กระทรวงต่างประเทศกัมพูชา แถลงวันที่ 23 สิงหาคมว่า พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี แห่งกัมพูชา และ พระบรมราชชนนี นโรดม มุนีนาถ สีหนุ พระวรราชมารดา เสด็จพระราชดำเนินออกจากกรุงพนมเปญ ไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนเพื่อตรวจพระวรกายประจำปี
ในระหว่างนี้ สมเด็จฯฮุนเซน จะรับตำแหน่งประมุขแห่งรัฐ รักษาการแทน ในระหว่างที่พระองค์ไม่ประทับในราชอาณาจักรกัมพูชา
นักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียอาคเนย์มองว่า พระบรมนาถแห่งกัมพูชา น่าจะมีพระราชกรณียกิจทางการทูตมากกว่าตรวจพระวรกายประจำปี “สังเกตจากการพระดำเนินอย่างกระฉับกระเฉง เชื่อว่าพระองค์น่าจะมีพระราชกรณียกิจทางการทูตมากกว่าทรงตรวจพระวรกาย”
ผมคิดว่านี่เป็นหมากการเมืองของฮุนเซน ที่ใช้ราชวงศ์กอบกู้ความสัมพันธ์กับปักกิ่ง ที่เสื่อมทรามลงอย่างน่าตกใจ มีรายงานว่า ฮุนเซนเอง ขอไปเยือนปักกิ่งเป็นทางการ แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากปลายสาย เป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจของจีนที่ ฮุนเซน ทรยศหักหลัง หันไปพึ่งพาสหรัฐอเมริกามาช่วยแก้ปัญหาขัดแย้งกับประเทศไทย
ธรรมชาติของจีนไม่โฉ่งฉ่างโวยวาย หรือไม่ให้ความสำคัญตัวอย่างเช่นระหว่างประชุมความร่วมมือ “ลานช้าง-น้ำโขงที่มณฑลยูนนาน นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เชิญรมต.ต่างประเทศลาว พม่า และไทย ประชุมนอกรอบสี่ฝ่าย ปรึกษาหารือกันเรื่องปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดน
กัมพูชา เป็นแหล่งใหญ่ที่สุดของอาชญากรรมข้ามพรมแดน เช่น ไซเบอร์สแกม หลอกลวงฉ้อโกงออนไลน์ ค้ามนุษย์ บ่อนการพนัน และค้ายาเสพติด แต่นายหวัง ไม่เชิญ รมต.ต่างประเทศกัมพูชา เข้าร่วมประชุมด้วย “หวัง อี้ ทำราวกับว่ากัมพูชาไม่มีตัวตนอยู่ที่นั่น” แหล่งข่าวกล่าว
ยูเอ็นรายงานเมื่อเดือนมิถุนายน ว่า กัมพูชาเป็นแหล่งสแกมเมอร์ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเหตุให้สหรัฐไม่ผลีผลามช่วยกัมพูชา ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงประกอบกับนายสม รังสี อดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาที่ลี้ภัยในฝรั่งเศสแฉกับสื่อต่างประเทศว่า..
..เครือข่ายระบอบฮุนเซน มีรายได้หลักจากแหล่งสแกมเมอร์และบ่อนการพนัน “กิจการผิดกฎหมายทำให้ฮุนเซน มีทรัพย์สินกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ฮุนเซน รวยกว่าประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ที่มีทรัพย์สินประมาณหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์”
สม รังสี คู่แค้นทางการเมือง ฮุนเซน โพสต์เฟซบุ๊กและให้สัมภาษณ์สื่อตะวันตก ว่า “ฮุนเซน ร่ำรวยแต่ประเทศกัมพูชายากจนประชาชนกำลังจะอดตาย ทหารพื้นบ้านถูกบังคับให้ใช้อาวุธรุ่นเก่า ที่ตกค้างตั้งแต่สงครามอินโดจีน”
นอกจากนั้น สม รังสี ยังโพสต์ภาพทหารเขมรใส่รองเท้าแตะ ซึ่งแตกต่างกับทหาร BHQ หน่วยพิทักษ์ฮุนเซน ที่ติดอาวุธทันสมัยใส่เครื่องแบบหรู
ข้อมูลของ สม รังสี ตรงกับนักวิเคราะห์ ที่ระบุว่า เศรษฐกิจกัมพูชากำลังล่มสลาย เงินทุนสำรองหมดประเทศ เงินเรียลกลายเป็นเศษกระดาษ ฮุนเซน จึงดิ้นรนทุกด้านให้จีนหันมาสนับสนุนเหมือนเดิม หลายฝ่ายจึงเชื่อว่า พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี แห่งกัมพูชา เสด็จฯปักกิ่งครั้งนี้เพื่อทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจทางการทูตแทนฮุนเซน
รศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอาเซียน วิเคราะห์ว่า กัมพูชาหันไปซบสหรัฐฯทำให้จีนซึ่งให้การช่วยเหลือกัมพูชาอยู่ ไม่พอใจและหยุดให้การช่วยเหลือซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมปัญหาในช่วงที่ประเทศเกิดวิกฤต
รศ.ดร.อัทธ์ กล่าวต่อว่า วิกฤตเศรษฐกิจของกัมพูชาครั้งนี้ส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น จาก 3% เป็น 5% เนื่องจากสินค้าของไทยที่เข้าไปขายในกัมพูชานั้นคิดเป็น 30% ของสินค้าในตลาดกัมพูชาทั้งหมด เมื่อไทยปิดด่านไม่ส่งสินค้าไปกัมพูชา สินค้า 30% ดังกล่าวก็หายไปจากตลาด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภค-บริโภค น้ำมัน รวมถึงอินเตอร์เนต ทำให้ราคาสินค้าในกัมพูชาปรับตัวสูงขึ้นอย่างน้อย 5% อีกทั้งการซื้อสินค้าจากจีนและเวียดนาม รวมถึงซื้อน้ำมันจากสิงคโปร์มาทดแทน ก็ทำให้ต้นทุนสินค้าและน้ำมันในกัมพูชาเพิ่มขึ้นเนื่องจากระยะทางในการขนส่งสินค้าไกลกว่าที่สั่งซื้อจากไทย อีกทั้งคุณภาพยังสู้สินค้าไทยไม่ได้
จากเดิมที่เศรษฐกิจของกัมพูชาเติบโตปีละ 5-6% แต่ผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาจะทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาลดลงเหลือ 3-4%เนื่องจากราคาสินค้าแพงขึ้น แรงงานกัมพูชาที่เดินทางกลับประเทศนับแสนคนต้องตกงาน และภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันไม่มีประเทศไหนกล้าเข้าไปลงทุนในกัมพูชาเพราะนอกจากจะมีปัญหาสู้รบตามแนวชายแดนแล้ว การที่กัมพูชาปั้นข่าวเท็จเพื่อตอบโต้กับไทยอย่างต่อเนื่องนั้นทำให้นักธุรกิจต่างชาติไม่มั่นใจว่าข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกโดยรัฐบาลกัมพูชานั้นจะเป็นตัวเลขจริงหรือปลอม” รศ.ดร.อัทธ์ กล่าว
พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ อดีตที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 และหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตอนนี้ฮุนเซน หมดตัวแล้วการที่เขาหักหลังจีน เขาคิดสั้นๆ เพราะกลัวว่าประเทศตะวันตกจะเอานายสม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชา มาล้มตระกูลฮุน นายฮุนเซน เลยหันไปซบสหรัฐฯ แต่ลืมนึกไปว่าประเทศกัมพูชามีหนี้สินจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะเป็นหนี้จีน ส่งผลให้จีนตัดการช่วยเหลือกัมพูชาทั้งหมด
ฮุนเซน ก็ส่งคนไปคุยทั้งจีนและยุโรป ซึ่งทางยุโรปยื่นข้อเสนอมาว่า จะให้ความช่วยเหลือแต่กัมพูชาต้องยอมให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เข้าไปบริหารจัดการซึ่งหาก IMF เข้าไปกัมพูชาจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ขณะที่จีนยื่นเงื่อนไขว่าจะเข้าไปช่วยกัมพูชาก็ได้แต่ว่า จีนต้องเป็นคนตัดสินใจในการบริหารทั้งสนามบินและท่าเรือในกัมพูชา งานนี้เรียกว่าฮุนเซน ขายชาติเลยทีเดียว” พล.อ.รังษี ระบุ
จีน เป็นคู่แข่งสำคัญของสหรัฐอเมริกา ทั้งสงครามการค้า และความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลก การต่อสู้ทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคอาเซียน ต้องยอมรับว่าจีนถือไพ่เหนือสหรัฐตลอดเวลาสามทศวรรษที่ผ่านมา
เนื่องจากว่าสมาชิกอาเซียนส่วนใหญ่เอนเอียงไปทางจีน โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มลุ่มน้ำโขง กัมพูชา ลาว พม่า และประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกัมพูชา ซึ่งออกหน้าแทนจีนตลอดมาในประเด็นความขัดแย้งทะเลจีนใต้ ที่สหรัฐกับจีนใช้เวทีประชุมอาเซียนต่อสู้กันทางภูมิรัฐศาสตร์
ปี 2555 กัมพูชา เป็นเจ้าภาพอาเซียนซัมมิต ฐานะประธานหมุนเวียนอาเซียน ฮุนเซน ฉีกหน้าอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา โดยการทำโปสเตอร์ขนาดยักษ์ติดรูป ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พร้อมเขียนคำว่ายินดีต้อนรับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง สู่กัมพูชาที่สนามบินและทั่วกรุงพนมเปญ แต่ทำป้ายผ้าขนาด2x3 เมตร ต้อนรับโอบามา หน้าโรงแรมที่พักเพียงผืนเดียว
นอกจากนั้น ฮุนเซน ยังถอนวาระทะเลจีนใต้ ออกจากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน+คู่เจรจา เมื่อผู้สื่อข่าวติดตามโอบามา ถามเรื่องทะเลจีนใต้ ฮุนเซน ตอบว่า ผมเหน็ดเหนื่อยจากการประชุมมาหลายวัน ขอหยุดการแถลงข่าวเพียงเท่านี้
พูดได้ว่า ฮุนเซน ทอดกายถวายชีวิตให้จีนในปัญหาทะเลจีนใต้ ที่เรื้อรังมานาน อาเซียนซัมมิต 2025 ที่มาเลเซีย เป็นภาพที่จะมีขึ้นในเดือนตุลาคม นายอันวาร์ อิบราฮิม ประธานหมุนเวียนอาเซียนกล่าวว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา จะเข้าร่วมประชุมพร้อมกัน
น่าสนใจที่สองมหาอำนาจเผชิญหน้ากันในอาเซียนซัมมิตขณะที่กัมพูชาแปรพักตร์ไปเข้าข้างสหรัฐอเมริกา นักวิเคราะห์จึงมองว่า กษัตริย์กัมพูชาเสด็จฯเยือนปักกิ่งมีนัยสำคัญ “การเสด็จฯเยือนของราชวงศ์ครั้งนี้ จีนอาจใช้โอกาสการเยือนของกษัตริย์กัมพูชาจัดระเบียบความสัมพันธ์กับพนมเปญ ก่อนอาเซียนซัมมิต” แหล่งข่าวกล่าว
และอธิบายว่าปักกิ่งอาจกลับมาช่วยเหลือกัมพูชาอย่างมีเงื่อนไข คือ กัมพูชาต้องไม่สร้างปัญหาความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากจีนมุ่งมั่นการค้าและพัฒนาตามโครงการOne Belt One Road หรือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง สงครามใดๆที่เกิดขึ้นล้วนเป็นอุปสรรคต่อโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
จะเห็นได้ว่าจีนพยายามเสนอแนวทางสร้างสรรค์ให้ไทย-กัมพูชา เจรจาตกลงกันฉันเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นมิตรกับจีนทั้งสองฝ่าย แต่เมื่อกัมพูชาดื้อรั้นหันไปดึงสหรัฐฯเข้ามาแทรกแซงจีนก็ทำได้เพียงไม่ให้รหัสจรวด PHL-03 จรวดสิบหกลำกล้องที่มีศักยภาพต่อต้านอากาศยาน และอานุภาพยิงไกล 130 กม.
ฮุนเซน ผู้อหังการเมื่อกลายเป็นหมาหัวเน่าเข้าใครไม่ได้จำเป็นต้องยอมให้จีนจัดระเบียบความสัมพันธ์ใหม่ เพื่อความอยู่รอดเฉพาะหน้า ต่อลมหายใจให้ตระกูลฮุนและเครือข่าย ไม่ใช่ต่อลมหายใจให้ประเทศกัมพูชาโดยรวม
เชื่อว่ากัมพูชาอยู่ในภาวะจนตรอก ต้องจำใจเว้นวรรคการแว้งกัดประเทศไทยไประยะหนึ่ง นักวิเคราะห์กล่าว
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี