วันพฤหัสบดี ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / โลกการค้า
โลกการค้า

โลกการค้า

วันพฤหัสบดี ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
โลกการค้า : 3 ธันวาคม 2566

ดูทั้งหมด

  •  

อสังหาริมทรัพย์ปีหน้าก็ยังเหนื่อย

** สายงานสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) ประเมินว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วงปี 2568-2569 จะยังอยู่ในช่วงปรับฐานและยอดขายยังไม่กลับสู่ระดับก่อนโควิด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับปี 2562 ที่ยอดขายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เคยแตะ 120,000 หน่วยต่อปี ซึ่งภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2568 ยังคงอยู่ในช่วงปรับฐานอย่างชัดเจน โดยคาดว่ายอดโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศปี 2568 จะอยู่ที่ราว 3 แสนหน่วย ลดลงจากระดับก่อนโควิด ที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ปีละประมาณ 4 แสนหน่วย ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี และยังมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปี


การเปิดตัวโครงการเปิดใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มลดลง คาดว่าทั้งปี 2568 จะมีเพียงประมาณ 41,160 หน่วย ลดลงกว่า 33% หรือราว 20,000 หน่วย จากปี 2567 มูลค่ารวมลดลงเหลือ 2.4 แสนล้านบาท จากระดับ 4.18  แสนล้านบาท ในปีก่อนหน้า ส่วนที่อยู่อาศัยที่มียอดขายลดลงมากที่สุดในปี 2568 คือ คอนโดมิเนียม ซึ่งมียอดขายหดตัวถึง 28% รองลงมาคือ กลุ่มบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ที่ลดลง 15% สะท้อนผลกระทบเชิงโครงสร้างต่อรายได้และกำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างชัดเจน อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมา ผู้ประกอบการหลายรายได้เปลี่ยนสัดส่วนการพัฒนาไปสู่บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดแทนทาวน์เฮ้าส์ ส่งผลให้เกิดภาวะบ้านเหลือขายในตลาดเพิ่มสูงขึ้นตามมา โดยคาดว่าสิ้นปีบ้านเดี่ยวเหลือขายจะสูงถึง 53,000 หน่วย โดยเฉพาะกลุ่มราคาสูง 25-50 ล้านบาท ที่มีหน่วยเหลือขายรวมอยู่ที่ 3,000 หน่วย

สำหรับสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2569 ยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่ลดลง อยู่ที่ประมาณ 6% จากอุปสงค์ของกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) ที่คาดว่าจะเริ่มกลับมาอย่างช้าๆ ประกอบกับมาตรการกระตุ้นจากนโยบายของรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้ง และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น เส้นทางรถไฟฟ้าส่วนขยาย การลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า และศูนย์ราชการแห่งใหม่ ตลอดจนโครงการของภาคเอกชนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ล้วนเป็นแรงขับเคลื่อนที่ช่วยหนุนการพัฒนาโครงการใหม่และเพิ่มมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่รอบนอก และในสภาพตลาดที่ระมัดระวังมากขึ้นนี้ ผู้ประกอบการหันมาพัฒนาโครงการขนาดเล็กลง เจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะ และให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า เพื่อบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสมกับระดับกำลังซื้อ ส่งผลให้ตลาดเริ่มปรับเข้าสู่ภาวะสมดุลมากขึ้น โดยคาดว่าจำนวนบ้านเหลือขายทั่วประเทศในปี 2569 จะลดลงเหลือประมาณ 207,998 หน่วย หรือลดลงราว 6% เมื่อเทียบปีก่อน

แม้ภาพรวมยังท้าทาย แต่หลายทำเลยังมีโอกาสเติบโตได้ดี โดยเฉพาะพื้นที่รับอานิสงส์จากรถไฟฟ้าสายใหม่ เช่น สายสีม่วงใต้ สีชมพู และสีส้ม รวมถึงโซนที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ ได้แก่ รัชดาภิเษก ลาดพร้าว สุขุมวิท บางนา หรือจังหวัดท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต และประจวบคีรีขันธ์ ที่มียอดขายที่ดี โซนที่มีโรงเรียนนานาชาติ อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้าที่เปิดใหม่หรือกำลังปรับปรุง มักจะเห็นการขยายตัวของธุรกิจโดยรอบ และสร้างยอดขายแตกต่างจากโซนอื่นๆ อย่างไรก็ตามยังมีประเด็นที่ต้องเฝ้าระวัง โดยเฉพาะกลุ่มบ้านทาวน์เฮ้าส์ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท และ 3-5 ล้านบาท ยังคงมีจำนวนหน่วยเหลือขายประมาณ 115,000 หน่วย หรือประมาณ 57% ของจำนวนหน่วยเหลือขายทั้งหมด กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ เช่น รังสิต-นครนายก กรุงเทพฯ-ปทุมธานี ลำลูกกา คู้บอน-วงแหวน บางนาตอนปลาย บางบ่อ ประชาอุทิศ แสมดำ เพชรเกษม และบางบัวทอง เป็นต้น ซึ่งอาจเกิดสงครามลดราคา การแข่งขันสูงขึ้น โดยโครงการที่จะเปิดใหม่ในโซนเหล่านี้จำเป็นต้องประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบ

ขณะเดียวกันกลุ่มบ้านเดี่ยวราคาสูง 25-50 ล้านบาท เป็นอีกเซกเมนต์ที่ต้องระวัง เนื่องจากมีจำนวนหน่วยเหลือขายเพิ่มขึ้นมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา อยู่ในระดับสูงถึง 3,000 หน่วย ที่ต้องใช้เวลา 5-6 ปี ในการขาย อีกทั้งในปี 2569 ผลกระทบจากภาคส่งออกและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง จะกระทบกับผู้ประกอบการหลายรายในโซนอุตสาหกรรม และจะส่งผลต่อยอดขายบ้านราคาสูงด้วย

ทั้งนี้ภาพรวมการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ปี 2568 อยู่ที่ 12,000 ล้านบาท ลดลงราว 20% จากปี 2567 ที่มีวงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับสภาวะตลาดและการชะลอตัวนี้สะท้อนพฤติกรรมผู้ประกอบการที่ระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากสินเชื่อโครงการใหม่ส่วนใหญ่เป็นการให้วงเงินเพื่อซื้อที่ดินหรือการเริ่มพัฒนาโครงการใหม่ ซึ่งในภาวะที่ตลาดยังมีสต็อกคงเหลือจำนวนมาก ผู้ประกอบการจึงชะลอการซื้อที่ดินและเลื่อนการเปิดโครงการเพื่อบริหารความเสี่ยงให้สอดคล้องกับภาวะดีมานด์จริง

สำหรับปี 2569 ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ยังคงนโยบายสินเชื่อที่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ไม่เร่งปล่อยสวนตลาด โดยตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในปี 2569 อยู่ที่ 12,000 ล้านบาท โดยยังคงให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มเดิม ทั้งกลุ่ม บมจ. และ SME ที่มีความแข็งแรงทางธุรกิจ ซึ่งธนาคารฯมีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าโดยมีทีม Relationship Manager (RM) คอยพูดคุยให้คำปรึกษา ผนวกกับข้อมูลตลาดในเชิงลึกที่ธนาคารฯมี สำหรับแนวทางการปรับตัวของผู้ประกอบการ สิ่งสำคัญในสภาวะการนี้ คือ การคัดเลือกทำเล และออกแบบรูปแบบสินค้าให้เชื่อมโยงกับกลุ่มดีมานด์เฉพาะ เช่น ใกล้แหล่งงาน โรงเรียน หรือศูนย์การค้าขนาดใหญ่ หากโครงการไม่สามารถหาทำเลลักษณะดังกล่าวได้ ผู้ประกอบการควรพิจารณาลดขนาดเพื่อควบคุมความเสี่ยงการลงทุน

นอกจากนี้แนวโน้มการพัฒนาโครงการคาร์บอนต่ำจะมีความสำคัญมากขึ้น ผู้ประกอบการเริ่มปรับตัวสู่มาตรฐานGreen & Sustainable Living โดยมีการเลือกใช้วัสดุคาร์บอนต่ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยคาร์บอนตลอดวงจรของการก่อสร้างจนถึงการอยู่อาศัย เน้นการออกแบบเพื่อประหยัดพลังงาน เช่น ระบบ Passive Design, การติดตั้ง Solar Roof ระบบหมุนเวียนอากาศภายในอาคาร ไปจนถึงเทคโนโลยี Smart Living  ที่ใช้เทคโนโลยี IoT เพื่อบริหารพลังงานอัตโนมัติ ลดการสิ้นเปลืองไฟฟ้าและการใช้น้ำ รวมถึงนวัตกรรมการอยู่อาศัยเพื่อสุขอนามัยที่ดี เป็นทิศทางใหม่ซึ่งตอบโจทย์กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันในตลาดอนาคต

** KKP**

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
06:00 น. ค่าไฟ-ราคาน้ำมันลด กดเงินเฟ้อติดลบ8เดือนติด
06:00 น. 'แพนเค้ก-พี่หมี'พร้อมครอบครัวยกทีมส่งกำลังใจพี่ทหาร และผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.สงขลา
06:00 น. น้ำท่วมภาคใต้กระทบหนัก ฉุดGDPทั้งปีขยายตัวได้แค่2.0%
23:20 น. ดีกว่านี้ได้อีก!‘โค้ชวัง’ถ่อมช้างศึกยังไม่ท็อปฟอร์ม
22:09 น. 'กิตติรัตน์'ท้วง กษ.ควรออกประกาศห้ามเผาป้องกัน PM2.5 ตั้งแต่ ธ.ค.นี้
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 30 พ.ย.-6 ธ.ค.68
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 ธันวาคม 2568
ถึงบางอ้อ นักเขียนซีไรต์ เล่าเรื่องราว เขต 8 หาดใหญ่
ทับทิม มัลลิกาแชร์โมเมนต์อบอุ่น เปิดแชต ชวน หลีกภัย ส่งกำลังใจหลังผ่าตัดเนื้องอกในสมอง
กษัตริย์กัมพูชา แต่งตั้ง สมเด็จฮุน เซน รักษาการประมุขแห่งรัฐ
ดูทั้งหมด
ดูเขาดูเราเรื่องภัยน้ำท่วม
ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกำลังขะมักเขม้นกับกิจการทหาร : สันติภาพยังดูห่างไกล
หนู เจอะภัย
พูดแล้วทำ กล้าทำกับสายการบิน หรือไม่?
บุคคลแนวหน้า : 4 ธันวาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ดีกว่านี้ได้อีก!‘โค้ชวัง’ถ่อมช้างศึกยังไม่ท็อปฟอร์ม

คอนเฟิร์มแล้ว ดีเจดาด้า เผยรู้มาเป็นปี นานา-เวย์ ไทเทเนียม หย่ากันจริง

มาเลเซีย ฟื้นภารกิจค้นหาเที่ยวบิน MH370 หลังหายสาบสูญกว่า 11 ปี

‘ยศกร’แฮตทริค! ‘ไทย’ถล่ม‘ติมอร์ฯ’ 6-1 เปิดหัวซีเกมส์

ข่าวลือแรง! นานา ไรบีนา-เวย์ ไทเทเนียม หย่ากันนานแล้ว

เปิดบทสนทนา นานา โทรหา หนุ่ม กรรชัย ก่อนตำรวจบุกรวบคาบ้าน

  • Breaking News
  • ค่าไฟ-ราคาน้ำมันลด กดเงินเฟ้อติดลบ8เดือนติด ค่าไฟ-ราคาน้ำมันลด กดเงินเฟ้อติดลบ8เดือนติด
  • \'แพนเค้ก-พี่หมี\'พร้อมครอบครัวยกทีมส่งกำลังใจพี่ทหาร และผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.สงขลา 'แพนเค้ก-พี่หมี'พร้อมครอบครัวยกทีมส่งกำลังใจพี่ทหาร และผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.สงขลา
  • น้ำท่วมภาคใต้กระทบหนัก ฉุดGDPทั้งปีขยายตัวได้แค่2.0% น้ำท่วมภาคใต้กระทบหนัก ฉุดGDPทั้งปีขยายตัวได้แค่2.0%
  • ดีกว่านี้ได้อีก!‘โค้ชวัง’ถ่อมช้างศึกยังไม่ท็อปฟอร์ม ดีกว่านี้ได้อีก!‘โค้ชวัง’ถ่อมช้างศึกยังไม่ท็อปฟอร์ม
  • \'กิตติรัตน์\'ท้วง กษ.ควรออกประกาศห้ามเผาป้องกัน PM2.5 ตั้งแต่ ธ.ค.นี้ 'กิตติรัตน์'ท้วง กษ.ควรออกประกาศห้ามเผาป้องกัน PM2.5 ตั้งแต่ ธ.ค.นี้
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

โลกการค้า : 3 ธันวาคม 2566

โลกการค้า : 3 ธันวาคม 2566

4 ธ.ค. 2568

โลกการค้า : 27 พฤศจิกายน 2568

โลกการค้า : 27 พฤศจิกายน 2568

27 พ.ย. 2568

โลกการค้า : 20 พฤศจิกายน 2568

โลกการค้า : 20 พฤศจิกายน 2568

20 พ.ย. 2568

โลกการค้า : 13 พฤศจิกายน 2568

โลกการค้า : 13 พฤศจิกายน 2568

13 พ.ย. 2568

โลกการค้า : 6 พฤศจิกายน 2568

โลกการค้า : 6 พฤศจิกายน 2568

6 พ.ย. 2568

โลกการค้า : 30 ตุลาคม 2568

โลกการค้า : 30 ตุลาคม 2568

30 ต.ค. 2568

โลกการค้า : 23 ตุลาคม 2568

โลกการค้า : 23 ตุลาคม 2568

23 ต.ค. 2568

โลกการค้า : 16 ตุลาคม 2566

โลกการค้า : 16 ตุลาคม 2566

16 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved