แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระ และข้อเท็จจริง...nnรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่คอการเมืองไทยให้ความสนใจกับข่าวคราวที่เกิดขึ้นภายในประเทศ 2 ข่าวใหญ่ๆคือ “ทักษิณ” ติดคุก กับ การฟอร์มทีมเพื่อจัดตั้งครม.ของ “รัฐบาลอนุทิน”
...nn หากแต่ภายนอกประเทศ ก็ยังมีข่าวใหญ่ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจก็คือ เหตุการณ์ประท้วงรัฐบาลเนปาลของประชาชนที่เผาทุกอย่างที่ขวางหน้า และมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
...nn “คชสีห์” ขอนำเอาบันทึกชนวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาถ่ายทอดไว้ ณ ที่นี้เพื่อเป็นแนวทางในการเรียนรู้ และข้อพึงระวังไม่ให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยของเรา
...nn การประท้วงที่เกิดขึ้นในเนปาล เกิดจากหลายสาเหตุที่สะสมมาเป็นเวลานาน โดยผู้ประท้วงส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่หรือ Gen Z ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการเคลื่อนไหวครั้งนี้
...nn ชนวนที่จุดประกายให้เกิดการประท้วงคือการที่รัฐบาลสั่งปิดกั้นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียกว่า 26 แพลตฟอร์ม เช่น Facebook, X (Twitter), และ YouTube โดยอ้างว่าบริษัทเหล่านี้ไม่ได้ลงทะเบียนกับทางการตามกฎหมายใหม่ ผู้ประท้วงมองว่านี่เป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและเป็นความพยายามของรัฐบาลที่จะปิดกั้นการวิพากษ์วิจารณ์
...nn อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์กันว่า แม้การแบนโซเชียลมีเดียจะเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้าย แต่สาเหตุที่แท้จริงของการประท้วงมาจากความไม่พอใจที่สั่งสมมานานจากปัญหาสำคัญของประเทศ ได้แก่ : การคอร์รัปชั่น :ผู้ประท้วงจำนวนมากไม่พอใจกับการทุจริตอย่างกว้างขวางในภาครัฐ และการที่กลุ่มชนชั้นนำทางการเมืองใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะเมื่อมีการเผยแพร่ภาพชีวิตของ “ลูกหลานนักการเมือง” (Nepo Kids) บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งสวนทางกับสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วไป
...nn เศรษฐกิจที่ถดถอย :คนหนุ่มสาวในเนปาลต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนโอกาสในการทำงาน ทำให้มีคนกว่า 2,000 คนต่อวัน ต้องเดินทางไปหางานทำในต่างประเทศ การประท้วงจึงเป็นเสียงสะท้อนถึงความสิ้นหวังในอนาคตที่ดีกว่าในประเทศของตนเอง
...nn ความเหลื่อมล้ำ : ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและโอกาสที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนรุ่นใหม่รู้สึกว่าพวกเขาถูกทอดทิ้งและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบบการเมืองและเศรษฐกิจในปัจจุบัน
...nn การประท้วงในเนปาลครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ปฏิกิริยาต่อการแบนโซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่เป็นการลุกขึ้นสู้ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเพื่อยุติปัญหาการคอร์รัปชั่นและความเหลื่อมล้ำที่กัดกินสังคมมานานหลายปี…ทั้งนี้ สถานการณ์ในเนปาล เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ประท้วงพุ่งสูงถึง 51 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก โดยทางการเนปาลได้ประกาศคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถาน และคำสั่งเคอร์ฟิว ในพื้นที่หลัก เช่น กรุงกาฐมาณฑุ เพื่อควบคุมสถานการณ์ ขณะที่ได้เกิดเหตุจลาจล นักโทษกว่า 15,000 คน จากเรือนจำหลายแห่งทั่วประเทศได้แหกคุกออกมา
...nn โฟกัสไปที่ สถานการณ์การเมืองของเนปาลกันบ้าง โดยนาทีนี้ต้องถือว่า ได้เกิด“ภาวะสุญญากาศทางการเมือง” หลังจากที่ “นายกรัฐมนตรี เคพี ชาร์มา โอลี”ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อหวังจะคลี่คลายวิกฤต แต่ถึงที่สุดแล้วม็อบก็ยังไม่ยุติ จนกระทั่ง “กองทัพเนปาล” ได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์และได้เริ่มเจรจากับกลุ่มผู้ประท้วงเพื่อหาทางออก และเตรียมเสนอชื่ออดีตประธานศาลฎีกามาเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ
...nn กลับมาที่ประเทศไทย ข่าว “ทักษิณ” ติดคุกยังถูกเกาะติดตลอด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วันอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม
...nn “กรมคุก” แจ้งข่าวว่า การควบคุมตัว “ทักษิณ” ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม เป็นคืนที่สาม (11 ก.ย.) ได้รับรายงานการหลับนอนยังคงปกติ ไม่มีอาการเครียด สามารถทานอาหารได้ครบทุกมื้อ แต่พบมีความดันขึ้นสูงมากกว่าปกติและนำยาประจำตัวเข้ามาไว้ทานเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรน่ากังวล ส่วนการอยู่กับผู้ต้องขังอื่นทราบว่าได้พูดคุยตามปกติทั่วไป ไม่มีการเก็บตัวแต่อย่างใด
...nn ยังต้องจับตามองกันอย่างใกล้ชิดสำหรับแนวคิดในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากที่ประชาชนไทยส่วนใหญ่คัดค้านไม่เห็นด้วยกับการเปิดด่าน โดยทัวร์ไปลงที่ “บิ๊กเล็ก”พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ว่าที่รมว.กลาโหม ภายหลังจากที่ออกมาเปิดเผยว่า“มีประเทศที่สาม” กดดันไทยให้เปิดด่านชายแดนกับกัมพูชา โดยต่อมามีการระบุว่าเป็นประเทศญี่ปุ่น
...nn ร้อนถึง “บิ๊กเล็ก” ได้โผล่ออกมาบอกปัดเรื่องการเปิดด่านเป็นพัลวัน โดยชี้แจงว่า ยังไม่มีการเปิดด่านในขณะนี้ และแนวคิดดังกล่าวเป็นเพียงการหารือในเชิงหลักการเพื่อเตรียมความพร้อมในระยะต่อไปเท่านั้น ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ในปัจจุบัน แต่หากมีการเปิดด่านในอนาคต ก็จะเน้นการผ่อนปรนเฉพาะสำหรับรถบรรทุกสินค้าเท่านั้น ไม่รวมถึงการเดินทางของบุคคลทั่วไป
...nn อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ก็มีเสียงคัดค้านและข้อกังวลจากหลายฝ่ายโดยเฉพาะจากแม่ทัพภาคที่ 2 และเสนาธิการทหาร ที่มองว่า การเปิดด่านในสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังมีความตึงเครียดและกัมพูชายังไม่ได้ถอนกำลังทหารและอาวุธหนักออกจากพื้นที่ อาจส่งผลเสียต่อไทยในระยะยาวได้
...nn “บิ๊กกุ้ง” พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำคำว่่า ฝั่งนั้นมีทั้งบ่อนกาสิโน และที่หลอกลวงทางโซเชียลมีเดียตลอดแนวชายแดน สินค้าบางส่วนเช่น ปูนซีเมนต์ น้ำมัน จะกลับมาทำร้ายทหารไทย การทำให้เขาไม่เดือดร้อนรบกับประเทศไทยก็อยู่ได้ เพราะเขามีกินตลอดนี่คือเหตุผลว่าทำไมต้องปิดด่าน มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งพูดว่าผลประโยชน์ของชาติต้องมาก่อนประโยชน์ส่วนตน พี่น้องที่ค้าขายกระทบ ก็ต้องยอมรับว่ากระทบ แต่พี่น้องที่ค้าขายบางคนให้สัมภาษณ์ว่าบางท่านยอมให้ปิดด่านขอให้ประเทศไทยรบชนะเท่านั้น การเปิดด่านทำให้เขาเข้มแข็งน้ำมันและปูนซีเมนต์ รวมถึงเครื่องอุปโภค-บริโภคก็จะเข้าไป ซึ่งมาจากประเทศไทยทั้งนั้น แม้กระทั่งเรื่องการเปิดด่านมีประชาชน ถูกมอมเมาจากบ่อนการพนัน หมดเนื้อหมดตัว เป็นหนี้สิน อันนี้ก็มาจากเรื่องการเปิดด่านจึงไม่รู้ว่าเป็นประโยชน์ของใคร
...nn “แม่ทัพฯถึงบอกเสมอว่าคิดให้ดีเรื่องด่านเพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้เล่าให้ฟังว่าเป็นอย่างนี้ และขอให้พวกเราติดตามข้อมูลข่าวสารรัฐบาลก็อาจจะมีเหตุผลของเขาต้องฟังว่าเป็นอย่างไร ต้องให้เรามีสติในการรับรู้ข่าวสารและช่วยกันดูแลประเทศไทยของเรา หนึ่งเสียงรวมกันก็ไปหลายเสียง นี่คือความเห็นของผม”
...nnตบท้ายสุดสัปดาห์ เตือนกันเอาไว้ตรงนี้ ที่ค่าเงินบาทแข็งโป๊กอยู่ในขณะนี้ เกิดจากส่งออกทองได้ดอลลาร์เข้ามามากผิดปกติ ส่งผลให้เงินบาทเลยแข็งผิดปกติ แต่ผู้ว่าฯแบงก์ชาติยังแกล้งมองไม่เห็น มองไม่ออก หรือเหมือนแกล้งมองไม่ออกยังแกล้งตาบอดอยู่ไม่ยอมเข้ามา intervene รักษาระดับค่าเงินบาทให้ exporters ส่งออกสินค้าสู้เขาได้ ตอนนี้ คนค้าขายชาวบ้านในประเทศเดือดร้อนกันทั่วหน้า ที่ผ่านมา “ระบอบทักษิณ”ทำร้ายประเทศไทยมาหลายปี ผู้ว่าแบงก์ชาติต้องอย่าทำเป็นหลับ ออกมาแอ๊กชั่นได้แล้ว!!...nn
คชสีห์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี