“จำนวนผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น”
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) อัพเดตหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลในภาพรวมกำไรใน 2Q68 ของโรงพยาบาลส่วนใหญ่ที่เราศึกษาอยู่เป็นไปตามความคาดBCH และ CHG ดูดีกว่าบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่ม เพราะได้รับชำระค่ารักษาโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (RW>2) จากสำนักงานประกันสังคม (SSO) ใน 2Q68 จากที่ได้รับผลกระทบจากประเด็นนี้ใน 2Q67 เพราะ SSO ไม่สามารถชำระค่ารักษาในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี 2566 ได้ เนื่องจากงบประมาณไม่เพียงพอ
BCH: กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 388 ล้านบาท (+40.1% YoY, +21.3% QoQ) กำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นเพราะ i) ไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากการ write-off รายได้ประมาณ 80 ล้านบาทจากค่า RW>2 จาก SSO เหมือนกับใน 2Q67 ii) รับรู้รายได้บางส่วนจากค่า RW>2 ใน 2Q68 และ iii) ไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากการที่รัฐบาลคูเวตไม่ได้ส่งผู้ป่วยมารักษา เพราะผู้ป่วยกลุ่มนี้หายไปตั้งแต่ 2Q67 แล้ว
CHG: กำไรฟื้นตัวขึ้น YoY ใน 2Q68 โดยมีกำไรสุทธิ 208 ล้านบาท (+8.0% YoY, -7.8% QoQ) เพราะ i) ไม่ถูกกระทบจากการ write-off รายได้ 53 ล้านบาทจากค่า RW>2 จาก SSO เหมือนกับใน 2Q67 ii) รับรู้รายได้จากค่า RW>2 ตามปกติใน 2Q68 และ iii) จำนวนผู้ป่วยต่างชาติ (ตะวันออกกลาง และเมียนมาร์) ฟื้นตัวขึ้นใน 2Q68
เมื่อพิจารณาจากผลการดำเนินงาน 2Q68 พบว่าโรงพยาบาลใหญ่ได้อานิสงส์จากจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ขณะที่จำนวนผู้ป่วยไทยเพิ่มไม่มากเท่า เนื่องจาก i) ไม่เกิดโรคร้ายแรงในช่วง 2Q68 และ ii) สถานการณ์ทางเศรษฐกิจอ่อนแอลง YoY ทั้งนี้ รายได้ใน 2Q68 จากผู้ป่วยต่างชาติของ BDMS เพิ่มขึ้น 9% YoY ในส่วนของผู้ป่วย 10 สัญชาติหลัก เมื่อเทียบกับรายได้จากผู้ป่วยชาวไทยเพิ่มขึ้น 4% YoY)
ถึงแม้จะมองบวกกับแนวโน้มผลการดำเนินงานของกลุ่มโรงพยาบาลใน 3Q68F แต่ยังเป็นห่วงเกี่ยวกับการที่โรคตามฤดูกาลชะลอตัวลง ในปีนี้ เพราะปริมาณฝนที่ตกน้อยลงน่าจะทำให้รายได้จากการรักษาโรคสามัญของโรงพยาบาลต่าง ๆ โตลดลง และมีอีกหนึ่งปัจจัยลบคือกรณีพิพาทชายแดนไทยและกัมพูชา แต่ผลกระทบไม่น่าจะรุนแรงมากนัก
แนวโน้มกำไร 3Q68F เราคาดว่าผลงานของโรงพยาบาลส่วนใหญ่จะออกมาน่าพอใจในแง่การเติบโตทั้ง YoY และ QoQ ปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนกำไรได้แก่ i) โมเมนตัมเชิงบวกของจำนวนผู้ป่วยต่างชาติ ii) อัตรากำไรที่แข็งแกร่งจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและ intensity ในไตรมาสที่ peak สุดในรอบปี และ iii) โรงพยาบาลขนาดกลางขาดทุนลดลงจากที่ได้ขยายกิจการในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เรายังคาดว่ากำไรของกลุ่มจะโต 5.4% YoY ในปี 2568F และ 11.8% YoY ในปี 2569F เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ Overweight โดยยังคงเลือก BCH และ BDMS เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ที่ 16.50 บาท และ 32.00 บาทตามลำดับ
ปัจจัยเสี่ยงจากโรคระบาด และ เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด
ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี