nn ถึงวันนี้...กระบวนการสรรหา...ผู้จัดการทั่วไป (ผู้บริหารสูงสุด) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)... คืบหน้าไปตามลำดับ...จากผู้ที่ยืนเข้ารับการสรรหา 6 ราย
ผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติ 5 ราย...และมี 4 รายที่ผู้เข้าแสดงวิสัยทัศน์และการสัมภาษณ์ จากกรรมการสรรหา....เสร็จสิ้นไปแล้ว เมื่อ 2-3 วันก่อน...ต่อจากนี้ก็อยู่ในขั้นตอนคัดเลือกของกรรมการสรรหา...หลังจากสรุปผลการคัดเลือกแล้ว บอร์ดสรรหา ก็จะนำเสนอ ต่อคณะกรรมการ (บอร์ด บสย.) เมื่อบอร์ด บสย.นัดประชุมเพื่อพิจารณาผลการสรรหาและอนุมัติเรียบร้อยแล้ว...ก็จะส่งเรื่องไปยัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ เมื่อ ธปท.ตรวจสอบแล้วเห็นว่ามีคุณสมบัติที่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของสถาบันการเงินของรัฐ...ต่อจากนั้นก็ต้องส่งเรื่องให้...สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อทำหน้าที่เจรจาต่อเรื่องสัญญาจ้างและผลตอบแทน...เมื่อผ่านทุกอย่างแล้ว...ขั้นตอนสุดท้ายก็ส่งเรื่องให้...คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงนามอนุมัติ...ผู้จัดการทั่วไป บยส.คนใหม่....ก็มีผลอย่างเป็นทางการ..ซึ่งกระบวนการทั้งหลายนี้น่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายนนี้...!! คราวนี้..แวดวงการเงิน...จะมาสแกนเหล่าว่าที่ ผู้จัดการทั่วไป บสย.คนใหม่ ว่าเป็นใครมาจากไหน มีคุณสมบัติพอจะเข้าหูเข้าตากันมากน้อยแค่ไหน...ตัวเต็งคนแรก...นั้นปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มงานลูกค้ารายย่อย...ดูแลงานทั้งด้านผลิตภัณฑ์เงินฝาก สินเชื่อ ลูกค้ารายย่อยทั้งบุคคลและธุรกิจขนาดย่อม (SMEs นั่นเอง)....รายที่สอง...ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ดูแลงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร งานด้านการวิจัยและพัฒนา ฯลฯ…รายที่สาม...
ที่เขาว่ากันว่า (แต่ไม่ใช่สำหรับแวดวงการเงิน) ต้องจับตาดู...นั้นมาจากสถาบันการบริหารจัดการธนาคารที่ดิน ภายใต้การกำกับสำนักนายกรัฐมนตรี....!! แวดวงการเงิน...เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณอาคม...เมื่อคราวไปเป็นประธานการมอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงานให้ แก่คณะกรรมการ และผู้บริหารระดับสูง ของ บสย.ในการประชุมหารือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)...โดยเฉพาะในประเด็นที่คุณอาคมได้มอบนโยบายสำคัญไว้ว่า...บสย.นั้นมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs...และต้องเร่งให้ SMEs กลุ่มเป้าหมายได้ทราบถึงมาตรการค้ำประกันสินเชื่อตามนโยบายรัฐมากขึ้น...โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ต้องให้เข้าถึงแหล่งทุนได้มากที่สุด....แวดวงการเงิน...สนับสนุนเต็มที่เพราะว่าในวิกฤตโควิดครั้งนี้ต้องยอมรับว่าไทยยังไม่พ้นวิกฤตการระบาด...แม้ว่าตอนนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในระลอก 3 จะลดลงมาบ้างในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา...แต่ในวงการแพทย์เขา...เตรียมรับมือการระบาดระลอก 4 ระลอก 5 กันไว้แล้ว...เพราะเขาเชื่อว่ามาแน่...!! ขนาดระบาดระลอก 3ประเทศไทยยังถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่จะฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้ช้าที่สุดในอันดับท้ายๆ ของโลก....นึกภาพไม่ออกเลยว่าถ้ายังเกิดการระบาดระลอกใหม่อยู่เรื่อยๆ...เศรษฐกิจไทยจะเหลือซากอะไร...และผู้ประกอบการ SMEs จะมีแรงทนอยู่ไปได้อย่างไรต่อไป...!!ในเมื่อ บสย.มีบทบาทสำคัญ ต่อ SMEs…ยามนี้ บสย.ก็จำเป็นเหลือเกินที่ต้องมีผู้นำที่นำพา บสย.ให้สามารถเขาไปช่วย SMEs ตามนโยบายที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้ได้อย่างทันท่วงที.... nn
อนันตเดช พงษ์พันธุ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี