nn ในขณะนี้ที่การจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ยังฝุ่นตลบอยู่ ณ ตอนนี้...แต่หลายคนกำลังเหมือนจะเข้าใจว่าหนึ่งเก้าอี้ที่ดูเหมือนจะนิ่งแล้ว นั่นคือ...รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง...ที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จะควบตำแหน่งนี้เอง....!! เอาจริงนะ..ทำไมต้องเป็นเช่นนั้น????...จะแยกร่างกันอย่างไร...เพราะทั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง...งานหนักมากนะครับ...และในช่วงที่สภาพการเศรษฐกิจไทยขณะนี้ทั้งสองตำแหน่งนี้ต้องทำงานอย่างหนัก....หรือจริงแล้วตอนนี้ยังหาตัวเจ๋งๆ ที่จะมานั่งตำแหน่งนี้ไม่ได้...เพราะหากตั้งรัฐมนตรีคลังแล้วคนไม่ว้าว...ความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็จะไม่มี...ตอนนี้ก็เลยต้องเอานายรัฐมนตรีมาขัดตาทัพไว้ก่อน....!! แว่วมาว่ามีการทาบทามมือดีดีแล้วเหมือนกันและเชื่อว่าสังคมต้อง OK....หนึ่งในนั้นคือคุณอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCBX)...(ยานแม่ของธ.ไทยพาณิชย์)...แน่นอนว่าชื่อนี้เบอร์ต้นๆ ของนักการเงินบ้านเราเลยและเรียกเสียงว้าวได้แน่...แต่ว่าคุณอาทิตย์เขาไม่สนใจกับตำแหน่งรมว.คลัง....ผู้จัดการครม.ก็เลยต้องไปมองหาคนอื่น...และที่แวดวงการเงินได้ยินมาอีกชื่อหนึ่งก็คือ “เดอะตู่”...คุณกฤษฎาจีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง...ที่กำลังเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้...ซึ่งก็ต้องบอกว่าไม่ขี้เหร่เลยนะ....เข้ามาแล้วทำงานได้ทันทีไม่ต้องเรียนรู้งาน...เพราะทุกซอกทุกมุมในเรื่องการคลังดีอยู่แล้ว...!! ส่วนคนที่มองว่าการที่นายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพราะต้องการเร่งผลักดันนโยบาย “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ที่จะแจกให้คนละ 1 หมื่นบาท...ตามที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงเอาไว้นั้น...เอาจริงทำได้ไม่ง่ายนะครับ...แม้จะทำได้แต่ก็ถึงขั้นต้องแก้กฎหมายเลยนะครับผม....เพราะเงินดิจิทัลโดยลักษณะอาจถือเป็นการออกเงินตราอย่างหนึ่ง ซึ่งเมื่อมีสภาพเป็นเงินตรา จะเข้าข้อบังคับของพระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ.2501...ซึ่งกฎหมายยังระบุไว้ว่า...การออกสิ่งใดที่เป็นเงินตราผู้ออกสามารถขออนุญาตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่จะอนุญาตให้เอกชนรายใดรายหนึ่งอนุมัติสิ่งที่เป็นลักษณะเงินตรานั้นทำไม่ได้ เพราะ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย บัญญัติให้ ธปท. เป็นองค์เดียวที่มีอำนาจออกเงินตรา....!! ตัวอย่างเคยมีมาแล้วถ้ายังจำกันได้คือกรณีของ “เบี้ยกุดชุม”...นั่นก็ผิดกฎหมายเช่นกัน....แล้วกติกาที่บอกว่า...แต่เงินดิจิทัลนี้จะใช้จ่ายได้เฉพาะกับร้านค้าชุมชนใกล้บ้าน ในรัศมี 4 กม.เท่านั้น มีอายุการใช้งาน 6 เดือน และร้านค้าสามารถนำเงินดิจิทัลมาแลกเป็นเงินบาทได้กับธนาคารรัฐในภายหลัง...!! แล้วคนที่อยู่บนยอดดอย อยู่ในพื้นที่ห่างไกล...จะเอาเงินดิจิทัลที่ว่านี้ไปใช้ตรงไหน...มีร้านค้าแถวๆ นั้นให้ได้ซื้อของหรือเปล่า????....!! สุดท้ายเลยระวังเจอคำว่า...มันเทคนิคการหาเสียง...นะครับพี่น้อง...nn
อนันตเดช พงษ์พันธ์ุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี