วันอังคาร ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
            นักโทษหนีคดีอาญา โดยหนีคดีไปตั้งหลายปีแต่เมื่อนักโทษหนีคดีกลับประเทศไทย เขาถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ แล้วได้ชื่อว่านักโทษเทวดา แล้วไม่ใช่เทวดาพื้นๆ แต่เป็นเทวดายิ่งกว่าเทวดา
ผู้ต้องหา ย้ำว่าเป็นผู้ต้องหารายหนึ่งที่ยังไม่ถูกพิพากษาเด็ดขาด แต่ทว่าต้องตายในคุก ถามว่าคนที่อดอาหารประท้วงศาล อยากตายในคุกหรือไม่ ขออนุญาตตอบว่า ไม่มีใครคิดว่าประท้วงด้วยการอดอาหารแล้วจะต้องตายตายไปจริงๆ เพราะเขาแค่ต้องการประท้วง โดยใช้การอดอาหาร เพื่อกดดันผู้มีอำนาจรัฐ แต่ว่าผู้ประท้วงคงไม่รู้กระมังว่าการอดอาหารประท้วง ไม่สามารถใช้ได้กับรัฐบาลที่ไร้คุณธรรมไร้จริยธรรม ไร้ความละอาย
ประเทศไทยมีความประหลาดในหลายแง่มุม ประหลาดทั้งในแง่บวก และลบ เมืองไทยมีทั้งมุมดี และเลว ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และมุมมองของปัจเจก แต่สิ่งหนึ่งที่ประหลาดมากคือ การที่ผู้ถูกคุมขังอยู่ในคุก ซึ่งก็หมายถึงอยู่ในการดูแลโดยภาครัฐแต่แล้วเขากลับต้องตายในคุก ย้ำว่าเขาต้องตายในคุก และนับได้ว่าเขาน่าจะเป็นคนแรกที่ตายในคุก เพราะประท้วงด้วยการอดอาหาร ถามว่าทำไมกรมราชทัณฑ์ปล่อยให้เขาตายได้ ทั้งๆ ที่เขาอยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ แน่นอนว่า คนที่ตายประกาศว่าต้องการอดอาหารประท้วง แต่ก็ต้องถามต่อไปว่า กรมราชทัณฑ์รู้ใช่ไหมว่า คนที่ตายนั้นเขาประกาศอดอาหารเพื่อประท้วง เขาคงไม่ได้ต้องการตั้งใจตายจริงๆ แต่เขาทำเพื่อประท้วงเท่านั้น แล้วทำไมกรมราชทัณฑ์ปล่อยให้คนคนนั้นตายในคุก
กรมราชทัณฑ์คงอ้างว่า ก็คนตายนั้น ต้องการอดอาหารด้วยตัวของเขาเอง ไม่มีใครบังคับให้เขาอดอาหาร แต่คำถามก็ต้องมีต่อไปว่า แล้วในเมื่อกรมราชทัณฑ์รู้อยู่แล้วว่าผู้ต้องหาประกาศอดอาหาร เมื่อรู้ทั้งรู้แล้วทำไมยังปล่อยให้คนในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ตายในคุกได้ ทำไมปล่อยให้ผู้ประท้วงตกอยู่ในสภาวะเสี่ยงอันตรายถึงแก่ชีวิต
แน่นอนว่าคนตายรายนั้นต้องการอดอาหารเพื่อประท้วงศาล และรัฐบาล แต่ทว่าผู้ประท้วงไม่น่าจะคิดว่าเขาจะตายในคุก หรือตายเพราะอดอาหาร ขอย้ำว่ากรมราชทัณฑ์ต้องไม่ปล่อยให้ผู้ต้องขังตายในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์
มีคำถามตามมาอีกว่า ทำไมบุ้งตายในคุก แล้วทำไมนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร จึงถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจโดยฉับพลัน ทั้งๆที่ไม่มีใครเชื่อว่านักโทษชายทักษิณป่วยหนัก
ถามอีกทีว่า กรมราชทัณฑ์รู้ใช่ไหมว่าบุ้งป่วย เพราะอดอาหารมาก่อน และถามอีกทีว่า กรมราชทัณฑ์รู้อย่างไรว่านักโทษชายทักษิณป่วยหนัก แล้วต้องรีบส่งนักโทษชายทักษิณไปห้องพิเศษ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
ถามว่าทำไมกรมราชทัณฑ์ไม่ส่งตัวบุ้งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อนที่บุ้งจะมีอาการโคม่า แล้วทำไมกรมราชทัณฑ์จึงต้องกุลีกุจอ ร้อนรน เร่งรีบส่งตัวนักโทษชายทักษิณไปโรงพยาบาลตำรวจ ทั้งๆ ที่ยังไม่มีใครเห็นว่านักโทษชายทักษิณมีอาการป่วยหนักขั้นวิกฤต ถามจริงๆ มีหมอหน้าไหนบ้างกล้าลงนามรับรองว่านักโทษชายทักษิณป่วยหนักจนใกล้ตายจริงๆ
นี่คือความไม่เท่าเทียมที่เห็นชัดเจนที่สุดที่กรมราชทัณฑ์กระทำกับคนไทยที่ชื่อบุ้งกับนักโทษชายทักษิณ หากบุ้งนามสกุลชินวัตร บุ้งจะไม่ต้องตายแบบนี้อย่างแน่นอน แต่นี่เป็นเพราะบุ้งไม่มีนามสกุลชินวัตร บุ้งจึงต้องตายแบบนี้
แต่ก็ต้องยอมรับด้วยว่า ก่อนที่บุ้งจะตายนั้นบุ้งได้ก่อเหตุต่างๆ ไว้มากมาย ซึ่งคนที่ติดตามข่าวการกระทำของบุ้งต่างรู้ดี และบุ้งก็ต้องรู้ตัวด้วยว่าทำอะไรไว้ ส่วนคนที่บอกว่าทำไมไม่ให้ประกันตัวบุ้งก็ต้องถามว่าอ่านข่าวเรื่องบุ้งดีแล้วหรือยัง หากยังก็กลับไปอ่านใหม่ หากอ่านแล้วก็ไม่ต้องถามว่าทำไมไม่ให้ประกันตัวบุ้ง เพราะจริงๆ บุ้งได้รับการประกันตัวแล้ว แต่บุ้งกลับทำให้ตัวเองต้องกลับเข้าไปถูกคุมขังอีก บอกได้คำเดียวว่า เรื่องบุ้งถูกถอนประกันนั้นเกิดมาจากพฤติกรรมของตัวเองเป็นสำคัญ
อันที่จริง หากบุ้งจะสำเหนียกก่อนจะตายโดยเฉพาะสำเหนียกว่าตนเองไม่ได้นามสกุลชินวัตรบุ้งก็คงจะลดพฤติกรรมก้าวร้าวบางอย่างลง
วันนี้บุ้งตายไปแล้ว ส่วนพรรคเพื่อไทยก็ยังมีอำนาจรัฐอยู่ โดยมีนักโทษชายทักษิณมีอำนาจเหนือพรรคเพื่อไทยอีกทอดหนึ่ง ถามว่า ความตายของบุ้งทำให้พรรคเพื่อไทยเกิดความสำนึกอะไรบ้าง ตอบว่ายังไม่เห็นว่าจะมีความสำนึกประการใดออกมาจากพรรคเพื่อไทย แล้วถามว่ามีสำนึกอะไรออกมาจากพรรคก้าวไกลบ้างไหม ก็ตอบได้คล้ายๆ กับคำตอบข้างบนคือ ยังไม่เห็นอะไรที่เป็นรูปธรรม
การต่อสู้ด้วยการอดอาหาร เป็นการต่อสู้โดยนำเอาความเป็นอยู่ของตนเองเข้าไปเป็นเครื่องต่อรองกับอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจรัฐ หรืออำนาจกฎหมายก็ตาม แต่ก็ต้องย้ำว่าผู้ที่จะเลือกใช้กลวิธีนี้ต้องมีสติ และมีปัญญามากพอ ต้องรู้ด้วยว่ากำลังสู้กับอำนาจอะไร แล้วคนใช้อำนาจนั้นเป็นคนผิวหน้าหนา หรือบาง มีความละอายมาก หรือไร้ความละอาย มีศีลธรรมหลงเหลือในมโนสำนึกบ้างหรือไม่หากมั่นใจว่าผู้มีอำนาจมีผิวหน้าหนามาก แถมยังไร้สำนึกฝ่ายดี ไร้ความละอาย ไรัศีลธรรม ขอแนะนำว่าอย่าใช้การอดอาหารเพื่อประท้วง เพราะไม่เกิดประโยชน์ต่อตัวผู้ประท้วงเอง แต่จะทำให้ตัวผู้ประท้วงต้องตายในที่สุด
จงจำไว้ว่า การประท้วงด้วยการอดข้าว ใช้ได้ผลดีกับรัฐบาลที่ผิวหน้าบาง มีความละอายสูงเท่านั้น หากใครก็ตามคิดจะอดอาหารประท้วงเพื่อหวังผลทางการเมือง ขอให้ดึงนักการเมืองไปร่วมประท้วงด้วย แล้วจะได้รู้ว่ามีนักการเมืองหน้าไหนกล้าเข้าร่วมการอดอาหารเพื่อประท้วง หรือหากจะให้ดี ขอให้ไปเชิญเหล่าคนสอนหนังสือในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะกลุ่มคนสอนหนังสือที่ชอบแนะนำให้ประท้วงด้วยการอดข้าว อดน้ำ เพราะหากไปเชิญคนเหล่านั้นมาร่วมประท้วงด้วย รับรองว่าผู้ที่ประท้วงจะไม่ตายอย่างแน่นอน เพราะนักการเมือง และคนสอนหนังสือในมหาวิทยาลัยจำพวกช่างยุจะไม่มีวันยอมตายเพราะอดอาหารเป็นอันขาด
เราได้เห็นชัดเจนแล้วว่า กรมราชทัณฑ์ไทยให้ความสำคัญกับความเป็นความตายของคนที่ถูกคุมขังไม่เท่าเทียมกัน เพราะหากให้ความสำคัญเท่าเทียม และเน้นความเสมอภาคกันจริงๆ แล้ว รับรองบุ้งไม่มีวันตายในคุก และบุ้งจะต้องถูกส่งตัวไปรักษาที่ห้องพิเศษชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจด้วย
แต่เพราะความจริงคือบุ้งไม่ใช่นักโทษชายทักษิณ บุ้งไม่ได้ใช้นามสกุลชินวัตร แต่บุ้งก็คือบุ้งส่วนนักโทษชายทักษิณคือนักโทษเทวดาเพราะฉะนั้น จุดจบของบุ้งจึงอยู่ในห้องขังของกรมราชทัณฑ์ แต่จุดจบของนักโทษชายทักษิณไม่มีวันเข้าไปตายในห้องขังแน่นอน เพราะคุกไทยไม่สามารถขังนักโทษชายทักษิณได้เป็นอันขาด นี่คือสิ่งบ่งชี้ความจริงที่ชัดเจนที่สุดของประเทศไทย
จำไว้ บุ้งไม่ใช่นักโทษชายทักษิณบุ้งจึงตายในคุก ส่วนนักโทษชายทักษิณนั้น กรมราชทัณฑ์ไม่กล้าแตะต้องตัวแม้แต่น้อย และรัฐบาลชุดไหนๆ ก็ไม่กล้าเอาจริงกับนักโทษชายทักษิณ
ครั้งหน้ามาคุยกันว่าทำไมนักโทษชายทักษิณจึงมีบารมี และอำนาจการเมืองมากมายล้นฟ้าท่วมดิน เช่นนี้หนอ

										'ผอ.อผศ.'พร้อมพูดคุย 'ธนเดช' สส.ปชน. ปมโควตาสลาก ย้ำไม่ได้มองเป็นเผือกร้อน
									
										เพื่อไทยตัดเกรด รัฐบาลอนุทิน' สอบไม่ผ่าน! ซัดสร้างภาพกลบความล้มเหลว
									
										ติวเข้มผู้บริหารงานพื้นที่เขต บัญชาการเหตุการณ์ยามคับขัน
									
										'คิม ยองนัม'อดีตประธานสภาเกาหลีเหนือถึงแก่อสัญกรรม หลังรับใช้ผู้นำ'ตระกูลคิม'มาถึง3รุ่น
									
										‘ประเสริฐ’ บี้ ‘รัฐบาลอนุทิน’ เร่งปราบสแกมเมอร์ใน 30 วัน จี้เปิดผลสอบปม'ไชยชนก'ปูดสินบน 40 ล้าน
									
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี