nn จากที่ห่างหายไปนานกว่า 3-4 ปี...กับงานสัมมนาและแถลงข่าวภาพรวมของธุรกิจประกันวินาศภัย...ปลายสัปดาห์ก่อน...สมาคมธุรกิจประกันวินาศภัย...จึงได้จัดงานขึ้นอีกครั้ง นำทีมโดย...คุณอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมฯและทีมคณะกรรมการของสมาคม...ซึ่งต้องบอกว่าจัดรูปแบบของงานได้ดีทีเดียว...เพราะนอกจากจะได้ข่าวเกี่ยวกับภาพรวมและแนวโน้มของธุรกิจประกันวินาศภัยแล้ว...ก็ยังมีเซ็กชั่นย่อยๆ อีก 4-5 เซ็กชั่น..ที่มีคณะทำงานในชุดต่างๆ มาให้ความรู้และข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์มากๆ...ทำให้สื่อมวลชนได้รับความรู้ในมิติต่างๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันวินาศภัย...อย่างประเด็นเรื่องอุบัติภัยใหม่ที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดซึ่งภาคธุรกิจต้องเตรียมรับมือ...ยกตัวอย่างเรื่องโควิด-19...ที่ทำให้อัตราความเสียหาย (Loss Ratio) โดยรวมของการประกันภัยทุกประเภทพุ่งขึ้นไปถึง 121%...สาเหตุหลักก็มาจากความเสียหายจากประกันภัยเบ็ดเตล็ด (โควิด-19) ที่สูง 300%...อันนี้เพราะด้วยความไม่รู้ทำให้โดดเข้าไปรับประกันทั้งที่ทั่วโลกเขาไม่มีการรับประกันกัน เพราะผิดหลักการของการประกันที่โดดเข้ารับความความเสี่ยงทั้งที่ไม่มีใครเคยรู้จักมาก่อน...นอกจากทำให้บริษัทประกัน 4-5 แห่งต้องปิดตัวลงไป...ผู้เอาประกันเองก็ยังได้รับผลกระทบอีกด้วย...จากตัวเลขสินไหมที่ต้องจ่ายสินไหมและจำนวนผู้ยื่นเคลมสินไหม...เทียบกับเงินกองทุนที่มีอยู่..ต้องใช้เวลาเป็น 100 ปี กว่าที่จะจ่ายได้ครบทุกราย...!! ถามว่าปล่อยไปแบบนี้ได้หรือไม่..คำตอบคือไม่ได้...แต่ลำพังภาคธุรกิจเองก็ทำด้วยตัวเองไม่ได้...ดังนั้นภาครัฐและผู้กำกับธุรกิจประกัน (ละชื่อไว้แต่เชื่อว่าผู้อ่านคงรู้ว่าใคร)...ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเพราะต้องยอมรับว่า “ผู้กำกับ” มีส่วนเหมือนกันที่ทำให้ธุรกิจประกันโดดเข้าไปเล่นกับไฟแบบนั้น...!! มีอีกประเด็นที่อยากเอามาเขียน..ในเซ็กชั่น...การบริหารจัดการปัญหาการฉ้อฉลในอุตสาหกรรมประกันภัย โดยระบบปัญญาประดิษฐ์(AI)...ซึ่งนำเสนอโดย...คุณวาสิต ล่ำซำ ประธานคณะกรรมการประกันภัยยานยนต์...คุณวาสิต บอกว่าเหตุที่ต้องทำงานเรื่องนี้เพราะปัจจุบันปัญหาการฉ้อฉลหรือเรียกง่ายๆว่า “จัดฉากเคลม” เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง...ตัวเลขล่าสุดก็ประมาณ 5% ของยอดเคลมทั้งระบบ (ประมาณปีละ 1 แสนล้าน)...และยอดเคลมหรืออัตราความสูญเสียนี้ก็ไปฝังอยู่ในอัตราเบี้ยประกัน...ถ้าไม่แก้ไข บริษัทประกันก็ได้รับความเสียหาย...และกระทบกับผู้เอาประกันด้วยเช่นกันที่ต้องจ่ายเบี้ยเพิ่มขึ้นโดยไม่เป็นธรรม...เหตุที่ต้องใช้ระบบ AI เข้ามาช่วยเพราะต้องใช้ข้อมูลทุกมิติจากทั้งอุตสาหกรรมมาพิเคราะห์จับพิรุธของเคลมที่มีข้อสงสัย...แต่ด้วยข้อมูลที่มากมายมหาศาลพังใช้แต่แรงคนอย่างเดียวตามไม่ทันแน่ๆ จึงต้องใช้ AI เข้ามาช่วย...แต่ก็ใช่ว่าจะง่ายเพราะข้อมูลที่รวมศูนย์มีอยู่ที่เดียวที่มีคือ “ผู้กำกับ”...ซึ่งแน่นอนว่าอยู่ดีๆ จะเดินดุ่มๆ ไปขอเอามาใช้...มันทำไม่ได้แน่ๆ...ตอนนี้ก็เลยต้องไปหาช่องทางใหม่...!! เอาอีกแล้ว“ผู้กำกับ” เป็นประเด็นอีกแล้ว...!! ยังมีอีกหลายประเด็นอีกหลายเซ็กชั่นจากงานสัมมนาครั้งนี้ที่จะเอามาเล่าให้ฟังโอกาสหน้านะพี่น้อง...nn
อนันตเดช พงษ์พันธุ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี