nn แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกยังดูไม่สดใสนัก แต่ก็ต้องบอกว่า ภาคการท่องเที่ยวของไทยก็ยังพอให้หวังได้บ้างว่าจะช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยแม้ว่าอัตราการขยายตัวอาจจะไม่มากเหมือนช่วง 3-4 ปีก่อนก็ตาม...แต่ถึงกระนั้นผลการสำรวจล่าสุดของ...มาสเตอร์การ์ด (GDCI)… ก็พอจะทำให้ใจชื้นขึ้นได้บ้าง เพราะกรุงเทพมหานครยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก...
Mastercard เป็น บริษัท เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมการชำระเงินระดับโลก เครือข่ายการประมวลผลการชำระเงินทั่วโลกของเราเชื่อมต่อผู้บริโภค สถาบันการเงิน ผู้ประกอบการ หน่วยงานรัฐบาล และธุรกิจในกว่า 210 ประเทศและดินแดนต่างๆ…และได้ทำการสำรวจจุดหมายปลายทางในเอเชียแปซิฟิกของมาสเตอร์การ์ด(APDI) ที่จัดอันดับเมือง 161 แห่ง โดยการวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลทุติยภูมิ เช่น จากสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (World Travel & TourismCouncil-WTTC) สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ(International Air Transport Association-IATA) องค์การท่องเที่ยวโลก (UNWTO) สหประชาชาติ IMF และคณะกรรมการการท่องเที่ยวของประเทศต่างๆ ข้อมูลจากภาครัฐถูกนำมาใช้เพื่อวิเคราะห์จำนวนนักเดินทางที่ค้างแรมและการจับจ่ายใช้สอยในประเทศต่างๆ ในเมืองจุดหมายปลายทางทั้ง 161 แห่ง และการคาดการณ์อยู่บนพื้นฐานของการคาดการณ์ด้านการท่องเที่ยวในแต่ละประเทศและตัวเลขจริงในแต่ละเดือนในปี 2019 จากเมืองเป้าหมาย ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลเหล่านี้ได้ในเดือนสุดท้ายก่อนการประกาศผลสำรวจ ข้อมูลและรายงานการสำรวจเหล่านี้ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของจำนวนและข้อมูลการทำธุรกรรมผ่านมาสเตอร์การ์ด
การสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางโลกของมาสเตอร์การ์ด (GDCI) ประกอบด้วยการสำรวจเพื่อข้อมูลเฉพาะของภูมิภาคคือ ผลสำรวจจุดหมายปลายทางในเอเชียแปซิฟิก หรือ APDI ซึ่งนับเป็นปีที่ 4แล้วที่กรุงเทพฯครองอันดับ 1 อย่างต่อเนื่องในการสำรวจทั่วโลก ซึ่งเป็นการจัดอันดับเมืองในแง่ของจำนวนนักเดินทางจากทั่วโลกที่มาพักแรม การจับจ่ายใช้สอยในระหว่างเดินทาง และข้อมูลน่าสนใจอื่นๆ กรุงเทพฯ ยังครองอันดับหนึ่งติดต่อกันเป็นปีที่ 9 ในผลสำรวจของเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย
ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวพักแรมในปี 2018 ในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2017 ซึ่งอยู่ที่ 21.1 ล้านคนทำให้นำสิงคโปร์ซึ่งอยู่ในอันดับสองด้วยจำนวนนักท่องเที่ยว 14.7 ล้านคน ในปี 2018 จุดหมายปลายทางอีก 2 แห่งในประเทศไทย หรือ ภูเก็ตและพัทยาก็อยู่ใน 10 อันดับเมืองยอดนิยมในเอเชียแปซิฟิกที่มีนักท่องเที่ยวมาค้างแรม โดยภูเก็ตอยู่ในอันดับ 7 (มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ค้างแรม 9.9 ล้านคน) และพัทยาอันดับ 8(9.4 ล้านคน) ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในเอเชียแปซิฟิกที่มีเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยวถึง 3 เมือง
นอกจากจัดอันดับให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองสุดยอดจุดหมายปลายทางในเอเชียแปซิฟิกแล้ว APDIในปีนี้ยังให้ข้อมูลที่น่าสนใจอื่นๆ เกี่ยวกับการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของไทยรวมทั้งข้อมูลเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทย ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินทางจากจีนแผ่นดินใหญ่ โดยร้อยละ 21.1 เลือกประเทศไทยเป็นเป้าหมายการเดินทางอันดับ 1 ตามมาด้วยญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของนักเดินทางประเภทพักค้างคืนจากมาเลเซียและอินเดียอีกด้วย ผลการสำรวจยังชี้ให้เห็นว่านักท่องเที่ยวไทยเดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคมากขึ้น โดยมาเลเซียเป็นประเทศที่คนไทยนิยมเดินทางไปเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยญี่ปุ่นและลาว
นอกจากนี้ ผลการสำรวจจาก APDI ระบุว่า จุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 แห่งในเอเชียแปซิฟิกของนักเดินทางทั่วโลกในปี 2018 คือ กรุงเทพฯ สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ โตเกียว และโซล โดยทั้ง 5 เมืองได้ต้อนรับนักเดินทางถึง 1 ใน 5 หรือ ร้อยละ 22 ของนักเดินทางประเภทค้างแรมที่เดินทางมายัง 161 เมืองและศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ ทั้ง 5 เมืองยังทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยของนักเดินทางจากทั่วโลกกว่า 1 ใน 4 หรือร้อยละ 25.2 ที่เดินทางมายังภูมิภาคนี้
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่เดินทางสำรวจทุกซอกมุมของภูมิภาคนี้มากเป็นประวัติการณ์ จนเปลี่ยนยักษ์ที่หลับมานานให้เป็นภูมิภาคยอดนิยมด้านการท่องเที่ยวและสร้างโอกาสที่ดีแก่รัฐบาล คณะกรรมการการท่องเที่ยว แบรนด์สินค้า และธุรกิจต่างๆ ในการวางแผนโปรโมทการท่องเที่ยว การเดินทางและการเสนอขายสินค้าต่างๆ นับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมานักท่องเที่ยวประเภทค้างแรมจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่เดินทางมายังเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้นจาก 10.5 ล้านคน เป็น62.4 ล้านคน ในปี 2018 เป็นอัตราการเติบโตประจำปีที่ร้อยละ 21.9 ในช่วงเวลาดังกล่าว เห็นได้ชัดว่า จีนแผ่นดินใหญ่เป็นหนึ่งในสามอันดับแรกของประเทศต้นทางของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายัง 82 เมืองในเอเชียแปซิฟิก หรือกว่าครึ่งของจุดหมายปลายทางทั้ง 161 แห่ง ใน APDI
ในปี 2018 เอเชียแปซิฟิกมีโอกาสต้อนรับนักเดินทางถึง 342.2 ล้านคน ที่เดินทางมายังภูมิภาคนี้ด้วยจุดประสงค์ทางธุรกิจและเพื่อการท่องเที่ยว เพิ่มจากปี 2009 ซึ่งมีนักท่องเที่ยว 159.1 ล้านคน ถือเป็นอัตราการเติบโตประจำปีที่ร้อยละ 8.9 ในช่วง 9 ปี และในช่วงเดียวกัน การใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยเพิ่มจาก 117.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 281.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตราการเติบโตประจำปีที่ร้อยละ 10.2
มาถึงตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่า ไม่ว่า เศรษฐกิจ ภูมิศาสตร์การเมือง และสังคมทั่วโลกจะเปลี่ยนไปแต่ความต้องการออกสำรวจโลกของผู้คนและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางออกนอกประเทศก็ยังมีอยู่แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเข้าใจด้วยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจะมีผลในทางที่ดี แต่ก็เป็นความท้าทายสำหรับเมืองและจุดหมายปลายทางเหล่านั้นด้วยเช่นกัน...เป็นความท้าทายของรัฐบาลที่จะบริหารจัดการบ้านเมืองของตนอย่างไรให้ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆต่อไป เป็นความท้าทายของภาคธุรกิจที่จะต้องวางแผนธุรกิจรวมทั้งจัดโปรโมชั่นและแคมเปญต่างๆ ให้สินค้าและบริการของตนตรงต่อความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวนักเดินทาง
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี