วันพฤหัสบดี ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
nn แว่วมาว่า...ดร.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต คนใหม่ล่าสุด...จะเข้ากรมฯวันแรกในวันอังคารที่ 26 พฤศจิกายนนี้...แวดวงการเงิน...เชื่อว่าหนึ่งโจทย์ใหญ่โจทย์แรกๆ ที่ ดร.กุลยา..จะต้องแก้คือ...การฟื้นฟูรายได้จากภาษียาสูบที่หดหายไปปีละ 1.7 หมื่นล้านบาท (ในปีงบประมาณ2567)...ทั้งนี้ก็เพราะว่าบุหรี่ที่ถูกกฎหมายนั้นขายได้ลดลงเนื่องจากถูกบุหรี่เถื่อนและบุหรี่ไฟฟ้าแย่งส่วนแบ่งตลาดไป...และหากจัดการกับบุหรี่เถื่อนไม่ได้หรือบริหารจัดการเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้...ส่วนแบ่งตลาดของบุหรี่เถื่อนและบุหรี่ไฟฟ้าก็จะยังเพิ่มขึ้นอีก (จากสถิติย้อนหลังปี 2560 มีแค่ 10% ปัจจุบันเพิ่มเป็น 25%) ด้วยอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเช่นนี้ อีกไม่เกิน 10 ปีก็จะไม่เหลือบุหรี่ถูกกฎหมายอยู่เลย...แน่นอนว่าเรื่องการกำจัดบุหรี่เถื่อนบุหรี่ไฟฟ้านั้น กรมสรรพสามิตทำเพียงลำพังไม่ได้...แต่ก็ต้องยอมรับว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บุหรี่เถื่อนเติบโตได้มากขนาดนี้ก็เพราะราคาของบุหรี่ถูกกฎหมายแพงเกินไป...เมื่อเทียบกับความสามารถในการซื้อของประชาชนผู้สูบบุหรี่...และก็ต้องยอมรับอีกเช่นกันว่าสาเหตุที่ทำให้บุหรี่ถูกกฎหมายมีราคาแพงก็เพราะประเด็นของ“ภาษียาสูบ แบบ 2 เทียร์”...อัตราภาษีที่สูงทำให้ราคาบุหรี่ถูกกฎหมายแพงมาก...ผู้บริโภคจึงหันไปใช้บุหรี่เถื่อนแทน ซึ่งราคาต่างกันเกือบ 40-50 บาท/ซอง...และส่วนหนึ่งก็หันไปสูบ“ยาเส้น”แทน ซึ่งก็ราคาถูกกว่าบุหรี่เถื่อนด้วย เหตุเพราะเสียภาษีในอัตราที่ต่ำมากๆๆ...!! กลับมาที่ภาษีบุหรี่...ดร.เอกนิตินิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีสรรพสามิต ท่านก่อนหน้านี้...เข้าใจดีว่าต้องแก้เรื่องภาษีแบบ 2 เทียร์...และก็ทำการศึกษาอย่างรอบด้านจนรู้ว่าทางที่ดีที่สุดคือภาษีแบบเทียร์เดียว...ซึ่งก็พยายามผลักดันมาตลอด 2 ปีนี้...เพียงแต่ระดับนโยบายไม่กล้าตัดสินใจ...ทำให้เรื่องไม่ไปถึงไหนสักที...แวดวงการเงิน...หวังใจเหลือเกินว่าภายในปีงบประมาณ 2568 นี้...เรื่องโครงสร้างภาษีจะได้รับการแก้ไขให้เป็นอย่างที่ถูกที่ควรเสียที...!! อ้อ..ว่าด้วยเรื่องภาษียาสูบแล้วนอกจากประเด็นของอัตราแล้ว...โครงสร้างภาษีควรนำมาทบทวนด้วยก็ดีเหมือนกัน...มูลค่าของบุหรี่ 1 มวน...มีภาษีอยู่ในนั้นถึง 82%...แบ่งเป็นภาษีสรรพสามิต ภาษีเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ (Earmarked Tax) ภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีมหาดไทย ภาษีมูลค่าเพิ่ม...!! อะไรมันจะมากมายขนาดนั้นว่าไหม...ลองมาช่วยกันคิดไหมว่าควรจะทบทวนกันอย่างไรดี...อีกเรื่องคือภาษียาเส้น...ที่ปัจจุบันเก็บกันอยู่ต่ำมากๆ...คือผลิตไม่เกิน 1.2 หมื่นกิโลกรัม/ปี เก็บที่ 0.025 บาท/กรัม...ถ้าเกิน 1.2 หมื่นกิโลกรัม เก็บที่ 0.10 บาท/กรัม...ที่เก็บต่ำมากๆ ขนาดนี้ก็หวังจะช่วยเกษตรกรรายย่อย...!! อยากจะบอกว่าคนที่ขายยาเส้นอยู่ตอนนี้คือเถ้าแก่ทั้งนั้น...โคตรจะรวยเลยขอบอก...อันนี้กลับมาคิดทบทวนกันใหม่ก็ดีไม่น้อยเช่นกัน... nn
อนันตเดช พงษ์พันธ์ุ

‘อบต.เหล่าหมี มุกดาหาร’จัดงานลอยกระทง งดพลุ แสง สี เสียง
‘นายกฯอนุทิน’ตอบเอง หลังชาวเน็ตโฟกัส‘ซิป’ งานนี้ฮาไม่เบา
วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี แปลอักษรถวายความอาลัย'สมเด็จพระพันปีหลวง'
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก‘อบต.นาฝาย ชัยภูมิ’นำเด็กฝึกทำกระทงใบตอง ลดค่าใช้จ่ายวันลอยกระทง
ส่งผ่าพิสูจน์! 'โลมาลายแถบ'เกยตื้นตาย'ชายหาดบาสัก' พบมีบาดแผลถลอก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี