สมัยเรียนที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ผมเคยถามอาจารย์ท่านหนึ่งว่า ท่านมีวิธีตรวจข้อสอบ (อัตนัย) อย่างไร?
อาจารย์บอกว่า “ตรวจคำตอบก่อน แล้วค่อยย้อนขึ้นมาตรวจวิธีทำ”
เพราะด้วยสุดท้ายแล้วเราต้องวัดกันที่ผลลัพธ์ของสิ่งที่ทำ เลยต้องดูที่คำตอบก่อน ถ้าคำตอบผิด ก็มีแนวโน้มว่าวิธีทำจะผิด เมื่อตรวจคำตอบแล้ว จากนั้นค่อยมาดูในรายละเอียดวิธีคิดและวิธีทำ เพื่อหาที่ให้คะแนนเพิ่ม และในทางกลับกัน ก็หาที่หักคะแนน
บางคนคำตอบผิด ทั้งๆ ที่วิธีทำมาถูกทางแล้ว เสียตรงสะเพร่านิดหน่อย แบบนี้อาจารย์ก็จะพยายามหาที่ให้คะแนนเพิ่ม
ตรงกันข้าม มีบางคนคำตอบทะลึ่งถูก ทั้งๆ ที่วิธีคิดผิด อาจารย์เองก็งงเหมือนกันว่ามันมาได้ยังไง ซึ่งหลายครั้งพบว่าเป็นความบังเอิญ (ฟลุคสุดๆ) บ้างก็เกิด
จากความมักง่ายแอบดูคำตอบชาวบ้าน แล้วเอามาเขียนใส่กระดาษคำตอบตัวเองดื้อๆ แบบไม่สนใจที่มาที่ไป
มาถึงตรงนี้ ผมถามอาจารย์ว่า แบบไหนดีกว่ากัน ระหว่าง วิธีคิดถูกคำตอบผิด กับวิธีคิดผิดคำตอบถูก
อาจารย์ตอบได้ประทับใจผมเหลือเกิน แกตอบว่า... เฮงซวยทั้งคู่ 555 เพราะดีที่สุด คือ วิธีคิดวิธีทำถูก และคำตอบถูก
แต่ถ้าจะให้เลือก ... คนที่วิธีคิดถูก แล้วสะเพร่าคำตอบผิด ถือว่าใกล้เคียงกว่า และพัฒนาได้ง่ายกว่า เพราะถือว่า Basic ความรู้ได้ ทักษะการคิดเบื้องต้นได้ และไปต่อได้ไม่ยาก
ในทางตรงกันข้าม พวกคำตอบถูก แต่วิธีการผิด พวกนี้อาจารย์บอกว่าอันตรายมาก เพราะคำตอบที่ถูก จะทำให้พวกเขาติดและจำว่า สิ่งที่ตัวเองคิดนั้นถูกต้อง และอาจเป็นอันตรายต่อการนำไปใช้ครั้งต่อๆ ไป
ในโลกการลงทุน มีหลายครั้งเหมือนกันที่ผลลัพธ์การลงทุน ไม่สอดคล้องกันกับวิธีคิด ผมเองก็เคยคิดแบบผิดๆ ซื้อทรัพย์ลงทุนแบบลวกๆ ฟังแต่ตัวเลข ไม่ใส่ใจ
ข้อมูลเชิงคุณภาพ ดูว่าตัวเลขค่าเช่าได้ ก็ลงทุนเลย แต่ดันฟลุคได้ผลลัพธ์ที่ดี
ซึ่งสุดท้ายแล้วผมมองว่าเป็นเรื่องเลวร้ายมากเช่นเดียวกับการทำข้อสอบ เพราะผลลัพธ์ที่ดีทำให้เรารู้สึกมั่นใจในสิ่งที่ทำ และทำให้กล้าลงทุนมากขึ้น ในสเกล
ที่ใหญ่ขึ้น และอาจส่งผลเสียหายตามมาในภายหลังได้อย่างมาก
จะว่าไปแล้วโลกการลงทุนนั้นแตกต่างจากการทำข้อสอบ
เพราะข้อสอบนั้นมักมีสมมุติฐาน และข้อจำกัด(Constraint) ที่บังคับให้เรามีคำตอบได้เพียงคำตอบเดียวเพื่อให้ง่ายต่ออาจารย์ในการประเมินว่าใครเข้าใจสิ่งที่ได้เรียนรู้ไป
แต่การลงทุนนั้นมีปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องมากมายจนหลายครั้งไม่มี The Best Solution หรือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน จะมีก็เพียงแต่ Optimum Solution หรือคำตอบที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล หรือแต่ละครั้ง แต่ละโอกาสการลงทุน
ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ “กระบวนการคิด” มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นไปอีก
ดังนั้น ภายหลังการตัดสินใจลงทุนในทุกครั้ง ตรวจสอบผลลัพธ์กับวิธีคิดของตัวเองอีกสักครั้งว่ามันสอดคล้องกันหรือไม่ ถ้าได้ผลลัพธ์ที่ดี (คำตอบถูก)
ดูสิว่าเพราะเราคิดถูกหรือฟลุค
แต่ถ้าได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดี (คำตอบผิด) ให้รีบศึกษาเรียนรู้ใหม่ และปรับเปลี่ยนกระบวนการคิดกระบวนการทำงานให้ถูกต้อง เพื่อพัฒนาตัวเองสู่การเป็นนักลงทุนที่ดี
เพราะมีแต่นักลงทุนที่ดีเท่านั้น ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีได้ครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี