ตามที่ได้กล่าวนำไว้คราวที่แล้วเกี่ยวกับก๊วน “ดูงานสภากาชาดไทย” ที่ได้พากันไปเที่ยวที่ต่างๆ ในและนอกประเทศไทย โดยช่วง 3-6/5/67 เป็นวันหยุดยาว เราได้วางแผนไปเที่ยวเกาะช้าง ตราด 2 วัน และศูนย์ราชการุณย์ เขาล้าน สภากาชาดไทย 1 วัน ผมขอนำรายละเอียดมาเล่าให้ท่านผู้อ่านฟัง เผื่อจะเป็นประโยชน์ ข้อคิด ในการเดินทางไปพักผ่อนหย่อนใจสำหรับแต่ละท่านครับ
เรารวมตัวกันได้ 10 คน ขอใช้ชื่อเล่นก็แล้วกัน คือ ผม ป้าปิ จุ๋ม พี่กิ่ง(หมอกิ่งแก้ว) และลูกสาว อ้อที่มาจากญี่ปุ่น ป้าจิ ป้าชุมสิน สราญจิตติ้ง นา และเทพ พนักงานขับรถเป็น 11 รถเราถ้าไม่มีกระเป๋าต่างๆ อาจนั่งได้มากกว่านี้ เดิมเรากะไปกัน 10 คน ทั้งคนขับ เพราะต้องขนกระเป๋า และนึกว่ารถเล็กกว่าคันนี้ สราญจิตสมัครคนสุดท้ายเป็นคนที่ 11 จึงตัดออกไป แต่พอผมเห็นรถ 2-3 วันก่อนเดินทางจึงขอให้สราญจิตไปด้วย
ด้วยการวางแผนของป้าปิ จุ๋ม ผม ป้าปิ ได้จองที่พักไว้ 2 คืนแรกที่เกาะช้าง ตราด ที่ไชยเชษฐ์ Resort เป็นบังกะโลๆ มี 2 ห้อง แต่ละห้องมี 2 เตียง ผมนอนกับเทพ มีห้องน้ำเสร็จ โชคดีที่เราไปในช่วงที่ Resort เขาฉลองวันเกิดของ Resort จึงได้ราคาถูก คือ 1,500 บาทต่อคืนเท่านั้น หรือคนละ 750 บาท เป็นบังกะโลที่ติดหาดทรายเลย เห็นวิวทะเลสวยงาม ซึ่งเป็นอ่าว หรือทะเลที่เว้าเข้ามาในแผ่นดิน หน้าห้องเรามีระเบียงเล็กๆ มีโต๊ะ และเก้าอี้นั่ง 2 ตัวให้เรานั่งชมวิวได้อย่างสบาย
เราออกเดินทางจากบ้านผม (ทองหล่อ ซอย 20) ตอน 09.00 น. เช่นเคยผมเลี้ยงไข่ต้ม เพราะสะดวกคนทำ ขนมปังปิ้ง ชา กาแฟ ฯลฯ ทุกๆ คนมาก่อนเวลาเราก็ออกจากบ้านผมตามกำหนด โดยไปรับติ้งกับนาที่ปั๊ม ปตท.บางวัว เพราะทั้ง 2 คนอยู่แถวๆ นั้น ไปถึงปั๊มทั้ง 2 ก็รออยู่แล้ว เราก็มุ่งหน้าไปตราดทันที โดยไปแวะทานอาหารกลางวันที่ร้านหมูเลียงพระยาตรัง ที่จันทบุรี เรื่องร้านอาหารเราบอกกันคร่าวๆ ว่า มื้อเที่ยงขอเป็นก๋วยเตี๋ยวหรืออาหารเบาๆ แล้วจุ๋มเป็นคนจัดการหมด ผมเคยไปกินที่ร้านนี้มาก่อนกับลูกชาย แต่จำชื่อร้านไม่ได้ แต่ติดใจบะหมี่เส้นแบนของเขาที่ผมชอบมาก อยากไปกินที่นี่อีก แต่ไม่รู้จะบอกจุ๋มว่าไปที่ไหนอย่างไร จึงโชคดีมากและแปลกใจมาก ที่จุ๋มพาไปที่ร้านนี้ตามใจอยาก!?(เทวดาคงเอ็นดูผม) คราวนี้ผมถ่ายรูป จดโทรศัพท์ ขอบัตรร้านมาด้วย!?ตอนสั่งอาหารเห็นเขามีแต่บะหมี่เส้นกลมๆ ผมก็เลยสั่งตามนั้น ตอนอิ่มแล้วมาคุยกับเจ้าของร้าน จึงทราบว่ามีบะหมี่เส้นแบนๆ ด้วย บะหมี่เส้นแบนจะเรียกว่าบะหมี่เป๊าะ ก๋วยเตี๋ยวมีทั้งเนื้อและหมู อร่อยมากกินกันคนละ 1-2 จาน ส่วนใหญ่จะ 2 ผมทานหมูชาม เนื้อชาม ชอบขี้ริ้วที่ใส่มากับเนื้อมื้อนี้เราจ่ายเป็นเงินตั้ง?! 1,400 กว่าบาท สำหรับ 11 คนร้านนี้มีของเล็กๆ น้อยๆ ขาย พวกเราก็ซื้อของขบเคี้ยวมากินเล่นบนรถ เช่น ข้าวตัง ฯลฯ
จากนั้นเราก็มุ่งไปตราด เอารถไปลงเรือ ferry เสียค่าบริการคนละ 80 บาท รถ 750 บาท รวมแล้วพันกว่าบาท มีรถเก๋ง ตู้ บรรทุก เข้าแถวรอขึ้นเรือกันยาวมาก เสียเวลาตรงนี้มากเลย รอบหนึ่งเจ้าของเรือคงได้หลายหมื่นบาท เรือ ferry มีประมาณ 4-5 ลำ พอมาถึงท่าเรือก็คงต้องใช้เวลาอีก 60 นาทีเป็นอย่างเร็วกว่าจะขึ้นอีกฝั่ง เพราะเรือวิ่ง 30 กว่านาที แต่รออีกอย่างน้อย 30 นาที กว่าจะได้ขึ้นเรือ บางทีต้องรอเรือลำที่ 2 เสียเวลาเป็นชั่วโมงๆ ก็มี
ผมมีความเห็นว่าเกาะต่างๆ ที่ต้องใช้เรือ ferry ขนรถ คน รัฐบาลควรพิจารณาสร้างสะพาน เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น สะดวกสบายในการเดินทาง ในการท่องเที่ยว ทางด้านสาธารณสุข เพราะบนเกาะช้างมี รพ.เกาะช้าง ซึ่งเป็น รพ.ชุมชน และมี รพ.สต.เท่าที่ทราบเพียง 4 แห่ง ถ้าใครป่วยหนักตอนกลางคืนจะเสียเวลาหาเรือเร็ว หรืออาจหาไม่ได้เลย ถ้าเป็นโรคหัวใจ อัมพาต จะเสียเวลาที่เป็นเงินเป็นทอง เพราะต้องไปถึง รพ.เพื่อให้การรักษาให้ได้ภายใน 4 ชม.ช้ากว่านี้การรักษาจะไม่ได้ผล สำหรับเด็กที่ไป รร.ที่จังหวัดตราด ทราบว่าต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 รอเรือซึ่งไม่แน่นอน กว่าจะกลับถึงบ้านก็ 20.00 น. เด็กๆ ก็เหนื่อยกันมาก หมดสภาพ การเรียน การพักผ่อน สุขภาพก็ไม่ดีเท่าที่ควร
ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รัฐบาลควรพิจารณาทุกเกาะต่างๆ เช่นนี้ แล้วค่อยๆ สร้างสะพานตามลำดับความจำเป็น ความสำคัญ รัฐบาลเสียงบประมาณ ชาวบ้านได้ประโยชน์และอาจช่วยชีวิต อนาคต ชาวบ้าน ผู้ที่เสียประโยชน์ก็คือเจ้าของเรือเท่านั้น ชีวิตคน คุณภาพชีวิต อนาคตของประชาชน มีค่ามากกว่างบประมาณที่เสียไป
พอข้ามฟากไปเกาะช้างได้ เราก็ไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเกาะช้างและศาลกรมหลวงชุมพรฯ แล้วจึงตรงไปที่ Resort ทางเข้า resort ทั้งสองข้างเป็นโรงแรมซึ่งมีคนพลุกพล่านมาก แบบฉิ่งฉับทัวร์ เราตกใจ นึกว่าต้องมาอยู่ตรงนี้ ตอนแรกเราก็ได้ที่พักที่ไม่อยู่ติดทะเล ไม่ทราบว่าอยู่ตรงนี้หรือไม่แต่ด้วยความพยายาม ขยัน กัดไม่ปล่อย เป็นนักการทูตชั้นสาริกาลิ้นทองของป้าปิ เราจึงได้บังกะโลติดชายหาด ในราคาที่ถูกมาก เพราะป้าปิ โทรติดตามจนรู้ว่าใครเป็นเจ้าของและเจรจากับเจ้าของคือคุณทิพย์ จนคุณทิพย์หลงในคารม ไม่เสียทีที่ป้าปิเป็นวิทยาจารย์อาวุโสของสำนักงานยุวกาชาดที่ช่วยสอนเยาวชนมาช้านาน สะสมการ “ขาย” ของที่เก่งแบบปรมาจารย์มาใช้ให้เป็นประโยชน์อย่างสูงสุด
พอถึงโรงแรมเข้าห้อง เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เราก็ไปลุยทะเลกันบางคนก็ลงสระ ชายหาดหน้าห้องเราซึ่งมีคนไม่มาก เราก็ลงทะเลแถวๆ นั้นเราพยายามหาร้านอาหารกินกันข้างนอก แต่เนื่องจากเหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งวัน และคุณทิพย์กรุณาถึงกับให้โรงแรมตั้งโต๊ะอาหารมาเสิร์ฟเราถึงที่ชายหาด หน้าบังกะโลเราเลย เราเลยตกลงทานกันที่ชายหาดในโรงแรมหน้าห้องเรา เราก็สั่งอาหารมากินกัน สนุกสนานมากๆ
เราหมดไวน์ไป 2 ขวด มีคนดื่ม 8 คน วิสกี้เล็กน้อย ในฐานะ “หัวหน้าเผ่า” ที่ก๊วนเราตั้งผมเป็น ผมต้องรู้ใจลูกเผ่าทุกๆ คน พี่กิ่งดื่มได้แต่วิสกี้ ผมเลยเอา Chivas Regal ไป 1 ขวด ไวน์ 5 ขวด ผู้ที่ดื่มมีผม ป้าปิ ป้าชุมสิน ติ้ง นา อ้อ สราญจิต และพี่กิ่ง ส่วนเทพ จุ๋ม ป้าจิไม่ดื่ม (แอลกอฮอล์) ไวน์ 750 ซีซีมีแอลกอฮอล์ ประมาณ 9 หน่วยหรือหน่วยละ 80 ซีซีของหน่วยแอลกอฮอล์อังกฤษ
มีบทต่อครับ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี