วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยว่าสหรัฐฯ เป็นตลาดนำเข้าสำคัญของไมโครเวฟจากไทย โดยไทยอยู่ในอันดับ 3 ของผู้ส่งออกไมโครเวฟไปยังสหรัฐฯ รองจากจีนและมาเลเซีย ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ยังเป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 ของไทย โดยคิดเป็น 1 ใน 4 ของมูลค่าการส่งออกรวม ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 ไทยส่งออกไมโครเวฟไปยังสหรัฐฯ คิดเป็น 27% ของมูลค่าการส่งออกรวม อย่างไรก็ตาม การนำเข้าไมโครเวฟของสหรัฐฯ จากไทยยังอยู่ในระดับต่ำเพียง 2% ในขณะที่จีนยังคงเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุด โดยมีส่วนแบ่งมากกว่า 90%
ไมโครเวฟที่ไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มแบรนด์ญี่ปุ่น โดยเน้นตลาดระดับกลางถึงพรีเมียม และมักเป็น รุ่นเชิงพาณิชย์ หรือ รุ่นเฉพาะทาง แตกต่างจากสินค้าจากจีนที่ส่วนใหญ่เน้นปริมาณและเจาะตลาดแมสในระดับราคาประหยัดถึงปานกลาง ในขณะเดียวกัน การผลิตไมโครเวฟภายในประเทศของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในวงจำกัด โดยส่วนมากมุ่งเน้นไปที่ผลิตรุ่นระดับไฮเอนด์ เช่น ไมโครเวฟแบบติดตั้งกับตู้ครัว (built-in)
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาก่อนสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้า จีนครองส่วนแบ่งการนำเข้าไมโครเวฟในสหรัฐฯ เกือบทั้งหมด โดยส่วนแบ่งตลาดได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจีนสามารถผลิตไมโครเวฟด้วยต้นทุนต่ำและปริมาณการผลิตสูง ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ มีแนวโน้มการนำเข้าไมโครเวฟจากมาเลเซียลดลง เนื่องจากจีนเข้ามามีบทบาทสำคัญและแย่งส่วนแบ่งตลาดจากมาเลเซีย ในขณะที่การส่งออกไมโครเวฟจากไทยไปยังสหรัฐฯ ขยายตัว เนื่องจากราคานำเข้าเฉลี่ยของไมโครเวฟจากไทยลดลงในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่ ราคานำเข้าจากมาเลเซียกลับปรับตัวเพิ่มขึ้น
การส่งออกไมโครเวฟของไทยไปยังสหรัฐฯ ในช่วงเดือนเมษายน-กรกฎาคม 2568 มีทิศทางเพิ่มขึ้น ขณะที่จีนหดตัวเนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ที่อัตราเพียง 10% ทำให้ไทยถูกเก็บอัตราภาษีนำเข้ารวมที่ 12% ขณะที่ จีนถูกเก็บสูงถึง 32% ไมโครเวฟจากจีนส่วนใหญ่เป็นสินค้าราคาประหยัด ซึ่งมีกลุ่มผู้บริโภคที่อ่อนไหวต่อราคาสูง จึงได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ในทางตรงกันข้าม ไมโครเวฟจากไทยส่วนใหญ่เป็น รุ่นเฉพาะทางหรือรุ่นเชิงพาณิชย์ ซึ่งจำหน่ายในตลาดระดับกลางถึงพรีเมียม จึงมีความอ่อนไหวต่อราคาต่ำกว่า
หลังวันที่ 1 สิงหาคม 2568 สหรัฐฯ เริ่มเรียกเก็บภาษี Reciprocal จากไทยในอัตรา 19% ส่งผลให้อัตราภาษีนำเข้ารวมเพิ่มเป็น 21% ขณะที่จีนได้รับการลดอัตราภาษี IEEPA (fentanyl) เหลือ 10% ทำให้อัตราภาษีนำเข้ารวมของจีนอยู่ที่ 22% ทำให้ราคานำเข้าไมโครเวฟจากไทยปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาของจีนปรับลดลง ส่งผลให้ในช่วงที่เหลือของปี การส่งออกไมโครเวฟจากไทยไปสหรัฐฯ น่าจะมีทิศทางลดลง อย่างไรก็ดี ภาพรวมการส่งออกไมโครเวฟไทยไปสหรัฐฯ ในปี 2568 คาดว่าจะเติบโต 2.8%
สำหรับปี 2569 ซึ่งเป็นปีแรกที่สหรัฐฯ บังคับใช้ภาษีนำเข้า 21% กับไทยตลอดทั้งปี ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า มูลค่าการส่งออกไมโครเวฟของไทยไปยังสหรัฐฯ จะหดตัวราว 4%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี