“คิดใหญ่ ทำเป็น” ฟังสโลแกนของพรรคเพื่อไทยแล้วขำไม่ออก
ไม่บ้าก็บอ-พิลึกและพิกล กับการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และรองนายกรัฐมนตรีชื่อ“ภูมิธรรม เวชยชัย” ไปยืนกิน “ข้าวเน่า” สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โชว์ออกสื่อให้เป็นข่าวใหญ่ข่าวดัง จะด้วยจุดประสงค์อะไรก็ตาม แต่สามารถมองได้ว่าเพื่อต้องการ “ฟอกขาว” ให้แก่ยิ่งลักษณ์เป็นประเด็นหลัก
“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เผ่นหนีคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว โดยไม่ยอมไปฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่25 สิงหาคม 2560 ทั้งนี้ ยิ่งลักษณ์ได้ให้ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลฯว่า “ป่วยด้วยโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน”แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ยิ่งลักษณ์ได้หลบหนีออกจากประเทศไทยไปก่อนหน้าแล้ว ปล่อยให้รัฐมนตรีที่เป็นข้าทาสบริวารของ “ตระกูลชินวัตร” ต้องติดคุกเป็นทิวแถว
ในเวลาต่อมาศาลฎีกาฯจึงได้อ่านคำพิพากษาลับหลังเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 สั่งจำคุก “ยิ่งลักษณ์ชินวัตร” 5 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมออกหมายจับ รวมเวลานับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ยิ่งลักษณ์ได้หนีไปเป็นสัมภเวสีอยู่ในต่างประเทศ 6 ปี กับ 8 เดือน ระหว่างนี้ก็รอให้พี่ชายคือนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ใช้อิทธิฤทธิ์ครอบงำแทรกแซงเพื่อให้ตนเองได้กลับเข้ามาประเทศไทยโดยไม่ต้องติดคุก
คนทั่วไปจึงมองว่า การแสดงจำอวดกิน “ข้าวเน่าสมัยยิ่งลักษณ์” โชว์ให้เป็นข่าวของนายภูมิธรรม เวชยชัย จึงเป็นฉากหนึ่งในกระบวนการ “พายิ่งลักษณ์กลับบ้าน” โดยไม่ต้องติดคุก ทั้งฟอกขาวฟอกกลิ่นให้สะอาดบริสุทธิ์หมดจด
เกี่ยวกับเรื่องข้าว “เน่าของยิ่งลักษณ์” กระทรวงการคลัง เคยมีคำสั่งทางปกครองบังคับให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ชดใช้ค่าเสียหายจากการทุจริตในคดีนี้เป็นเงินถึง 3.5 หมื่นล้านบาทมาแล้ว แต่ปรากฏว่าในปี 2564 ศาลปกครองกลางได้สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ให้ยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าว พร้อมทั้งเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์สินของยิ่งลักษณ์เพื่อดำเนินการขายทอดตลาดด้วย
ผู้สื่อข่าวถามนายภูมิธรรม เวชยชัย ว่าการเคลียร์ “ข้าวเน่าของยิ่งลักษณ์” ออกจากโกดังเพื่อขายทอดตลาดในครั้งนี้เกี่ยวเนื่องกับกระแสข่าวการเดินทางกลับประเทศไทยของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ใช่หรือไม่ แน่นอนนายภูมิธรรมย่อมต้องปฏิเสธ โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “อันนี้คือเอาจินตนาการมาชี้นำความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเรายังไม่รู้เลยว่า ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร คุณยิ่งลักษณ์จะกลับ หรือไม่กลับก็ไม่เกี่ยวกันกับเรื่องนี้”
ภาพที่นายภูมิธรรม เวชยชัย กินข้าวโชว์ในครั้งนี้ไม่ต่างจาก “ทักษิณกินไก่โชว์” สมัยที่เกิดวิกฤตไข้หวัดนกซึ่งขณะนั้น “ทักษิณ ชินวัตร” ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลพรรคไทยรักไทยได้จัดงาน “มหกรรมกินไก่ไทยปลอดภัย 100%” เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2547 ที่บริเวณท้องสนามหลวง ในงานนี้ทักษิณได้นำคณะรัฐมนตรีร่วมกินไก่ปรุงสุก โดยมีไฮไลท์อยู่ที่คณะรัฐมนตรีทอดไก่โชว์ และปรุงไข่พะโล้หม้อใหญ่ที่สุดในโลกกว่า 1 หมื่นฟอง
ค้นข้อมูลย้อนหลังพบว่า “ทักษิณ ชินวัตร” กล่าวถึงมหกรรมกินไก่โชว์ในวันนั้นว่า “เราไม่สนใจว่าต่างประเทศจะซื้อไก่เราหรือไม่ ผมสนใจอย่างเดียวว่าคนไทยต้องไม่ถูกทำให้ตกใจโดยใช่เหตุ และไก่ที่ขายในประเทศไทยต้องปลอดภัยถ้าเราทำอย่างถูกต้อง ปรุงเกินกว่า 70 องศาขึ้นไปก็ปลอดภัยแล้ว ไม่ใช่แค่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ล้านเปอร์เซ็นต์”
ส่วนใน พ.ศ.นี้ให้หลังมา 20 ปี “เดอะอ้วน-ภูมิธรรมเวชยชัย” รัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีที่เป็น “เด็กในคาถา” ของนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ก็ได้จัดโชว์ตามรอยทักษิณ โดยเชิญผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน บริษัทเซอร์เวย์ผู้ตรวจสอบคุณภาพและรับข้าวสารเข้าคลัง สมาคมโรงสี ผู้ส่งออกข้าว พร้อมทั้งคณะผู้สื่อข่าวร่วมเปิดโกดัง “คลังกิตติชัย” ที่อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ด้วยการเก็บตัวอย่างข้าวรวม 9 ตัวอย่าง มาหุงกินโชว์ มี “กะเพราไก่-ไข่เจียว” เป็นกับข้าว
“ครั้งนี้อยากทำให้เกิดข้อสรุปที่ชัดเจนสิ้นข้อสงสัย จึงเชิญสื่อมวลชนทุกแขนง เจ้าของโรงสี ผู้ส่งออก ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้การตำรวจภูธรจังหวัด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นสักขีพยาน ผมทำกับข้าวมาให้ด้วย และจะเป็นผู้สังเกตการณ์ให้เจ้าหน้าที่เซอร์เวย์เยอร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเอาข้าวใส่ถุงให้ผู้สื่อข่าวส่งตัวแทนขึ้นรถตำรวจไปอีกโรงสีหนึ่ง เพื่อหุงรับประทาน...”นายภูมิธรรม เวชยชัย กล่าว
นายภูมิธรรม เวชยชัย ให้สัมภาษณ์สื่อหลังจาก“กินข้าวเน่าของยิ่งลักษณ์” โชว์ว่า “ชิมแล้วไม่มีกลิ่นหืนไม่มีความรู้สึกว่าจะกินไม่ได้ ความหอมอาจจะลดลงไม่เหมือนข้าวใหม่ แต่ความนุ่นนวลไม่มีปัญหาอะไร...ผมว่ามันคงยุติข้อกล่าวหาตอนแรกไปแล้ว เพราะดูแล้วเม็ดข้าวก็สวยงาม สีของข้าวมีปัญหาจริง ฝุ่นมีปัญหาจริงก็ต้องไปซาวข้าว ซึ่งเอาจริงก็ไม่เกิน 15 ครั้ง เป็นเรื่องปกติของการหุงข้าวมากิน อย่าไปทำให้มันเกิดความน่ากลัว...”
สรุปแล้ว “ข้าวเน่าของยิ่งลักษณ์” ที่เก็บไว้ในโกงดังนานถึง 10 ปี มีการรมยาทุกเดือน และกว่าจะหุงกินได้ต้องซาวน้ำทิ้งถึง 15 ครั้ง ที่มีอยู่ทั้งหมดจำนวน
1.5 แสนกระสอบนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย เปิดเผยว่าจะมีการนำไปเปิดประมูลขายเพื่อส่งออกไปยังตลาดข้าวเก่าที่แอฟริกา ซึ่งนายภูมิธรรมวาดหวังว่า ถ้าประมูลได้ราคามาตรฐาน 17-18 บาท ก็จะมีรายได้เข้ารัฐประมาณ 200-400 ล้านบาท
เรื่อง “ข้าวเน่าของยิ่งลักษณ์” ในมหกรรมจำอวดของนายภูมิธรรม เวชยชัย ครั้งนี้ ถึงจะปฏิเสธหรือสร้างภาพอย่างไรก็ตามที แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดจากโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ได้ทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหายจากขาดการทุนและทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเงินถึง 9.6 แสนล้านบาท
เรียกว่าจะฟอกอย่างไรก็มิอาจทำให้ “กลิ่นเน่าของยิ่งลักษณ์” บริสุทธิ์สะอาดจนดมกลิ่นได้เหมือนกินข้าวที่ต้องซาวน้ำทิ้งถึง 15 ครั้ง !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี