nn คนในวงการอุตสาหกรรมยาสูบฟันธงตรงกันว่า...อุตสาหกรรมยาสูบที่แย่อยู่ทุกวันนี้ก็เพราะโดย “บุหรี่เถื่อน” เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาด...และต้นตอที่ทำให้ “บุหรี่เถื่อน” เติบโตได้ปีละกว่า 100% ก็เพราะโครงสร้างภาษียาสูบ (2เทียร์) ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้...!! แต่วันนี้...แวดวงการเงิน...มีข่าวดีจะมาบอกว่า...ดร.เอกนิตินิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต... ทำโครงสร้างภาษียาสูบ (โครงสร้างใหม่) เสร็จแล้ว...ตอนนี้อยู่ระหว่างนำเสนอคุณเผ่าภูมิ โรจนสกุลรมช.คลัง...ในฐานะที่กำกับกรมสรรพสามิตเพื่อพิจารณา...!! แวดวงการเงิน...มั่นใจว่าโครงสร้างภาษียาสูบใหม่นี้...จะตอบโจทย์ความท้าทายเรื่องบุหรี่เถื่อน...และตอบโจทย์เรื่องรายได้รัฐจากภาษียาสูบได้แน่นอน...และที่จะตามมาคือตอบโจทย์เรื่องสุขภาพของประชาชน...เพราะเมื่อราคาบุหรี่ถูกกฎหมายสมเหตุสมผลมากขึ้นก็ไม่ต้องไปเสี่ยงเสพบุหรี่เถื่อนที่ไม่ได้มีการควบคุมเรื่องคุณภาพและผลกระทบต่อสุขภาพ...!! แต่สิ่งที่คนในวงการยาสูบอาจจะกังวลนิดๆ ก็ตรงที่...เปลี่ยนจากคุณจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ที่เคยกำกับกรมสรรพสามิต...มาเป็นคุณเผ่าภูมิ...อันเนื่องมาจากคุณจุลพันธ์ เป็น สส.ในพื้นที่ภาคเหนือ...ยอมเข้าอกเข้าใจชาวไร่ยาสูบ และอุตสาหกรรมยาสูบเป็นอย่างดี...เพราะพื้นที่ภาคเหนือคือ “เหมืองหลวงของอุตสาหกรรมยาสูบ”...แต่คุณเผ่าภูมิไม่ใช่...คุณเผ่าภูมิคือ “เทคโนแครต”...ที่เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์มหภาค...ก็เกรงว่าเรื่องโครงสร้างภาษียาสูบใหม่นี้จะต้องมาเริ่ม “นับหนึ่ง” กันใหม่อีกครั้ง...!! แวดวงการเงิน...ก็หวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น...เพราะหากไม่รีบแก้ปัญหานี้..ไม่เกิน 3-5 ปี อุตสาหกรรมยาสูบของไทยล่มสลายแน่ๆ...

nn เหมือนเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า...ที่ควรจะรีบทำให้มันจบๆเร็วๆ เสียที...เพราะตอนนี้ก็รุกหนักเหลือเกิน...ล่าสุด กรมศุลกากร กระทรวงสาธารณสุข ตำรวจสอบสวนกลาง..ก็เพิ่มจะยึดบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยากว่า 4 แสนชิ้น มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท คาท่าเรือสุขสวัสดิ์...การนี้คุณพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี (โฆษกกรมศุลกากร)…ผลงานชิ้นนี้เป็นการขยายผลจากการตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าในโกดังแห่งหนึ่งย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบสินค้าในโกดังเป็นบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนายทุนชาวจีนพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย นำเข้ามาจากประเทศจีนเพื่อนำมาขาย มีการสำแดง สินค้าผ่านกรมศุลกากรเป็นพลาสติก ซึ่งสินค้าดังกล่าวไม่ผ่านด่านศุลกากรอย่างถูกต้อง อีกทั้งยังเป็นสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายในประเทศไทย...!! แต่ก็อย่างที่บอกว่าจากจีนลักลอบเข้ามาปีละเกือบ 2 พันล้านบาท...จากมาเลเซียนั้นมากกว่าจะจีนเสียอีก...ปล่อยให้อยู่ “ใต้ดิน” ต่อไปยังไงก็จับไม่หมด...ทางแก้ที่ถูกต้องคือเอาขึ้นมาอยู่ “บนดิน” เพื่อจะได้มีกฎหมายมากำกับ...แก้ปัญหาได้หลายมิติ ทั้งมิติรายได้ภาษี มิติเรื่องสาธารณสุข มิติทางสังคม (คอร์รัปชั่นและการเข้าถึงของเยาวชน)...nn

อนันตเดช พงษ์พันธ์ุ