ฮ.พังหลายลำ/ทหารไม่ตาย
สหรัฐยอมรับ
อานุภาพขีปนาวุธอิหร่าน
ทรัมป์พลิกรุก‘คว่ำบาตร’
คณะเสนาธิการทหารยอมรับอานุภาพมิสไซล์ของอิหร่าน ส่งผลให้อาคาร เฮลิคอปเตอร์หลายลำของสหรัฐในอิรักเสียหาย แต่ไม่มีทหารเสียชีวิต ทั้งยังไม่ไว้วางใจต่อสถานการณ์ ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ขอรอดูท่าทีตอบโต้อีก แต่จะเร่งกดดันคว่ำบาตรทุกรูปแบบ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ว่า พล.อ.มาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐ แถลงผลการประเมินในเบื้องต้นของฝ่ายทอหาร เชื่อว่าขีปนาวุธที่กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ( ไออาร์จีซี )ของ ระดมยิงใส่ฐานทัพ 2 แห่งของอิรักซึ่งมีทหารอเมริกันประจำการอยู่ คือฐานทัพอัล อาซาด ในจังหวัดอันบาร์ที่อยู่ทางตะวันตก และฐานทัพที่เมืองเออร์บอล ในเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือนั้นหวังผล ให้มีพลเมืองของสหรัฐเสียชีวิต เนื่องจากมีการติดหัวรบบนจรวดทุกลูก
แต่ยังเร็วเกินไป ที่จะสรุปว่าอิหร่านและไออาร์จีซีจะมองปฏิบัติการดังกล่าวว่าไม่สมบูรณ์ หรือไม่ เมื่อการโจมตีก่อให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานภายในฐานทัพทั้งสองแห่งในระดับกลาง โดยมีค่ายที่พักและเฮลิคอปเตอร์หลายลำถูกทำลาย แต่ไม่มีทหารอเมริกันเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม กองทัพสหรัฐเชื่อมั่นว่า กองกำลังติดอาวุธชีอะห์ในอิรักจะลงมือก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่อเมริกันทั้งในอิรักและซีเรีย
ขณะที่นายมาร์ค เอสเปอร์ รมว.กระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวเสริมว่า ขีปนาวุธพิสัยใกล้ทั้งหมดที่ไออาร์จีซียิงมานั้นมีทั้งสิ้น 16 ลูก อย่างน้อย 11 ลูกตกที่ฐานทัพอัล-อาซาด ตกที่ฐานทัพในเมืองเออร์บอลอย่างน้อย 1 ลูก ส่วนที่เหลือพลาดเป้าหรือเป็นจรวดด้าน การโจมตีมาจาก 3 ทิศทางและเป็นการยิงข้ามพรมแดนมาจากในอิหร่าน อนึ่ง ระบบป้องกันและเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพภายในฐานทัพสามารถป้องกันความสูญเสียซึ่งอาจเกิดขึ้นกับชีวิตของพลเมืองสหรัฐได้
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แถลงจากทำเนียบขาวกรุงวอชิงตันหลังการโจมตีด้วยจรวดของอิหร่านถล่มเป้าหมายฐานทัพสหรัฐในประเทศอิรักว่า ทหารของเราทั้งหมดปลอดภัย มีความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในฐานทัพของเราในประเทศอิรัก ซึ่งกองทหารอเมริกันที่ยิ่งใหญ่ได้เตรียมการอะไรบางอย่าง ส่วนอิหร่านนั้นดูเหมือนว่าจะยุติปฏิบัติการโจมตีชั่วคราวซึ่งก็จะเป็นผลดีต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและสิ่งที่ดีมากต่อโลก ไม่มีทหารอเมริกันหรือทหารอิรักเสียชีวิตจากการโจมตีดังกล่าว
ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวต่อว่า สหรัฐจะประกาศคว่ำบาตรเพิ่มขึ้นในทันทีกับอิหร่าน แต่ผู้นำสหรัฐก็ไม่ได้พูดถึงการตอบโต้ทางทหารกับอิหร่าน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป็นการตอบโต้ครั้งแรกของอิหร่านอันเนื่องมาจากกองทัพสหรัฐใช้โดรนสังหารพล.ต.กัสเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังรบพิเศษ”คุดส์”แห่งกองทัพพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านที่กรุงแบกแดดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนั้นประธานาธิบดีทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า เขาจะขอให้องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในตะวันออกกลางและยังเรียกร้องให้ชาติมหาอำนาจดำเนินรอยตามเขาที่ถอนตัวออกมาเมื่อเดือนพ.ค.2561จากข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านเมื่อปี2558
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในภูมิภาคยังคงตึงเครียด โดยมีรายงานว่าฐานทัพของสหรัฐทุกแห่งในตะวันออกกลางได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมขั้นสูงสุดตลอดเวลา ขณะที่หน่วยพลรบเคลื่อนที่เร็วกระจายตัวตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ในเวลาเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) ซึ่งไออาร์จีซีขู่ว่าจะเป็น เป้าหมายต่อไป หากอเมริกาเคลื่อนไหวทางทหารต่ออิหร่าน ออกแถลงการณ์เรียกร้องสหรัฐและอิหร่านถอยจากการใช้ความรุนแรง ในเวลาเดียวกัน มีรายงานกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เคลื่อนสรรพาวุธบางส่วนไปประชิดพรมแดนเลบานอนที่ติดกับอิสราเอล หลังนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศว่า “ใครก็ตาม”ที่โจมตีอิสราเอลก่อน “จะถูกบดขยี้จนไม่เหลือชิ้นดี”
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้นำทั่วโลกต่างออกมาประณามการที่อิหร่านยิงมิสไซล์ถล่มฐานที่มั่นของกองทัพสหรัฐและพันธมิตรในประเทศอิรัก พร้อมกับเรียกร้องให้หยุดการกระทำอันจะเป็นการเผชิญหน้ามากขึ้นระหว่างรัฐบาลอิหร่านกับรัฐบาลสหรัฐ
โดยนายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก หัวหน้าองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) กล่าวว่า ตนขอประณามการที่อิหร่านโจมตีกองกำลังของสหรัฐและพันธมิตรในอิรัก พร้อมกับเรียกร้องให้อิหร่านยุติการกระทำรุนแรงใดๆในอนาคต ทั้งนี้ นาโต้แจ้งว่า ไม่มีทหารของนาโต้ในอิรักได้รับบาดเจ็บจากเหตุโจมตีดังกล่าวในอิรัก
ส่วนนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวต่อที่ประชุมสภาว่า อิหร่านไม่ควรกระทำการอันบุ่มบ่ามและอันตรายเช่นนี้อีก แต่ควรจะลดระดับการกระทำลงอย่างรวดเร็ว
ขณะที่นายโดมินิก ราอับ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เตือนว่า สงครามที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งในตะวันออกกลาง มีประโยชน์ต่อกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม(ไอเอส) และกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ เท่านั้น
ด้านนายเจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวว่า การโจมตีของอิหร่านเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันมากขึ้น
ขณะที่นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เรียกร้องให้อิหร่านยุติการทำให้เกิดการปะทะกัน และประณามการโจมตีของอิหร่าน
ด้านนายบาร์ฮัม ซาเลห์ ประธานาธิบดีอิรัก กล่าวว่า เขารู้สึกหวาดกลัวพัฒนาการที่เป็นอันตรายในภูมิภาค พร้อมกับประณามการยิงมิสไซล์ถล่มฐานที่มั่นของกองทัพในดินแดนอิรัก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี