nn หลังจากมีการเผยแพร่เอกสารของที่...คุณเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ที่ได้ส่งถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย. 2567...โดย ธปท.มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคต พร้อมยกเหตุผลมาอธิบาย 45 ข้อ...ก็สร้างความฮือฮาให้สังคมพอสมควร...!! และคนในรัฐบาลก็ดาหน้าออกมาตอบโต้ ธปท. ...เช่นว่า...คำเตือนของ ธปท.ไม่ได้ทำให้โครงการสะดุด...ประเด็นเหล่านี้ธปท.เคยออกมาให้ความเห็นแบบนี้ไว้แล้วก่อนหน้านี้จึงไม่ใช่เรื่องใหม่...ยังไงรายย่อยก็ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ไม่ได้เอื้อนายทุน ฯลฯ และก็มีอีกหลายความเห็นที่ออกมาตอบโต้ธปท. ...!! เอาล่ะ...แวดวงการเงิน...อยากจะบอกอย่างนี้ว่า...ที่ผู้ว่าฯแบงก์ชาติทำเอกสารชิ้นนี้ออกมาแล้วส่งให้ ครม.ท่านก็ไม่ได้เล็งผลเลิศถึงขึ้นที่เชื่อว่ารัฐบาลจะรับฟังและปฏิบัติตาม...แต่นี่คือการทำหน้าที่ในฐานะผู้บริหารสูงสุดขององค์กรสำคัญของชาติที่มีหน้าที่หลักในการปกป้องระบบการเงินของชาติ...ซึ่งแวดวงการเงินเห็นด้วยนะที่ ธปท.ทำเช่นนี้...เพราะโครงการฯนี้ถือว่าได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากฝ่ายบริหารแล้ว เมื่อ ครม.วันที่ 23 เมษายน 2567 มีมติเห็นชอบกับโครงการนี้...!! ดังนั้นกระบวนการทางกฎหมายที่มีนักวิชาการ นักกฎหมายหลายรายที่กำลังจะดำเนินการฟ้องร้องกับรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด...ก็จะเริ่มนับหนึ่งได้ในวันที่ 23 เมษายน 2567...ดังนั้น เอกสารของผู้ว่าแบงก์ชาติฉบับนี้ก็คือการแสดงความเห็นแย้งไว้ในที่ประชุม...หากสุดท้ายแล้วผู้เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ทั้งหมดต้องรับชะตากรรมทางกฎหมาย...ผู้ว่าฯแบงก์ชาติและแบงก์ชาติ...ก็ถือว่าไม่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วย...ส่วนคนที่น่าจะต้องรับไปเต็มๆ ก็หนี้ไม่พ้น...คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง...ในฐานะที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบก่อนเมื่อนโยบายนั้นผิดพลาด...และในฐานะรัฐมนตรีว่ากากระทรวงการคลังก็ต้องโดนไปอีกหนึ่งกระทงโทษฐานที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแต่กลับไม่ให้ความสำคัญของความมั่นทางการคลัง...ทำให้ประเทศชาติก่อหนี้ก้อนโตโดยไม่จำเป็น...nn

อนันตเดช พงษ์พันธ์ุ