ผ่านไปอีกหนึ่งตอนละครซีรี่ส์ ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า ชื่อว่า “ตอนกะเหรี่ยงจัดให้” ที่ตบตาทั้งอเมริกา จีน สื่อมวลชนและนักวิชาการไทย ที่ติดกับการโฆษณาชวนเชื่อของตะวันตก
โปรยข่าวทำนองนี้ คงสร้างความงวยงงสงสัยให้ท่านที่ไม่คุ้นเคยกับกลุ่มชาติพันธุ์ และสถานการณ์จริงในพม่าว่า กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในพม่า มีความสลับซับซ้อนอย่างไร ขอยกตังอย่างเพียง กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่อยู่ใกล้ชายแดนไทยที่ผู้นำกะเหรี่ยงส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทยก็แล้วกัน คือ กะเหรี่ยงที่มีกองกำลังติดอาวุธแยกเป็น 5 กลุ่มหลักๆ นั้น จริงแล้วมีพื้นฐานมาจากแหล่งเดียวกันคือ สหภาพกะเหรี่ยงแห่งชาติ (Karen National Union=KNU)
ในทศวรรษ 2520 KNU เป็นกองกำลังติดอาวุธใหญ่ที่สุดอยู่ใกล้ชายแดนไทยมีทหารในกองทัพกว่า 40,000 นาย KNU ซึ่งเคยเป็นรัฐกันชนให้กับประเทศไทยในปี 2528 นายพล โบ เมี๊ยะ เคยเอา รูปถ่ายที่ท่านไปช่วยรบในการปราบปรามคอมมิวนิสต์ เขตจังหวัดพิษณุโลก หลังการช่วยรบครั้งนั้น ทหารไทยพาท่านไปเล่นน้ำทะเลที่บางแสนเป็นภาพที่นายพล
โบ เมี๊ยะ ประทับใจและมักนำมาให้คนที่พูดถูกใจดู
สรุปง่ายๆ ว่า กลุ่มชาติพันธ์ทุกกลุ่มที่อยู่ใกล้ชายแดนรอบประเทศไทยเป็นรัฐกันชนให้เราโดยปริยายในสมัยสงครามเย็นที่คอมมิวนิสต์คุกคามรอบด้านหลังจากสงครามเย็นสิ้นสุดลงประเทศไทยค่อยๆ ลดการใช้กลุ่มกบฏตามแดนเป็นกันชนลง KNU ซึ่งมีผู้นำนับถือศาสนาคริสต์ในปี 2538 เกิดกบฏใน KNU โดยกะเหรี่ยงพุทธ การกบฏครั้งนั้นทำให้ KNU แตกออกเป็นสองกลุ่มใหญ่คือเป็นกะเหรี่ยงคริสต์ KNU และเป็นกะเหรี่ยงพุทธ Democratic Karen Buddist Army(DKBA)ต่อแต่นี้ไปขอใช้คำว่า กะเหรี่ยงคริสต์กับกะเหรี่ยงพุทธ
ผลจากกบฏปี’38 กะเหรี่ยงคริสต์กับกะเหรี่ยงพุทธรบกับเองอยู่หลายปี จนทั้งสองฝ่ายเกือบล่มสลายและในปี 2545 ทหารพม่าทำข้อตกลงกับกะเหรี่ยงพุทธได้โดยเสนอให้กะเหรี่ยงพุทธเป็นกองกำลังป้องกันชายแดน (Border Guard Forces=BGF) ขึ้นกับกองทัพพม่าที่ดูแลปกครองในเขตตนเองเป็นอิสระได้ โดยรับการสนับสนุนอาวุธและเบี้ยเลี้ยงจากกองทัพพม่าตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา KNU จึงอยู่ในภาวะใกล้ล่มสลาย กองบัญชาการใหญ่ที่#เมอนาปลอว์ถูกทหารพม่ายึดได้ KNU กลายเป็นนักรบจรยุทธ์ที่เร่รอนในชนบท
ไร้ฐานที่มั่นพูดได้ว่า KNU ได้ล่มสลายแล้ว
และในห้วงเวลาหลายปีที่นักรบ KNU เร่ร่อนในชนบทรัฐกะเหรี่ยง แต่แกนนำส่วนใหญ่ได้สิทธิอยู่ในประเทศไทยเป็นการทดแทนที่เป็นรัฐกันชนให้มาก่อน อย่างไรก็ตาม KNU ยังผูกพันกับข้อตกลงหยุดยิงกับรัฐบาลพม่าตั้งแต่ 2552 ส่วนกะเหรี่ยงพุทธ หรือ DKBA ที่ได้การสนับสนุนจากพม่าและการหลับตาข้างหนึ่งจากไทยก็เติบใหญ่ขึ้นทุกวัน และมีผลประโยชน์ทางการค้าในเมียวดีจนล่าสุดเข้าไปมีผลประโยชน์บ่อนการพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน “ชเวก๊กโกะ” เมืองอาชญากรรมข้ามชาติ คล้ายๆ เมืองเล่าก์ก่ายที่จีนต้องลงไม้ลงมือปราบเองเมื่อปลายปี 2566
จุดพลิกผันที่ทำให้กะเหรี่ยงที่แตกเป็นสองก๊กใหญ่รวมตัวกันหลวมๆได้ คือ หลังจากพลเอกมิน อ่อง หล่ายยึดอำนาจจากรัฐบาลพรรคเอ็นแอลดี เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2564 สหรัฐอเมริกากับฝรั่งเศสประกาศว่า จะสนับสนุนฝ่ายต่อต้านการยึดอำนาจถึงที่สุด และสองเดือนต่อมาซีไอเอก็จัดตั้งกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (People Defense Forces) กับรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (National Unity Government=NUG) เป็นรัฐบาลเงาขึ้นในเมืองใหญ่ของพม่า ทางด้านชายแดนไทย ซีไอเอก็ชุบชีวิต KNU กับกองกำลังชาติพันธุ์คะยา ที่ล่มสลายไปแล้วขึ้นมาใหม่ เมื่อฟื้นฟู KNU กับคะยาขึ้นมาได้
ซีไอเอกับฝ่ายปฏิบัติข่าววอชิงตันก็สร้างสถานการณ์ปั่นกระแสความแข็งแกร่งยิ่งใหญ่ที่รบที่ไหนชนะที่นั่นให้ KNU กับกองทัพคะยา ทำให้สื่อและนักวิชาการส่วนใหญ่ที่ติดหล่มปฏิบัติการข่าวตะวันตกเชื่อว่า ความแข็งแกร่งของกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์สนธิกำลังเข้ากับ PDF จะโค่นล้มรัฐบาลทหารพม่าลงได้ในไม่ช้าไม่นาน ข่าวชาติพันธุ์โกก้างรบชนะโกก้างฝ่ายรัฐบาลทางเหนือของรัฐฉานใกล้ชายแดนจีนได้ เป็นเหตุให้แก๊งอาชญากรรมข้ามชาติในเมืองเล่าก์ก่ายจำนวนมากถูกส่งไปดำเนินคดีในประเทศจีน แต่ยังมีบางส่วนที่เล็ดลอดมาใกล้ชายแดนไทยและเข้าไปร่วมกับแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติแห่งใหม่ใน “ชเวก๊กโกะ” ห่างจากเมืองเมียวดีขึ้นทางเหนือประมาณ 12 กม. อยู่ห่างชายแดนไทยแค่แม่น้ำสาละวินกั้นกลาง
แหล่งข่าวในกองกำลังของกลุ่มชาติพันธุ์ยืนยันตรงกันกับแหล่งข่าวความมั่นคงไทยว่า พันเอกหม่อง ชิตตู ผู้บัญชาการกองกำลัง BGF กับทหาร KNU มีผลประโยชน์ร่วมกันมากมายมหาศาลจากบ่อนการพนันและการพนันออนไลน์ตลอดถึงแก๊งตุ๋นการลงทุนที่เรียกว่า Hybrid Scammer ในศูนย์กลางอาชญากรรมข้ามชาติแห่งใหม่ที่ชื่อว่า ชเวก๊กโกะ แก๊ง Hybrid Scammer ย่ามใจเพราะอยู่ภายใต้การคุ้มครอง “หม่อง ชิตตู” ในขณะที่ทั้งฝ่ายพม่าและฝั่งไทยทำหูไปนาเอาตาไปไร่ จนกระทั่งมีรายงานเมื่อสองเดือนก่อนว่า ทางการจีนออกหมายจับ หม่อง ชิตตู
ทันทีที่มีรายงานว่า จีนออกหมายจับ หม่อง ชิตตู ก็ประกาศว่า เขายุติหน้าที่ BGF และกลับไปทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับกองกำลัง DKBA “เป็นเรื่องแปลกมากปกติ หม่อง ชิตตู เก็บตัวเงียบติดต่อยากมากแต่ในวันที่ประกาศว่าไม่เป็น BGF อีกต่อไปนักข่าวชายแดนได้พบเขาทุกคน” ผู้สื่อข่าวที่คลุกคลีกับกลุ่มชาติพันธุ์มาด้วยกันหลายสิบปีเล่าให้ฟังและแสดงความสงสัยว่า เมื่อไม่เป็น BGF แล้วทำไม หม่อง ชิตตู ยังควบคุมเมืองเมียวดีร่วมกับทหารพม่า หรือเป็นการตบตาจีนเพราะว่าเมื่อไม่เป็นBGF แล้วพม่าจะจับ หม่อง ชิตตู ส่งให้จีนไม่ได้ “ที่น่าสงสัยคือหลังจากบอกว่า ไม่เป็น BGF แล้ว กองกำลังติดอาวุธของ หม่อง ชิตตู ยังอยู่ร่วมกับทหารพม่าในเมียวดี”แหล่งข่าวกล่าว ในเวลาเดียวกันก็มีข่าวใหญ่ในสื่อทั่วไปว่า“โดรนทิ้งระเบิดใส่ หม่อง ชิตตู ตายในค่ายของตัวเอง”
ด้านอดีตทหาร KNU ที่ทำมาหากินอยู่ในจังหวัดตากนานหลายปีจนแยกไม่ออกว่าเป็นกะเหรี่ยงหรือคนไทยบอกกับแนวหน้าว่า การสู้รบใกล้ชายแดนไทยเร็วๆ นี้ เป็นการแสดงละครตบตาของกะเหรี่ยง “ที่ออกไปรบกับพม่านะมีแต่ KNU บางส่วนกับ DPF ที่อยู่เมืองไทยนี้แหละส่วนกะเหรี่ยงพุทธวางเฉยอยู่ในเมียวดี” แหล่งข่าวกล่าว ว่าการแสดงละครของ KNU กับ DPF เมื่อเสร็จแล้วก็เข้ากลับเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ส่วนปฏิบัติการข่าวขั้นต่อไปเป็นหน้าที่ของซีไอเอ
สองวันหลังจากแสดงละครยิงภูเขาเผากระท่อม ข่าวใหญ่ที่ตามมาคือกะเหรี่ยงชักธงขึ้นเสาในเมียวดีได้สองวันก็ประกาศถอนตัวชั่วคราวและตามมาด้วยภาพ หม่อง ชิตตู ช่วยคุ้มกันทหารพม่ากลับจากที่หลบภัยอยู่ใต้สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 ชักธงพม่าขึ้นเสาดังเดิม แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตว่า ตลอดเวลาหลายวันที่รบกันไม่มีกระสุนตกไปใกล้แหล่งอาชญากรรม
ข้ามชาติ ชเวก๊กโกะ แม้แต่นัดเดียว “ที่น่าสงสัยคือทำไมทหารพม่าทิ้งค่าย 275 ไปอยู่ใต้สะพานมิตรภาพที่สองให้สื่อต่างๆ มองเห็นได้” แล้วจู่ KNU ก็ถอนตัวออกจากเมียวดีเพื่อสร้างความสำคัญกับหม่อง ชิตตูผู้คุ้มกันทหารพม่ากลับมาเมียวดีได้อย่างปลอดภัย
ข้อมูลที่แหล่งข่าวบอกกับแนวหน้าอาจเลื่อนลอยสำหรับคนทั่วไปแต่สำหรับผู้เขียนซึ่งคลุกคลีอยู่กับกลุ่มชาติพันธุ์นานหลายสิบปีและได้เห็นการแสดงแบบนี้มานับร้อยครั้ง แม้กระทั่งข้อมูลที่ว่า PDF เช่าบ้าน เช่าโรงแรมอยู่แม่สอดนับพันคนผู้เขียนก็เชื่ออย่างสนิทใจเมื่อแหล่งบอกว่า “พวก PDF ใช้บัตรสิบปีเข้าออกชายแดนได้สบายๆ ส่วนพวก KNU เข้าออกประเทศไทยทางหลังค่ายผู้อพยพ”
แหล่งข่าวอธิบายว่าบัตรสิบปีหรือบัตรที่ไม่มีเลขสิบสามหลักเหมือนบัตรประชาชนไทยทั่วไปเป็นบ่อเงินบ่อทองของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเทศบาลมีสิทธิออกได้ อำเภอมีสิทธิออกได้อบต.ก็มีสิทธิออกได้ “มีปัญหาการออกบัตรสิบปี 700 ใบ กำลังสอบสวนกันอยู่สองเดือนกว่ายังไม่ความคืบหน้าใดๆ” แหล่งข่าวกล่าว
ดังนั้น ขอให้ทุกท่านสนุกกับการดูละครสงครามกลางเมืองพม่าต่อไป ส่วนท่านที่จริงจังกับปฏิบัติการข่าวของตะวันตกก็อย่ามัวรีรอเร่งขอวีซ่าไปอยู่อเมริกาเสียแต่เนิ่นๆ
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี