centara Hotel นอกจากนี้ในด้านบริการหลังการขาย เรายังมี ทีมบริหารนิติบุคคลมืออาชีพจากเซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์ คอยดูแลบริการหลังการขายอย่างครบวงจร และอำนวยความสะดวกลูกค้าผ่านแอปพลิเคชั่น และมีบริการ Mr.Service สำหรับตรวจสอบคุณภาพบ้านและคอนโดฯ ทั้งภายในและภายนอก รวมถึงตรวจระบบน้ำ ไฟ และประปา

ร.อ. กรี เดชชัย กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้บ้านเซ็นทรัลแตกต่าง นอกเหนือจากกลยุทธ์ที่กล่าวไปข้างต้น คือ คุณภาพงานก่อสร้างและรายละเอียดในการพัฒนาโครงการที่ผมและทีมงานใส่ใจในทุกขั้นตอน เพราะในฐานะวิศวกร ผมเชื่อว่าบ้านที่ดีต้องอยู่ได้ดี มีคุณภาพและอยู่ได้จริงในระยะยาว และนั่นคือหัวใจของการพัฒนาโครงการทุกหลังของเรา

ปัจจุบัน เซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์ พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ ไปแล้วถึง 13 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 25,340 ล้านบาท ครอบคลุม โดยโครงการดังกล่าว ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ภายใต้ 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ นิยาม บ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ราคา 25–40 ล้านบาท ถ่ายทอดความหรูหราสง่างามในสไตล์ Modern Classic, บ้านนิรดา บ้านระดับ Luxury ราคา 20–30 ล้านบาท ที่สะท้อนความภาคภูมิใจในการใช้ชีวิตและเน้นความเป็นส่วนตัวสูงสุด, บ้านนินญา บ้านระดับ Premium ราคา 10–20 ล้านบาท ผสานความโมเดิร์นกับธรรมชาติ พร้อมออกแบบฟังก์ชั่นอย่างมีเอกลักษณ์ตอบโจทย์วิถีชีวิตครอบครัวรุ่นใหม่ และ บ้านนิรติ บ้านระดับ Upper Class ราคา 7–15 ล้านบาท เน้นการออกแบบสภาพแวดล้อมที่ร่มรื่น ปลอดภัย เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่เริ่มสร้างครอบครัว ซึ่งทั้ง 4 แบรนด์สะท้อนเอกลักษณ์และมาตรฐานแบบเดียวกันของเซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์ ที่ให้ความสำคัญทั้งโครงสร้าง ความปลอดภัย และดีไซน์ เพื่อให้ลูกค้าเชื่อมั่นในคุณภาพระดับ “บ้านเซ็นทรัล” อย่างแท้จริง

ทั้งนี้ เซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์ ได้วางแผนการขยายพอร์ตบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ ให้เติบโตอย่างเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เปิดตัวไปแล้ว 1 โครงการใหม่ ได้แก่ บ้านนินญา กรุงเทพกรีฑา – มอเตอร์เวย์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และกำลังเตรียมเปิดตัว บ้านนินญา รามอินทรา 83 ในช่วงสิ้นเดือน พ.ย.นี้ ด้วยแบบบ้านแนวคิดใหม่ที่ออกแบบจาก “แรงบันดาลใจและรูปแบบการใช้ชีวิตจริง” ของครอบครัวยุคใหม่ บนทำเลศักยภาพที่เชื่อมต่อเมืองได้สะดวกในโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ โดยทั้ง  2 โครงการมีมูลค่ารวมกว่า 4,100 ล้านบาท

“การขยายพอร์ตบ้านเดี่ยวของเซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญ ที่สะท้อนถึงการเติบโตร่วมกับโมเดล Retail-Led Mixed-Use Development ที่เป็นกลยุทธ์หลักของเซ็นทรัลพัฒนา เพื่อต่อยอด Ecosystem ของธุรกิจที่อยู่อาศัย ที่เชื่อมโยงกับศูนย์การค้าและโครงการมิกซ์ยูสของบริษัทฯ ทั่วประเทศ เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตของลูกค้าภายใต้แนวคิด Imagining Better Living อย่างยั่งยืน” ร.อ.กรี เดชชัย กล่าว

 

-031

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top