nn ขอยกย่องและเป็นกำลังใจให้...คุณกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร...ที่ตั้งใจและยึดมั่นต่อหน้าที่ในการอุดช่องโหว่จุดรั่วไหลภาษีอากร...ซึ่งตั้งแต่เข้ารับหน้าที่จนถึงวันนี้...ก็พิสูจน์ให้เห็นหลายกรณีที่สามารถรักษาผลประโยชน์ของชาติไว้ได้มากมายมหาศาล...แม้ว่าขณะนี้จะถูกฟ้องร้องจากพวกนำเข้าหลายราย...ที่ถูกกรมศุลกากรเข้าไปดำเนินการตามกฎหมายฐานที่หลบเลี่ยงภาษีอากร...โดยเฉพาะผู้นำเข้าเหล็ก...!!แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ทำให้ คุณกุลิศ..หวั่นไหวแต่อย่างใดเลยแม้แต่น้อย...ยังคงยึดมั่นในหน้าที่และมุ่งจะรักษาผลประโยชน์ของชาติต่อไป...!1 อย่างรายล่าสุดนี้...บริษัทร่วมทุนไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทของค่ายรถยนต์รายใหญ่แห่งหนึ่ง....ที่ถูกกรมศุลกากรดำเนินการเรียกเก็บอากรที่ขาด 1.5 พันล้านบาท...เนื่องจากละเมิดพ.ร.บ.มาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (เซฟการ์ด) พ.ศ.2550...เพราะนำสินค้านำเข้าคือเหล็กฯไปขายกับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ซึ่งไม่ได้รับการยกเว้น อากรเซฟการ์ด...!! ขู่ฟ้องว่าจะดำเนินการทางคดีอาญา...ต่ออธิบดีกรมศุลกากร และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง...หากว่ายังไม่ระงับคำสั่งการเรียกเก็บอากร...!!ท่านผู้อ่าน...ยังคงจำกันได้กับกรณีนี้ที่ “แนวหน้า โลกธุรกิจ”...เกาะติดเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2557...อธิบดีกรมศุลกากรคนก่อน...คือ ดร.สมชัย สัจจพงษ์...ที่ตอนนี้ไปนั่งเป็นปลัดกระทรวงการคลัง...ก็เริ่มทำการสอบสวนเก็บรวบรวมหลักฐานมาตลอด...และเมื่อได้รับการแต่งตั้งไปเป็นปลัดกระทรวงการคลัง..ก็ได้มอบหมายให้คุณกุลิศ สานต่อเรื่องนี้ และ ดร.สมชัย..ในฐานะหัวหน้ากระทรวง...ก็คอยติดตามและมอบเป็นนโยบายไว้ว่าให้กรมศุลกากร...รักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของชาติให้จงได้...จนกระทั่งมาถึงเมื่อช่วงปี 2559..เมื่อกรมศุลกากรมั่นใจในหลักฐานที่พบว่ามีการกระทำเพื่อหลบเลี่ยงอากรเซฟการ์ดจริงจึงได้สั่งการเรียกเก็บอากรที่ขาด...และเมื่อบริษัทนำเข้าที่ว่านี้ยังไม่ยอมรับคำสั่ง...เรื่องจึงมาอยู่ที่ศาลภาษีอากรกลาง...ในปัจจุบัน...!! อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้กินเวลามานานกว่า 2 ปี...เหตุก็เพราะว่าบริษัทแห่งนี้...พยายามดิ้นรนต่อสู้ในทุกรูปแบบ...ทั้งถ่วงเวลาด้วยการไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบหลากรูปแบบ...กระทำแม้กระทั่งไปแอบอ้าง...ไปล็อบบี้ลูกค้ารายหนึ่งที่ซื้อเหล็กจากตนเองไปซึ่งได้ยอมที่จ่ายอากรที่ขาดให้กับกรมศุลกากร..ว่าอย่าเพิ่งยอมจ่ายตอนนี้เพราะเกรงว่าจะสาวมาถึงตน....หรือหนักข้อถึงขั้นไปแอบอ้างรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล คสช.มาข่มขู่....จนมาถึงล่าสุดที่ทำหนังสือถึงศุลกากรว่าจะดำเนินการทางคดีกับอธิบดี...โดยยกข้ออ้างที่ไม่มีเหตุผลพอที่จะฟังได้เลยแม้แต่น้อย...!! ถึงวันนี้ถ้ารัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา...ยังยึดมั่นในนโยบายการปราบปรามคอร์รัปชั่น... ยึดมั่นในหลักการการบริหารประเทศด้วยความโปร่งใส...ท่านนายกฯก็ต้องไม่ยอมให้ใครมาข่มขู่รังแก...ข้าราชการที่ซื่อสัตย์และตั้งใจจะรักษาผลประโยชน์ของชาติ...อย่างเช่น คุณกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร....nn

อนันตเดช พงษ์พันธุ์