วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568
การพยายามอยู่ในอำนาจต่อของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลพรรคใน คสช. ด้วยเหตุผลว่าจำเป็นเพื่อสานต่องานที่ทำไว้ ไม่ว่าจะเรื่องยุทธศาสตร์ของชาติ หรือเรื่องปฏิรูปต่างๆ นั้น เป็นเหตุผลที่พลเอกประยุทธ์พยายามสื่อสารให้สังคมสนับสนุนและเข้าใจ
แต่เหตุผลที่ยังไม่ได้สื่อสาร ซึ่งเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักพอสมควรต่อการตัดสินใจอยู่ในอำนาจต่อ น่าจะเกิดจาก ภยาคติ หรือ ความกลัว 2 ประการ คือ หนึ่ง กลัวระบอบทักษิณจะกลับมามีอำนาจ และ สอง กลัวว่าเมื่อลงจากอำนาจแล้ว จะถูกฝ่ายตรงข้ามเช็คบิล
ความต้องการอยู่ในอำนาจต่อนั้น ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ แต่มีมานานตั้งแต่ปี 2558-2559 แล้ว หลักฐานที่ชัดเจนคือ การคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติสายทหาร เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2558 อันนำมาสู่ประโยคอันลือลั่นของนายบวรศักดิ์ ในฐานะประธานกรรมาธิการยกร่าง ว่า “เขาอยากอยู่ยาว”
หลักฐานที่ชัดเจนอีกชิ้นหนึ่งของความต้องการอยู่ในอำนาจต่อ คือ หนังสือจากคณะรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ รธ. 122/2559 ลงวันที่ 29 มกราคม 2559 เรื่องข้อเสนอต่อร่างรัฐธรรมนูญ 16 ข้อ ลงนามโดย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่มีถึงคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการแนะนำให้บัญญัติเนื้อหาและการบังคับใช้รัฐธรรมนูญออกเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรก ให้มีหลักเกณฑ์เสมือนข้อยกเว้นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ด้วยเหตุนี้ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจึงออกมาด้วยรูปร่างหน้าตาที่นำมาสู่สถานการณ์ทางการเมืองอย่างที่เห็น
ย้อนกลับมาที่ความกลัว 2 ประการ
ความกลัวว่าระบอบทักษิณจะกลับมามีอำนาจนั้น ไม่เพียงแต่พลเอกประยุทธ์ กับ คสช. จะกลัว ใครๆ ที่ไม่อยากเห็นการทุจริตคอร์รัปชันในบ้านเมืองก็กลัว ความกลัวข้อนี้ทำให้พลเอกประยุทธ์ กับ คสช. มีกองหนุนมากมาย
ส่วนความกลัวที่ว่า เมื่อลงจากอำนาจแล้วจะถูกฝ่ายตรงข้ามเช็คบิลนั้น เป็นเรื่องของกรรมที่ใครก่อ คนนั้นก็ต้องรับ ประชาชนเขาไม่เกี่ยวข้องด้วย ถ้าก่อกรรมไว้ดี ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อยู่ในอำนาจตั้งหลายสมัย อยู่จนต้องบอกผู้สนับสนุนว่า “ผมพอแล้ว” เมื่อท่านลงจากอำนาจ มีแต่คนสรรเสริญ ไม่เห็นมีใครเช็คบิลอะไรท่านได้
น่าเสียดายที่พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ดำเนินรอยตามพลเอกเปรม ถ้าเข้ามาแก้ไขปัญหาในยามที่บ้านเมืองคับขันถึงทางตันให้เด็ดขาดรวดเร็ว แล้วรีบออกไป พลเอกประยุทธ์ก็จะได้รับการจดจำในภาพงามอีกภาพหนึ่ง
แต่ทุกวันนี้ ภาพของพลเอกประยุทธ์เปลี่ยนไปตั้งแต่ตัดสินใจเล่นการเมือง และประกาศว่า “ผมไม่ใช่ทหาร เข้าใจไหม เป็นนักการเมืองที่เคยเป็นทหาร”
และเมื่อเป็นนักการเมือง การตระบัดสัตย์กลืนน้ำลาย ก็ดูเป็นเรื่องธรรมดา วันก่อนเคยประนามนักการเมืองเลว เคยถามผู้สื่อข่าวว่า ถ้าเลือกตั้งแล้ว ได้นักการเมืองเหล่านั้นเข้ามาจะทำอย่างไร วันนี้ก็นักการเมืองเลวเหล่านั้นแหละที่ถูกดูดเข้ามาสนับสนุนให้ท่านเล่นการเมือง
ที่เลวร้ายและน่าเป็นห่วงกว่า ไม่ใช่นักการเมือง แต่คือบรรดากองหนุนของนักการเมือง กองหนุนประเภทเลือกพวกเลือกฝ่าย ถ้าปักใจจะเชียร์ฝ่ายไหน ไม่ว่าฝ่ายตนทำผิดอย่างไร ก็หลับหูหลับตา ตะบี้ตะบันออกมาเชียร์ ออกมาอธิบาย ออกมาปกป้อง เล่นงานด่าทอแม้กระทั่งคนที่เขาไม่ได้อยู่ฝ่ายไหน เพียงแต่เขาเห็นต่าง เพียงแต่เขาตำหนิเพื่อให้กลับเข้ามาอยู่ในร่องในรอย ในทำนองคลองธรรมที่ควรเป็น
กองเชียร์พวกนี้อันตราย เพราะไม่ได้ยึดถือความถูกต้องชอบธรรมเป็นสรณะ แต่ยึดเอาพวกตนฝ่ายตนเป็นความถูกต้อง ยิ่งในโลกยุคข้อมูลข่าวสารเช่นทุกวันนี้ ที่ใครอยากเขียนอะไร โพสต์อะไรก็ได้ โดยไม่ต้องรับผิดชอบ (จนกว่าจะถูกฟ้อง) สังคมก็ถูกครอบงำด้วยบรรยากาศ และความคิดของคนเหล่านี้
คนเหล่านี้แหละที่อันตรายไม่แพ้นักการเมือง คนเหล่านี้แหละที่เป็นกองหนุนและเป็นปุ๋ยให้นักการเมืองเลวงอกงาม
กระทั่งมีการตั้ง กองทัพนักรบไซเบอร์ จากขั้วการเมืองทั้งสองออกมาสนับสนุนและโจมตีกัน
ประชาชนที่รักความถูกต้องชอบธรรม เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติ ต้องตั้งสติ ยืนอยู่กับสิ่งที่ถูกต้องเป็นธรรม อย่าให้ตนกลายเป็นปุ๋ยหล่อเลี้ยงนักการเมืองเลว ไม่ว่าจะฝ่ายไหนขั้วไหนก็ตาม
อะไรถูกก็สนับสนุน เป็นกำลังใจ อะไรไม่ถูก ก็คัดค้าน ตำหนิท้วงติงเถอะ การเมืองจะได้พัฒนาไปในทิศทางที่มีอนาคตกว่านี้
คุณภาพของการเมืองและนักการเมือง ก็มาจากคุณภาพของประชานนั่นแหละ จะว่าแต่นักการเมืองก็คงไม่ถูก ประชาชนเราก็มีส่วนต้องรับผิดชอบเช่นกัน
ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส

ปชป.ขยับ! เปิด 3 นโยบายหลัก เจาะกลุ่มเป้าหมาย ชูพรรคที่ทุกคนเลือกได้
เกมวัดใจเพื่อไทย! เดินหน้าสอย'อนุทิน' ปมตั้ง รมช.ขาดคุณสมบัติ
ไม่สะเทือนขนหน้าแข้ง! 'ปูติน'เชิ่ดใส่'ทรัมป์'ประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันรัสเซีย
เริ่มแล้ว!!! 'อนุทิน'ยกคณะคุย กกต. ทำประชามติแก้ รธน. พ่วงยกเลิก MOU 43-44 วันเลือกตั้ง
รัฐบาลเกาหลีใต้ทุบต่อ! ตร.กัมพูชาบุกจับสแกมเมอร์เพิ่ม57คน'ไม่เป็นความจริง'

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี