ผู้ประท้วงหลายหมื่นคนเดินขบวนอย่างสงบเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมในเรื่องเชื้อชาติในหลายเมืองทั่วสหรัฐ หลังจากการเสียชีวิตของ"จอร์จ ฟลอยด์"ในเมืองมินิอาโปลิส ในขณะที่การเคลื่อนไหวที่เกิดจากการเสียชีวิตของเขาขณะถูกตำรวจควบคุมตัว ดำเนินต่อเนื่องเป็นวันที่12
การประท้วงจัดขึ้นหลายเมืองตั้งแต่นครนิวยอร์คไปจนถึงนครลอสแองเจลิส ทั้งในเมืองแอตแลนตา ฟิลาเดลเฟีย ชิคาโก ซานฟรานซิสโก ซีแอตเติ้ล บอสตัน และไมอามี แต่กรุงวอชิงตัน ถือเป็นจุดศูนย์กลางของการชุมนุม โดยประชาชนหลายพันคน ทั้งคนผิวดำและขาว รวมทั้งสีผิวอื่นๆ พากันลงไปเดินขบวนตามท้องถนนรอบทำเนียบขาว ผู้ประท้วงพากันตะโกนคำขวัญว่า "ชีวิตคนดำเป็นสิ่งสำคัญ" และ "ไม่มีความยุติธรรม ก็ไม่มีสันติภาพ" พร้อมกับร้องตะโกนชื่อ จอร์จ ฟลอยด์ สลับกันไปด้วย เพื่อเรียกร้องให้ยุติการเหยียดเชื้อชาติและการกระทำรุนแรงของเจ้าหน้าที่รักษากฏหมาย ผู้ประท้วงรายหนึ่งกล่าวว่า เธอหวังว่า จะเกิดความเปลี่ยนแปลง ประชาชนคุกเข่าข้างหนึ่งเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านการเหยียดสีผิว ประท้วง และขอร้องเรื่องนี้มาเป็นเวลานานแล้ว และตอนนี้เธอรับการกระทำในการเหยียดสีผิวต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ผู้ประท้วงบางรายสวมหน้ากากเนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ มีการแจกจ่ายเจลทำความสะอาดมือเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ในขณะที่เจ้าหน้าตำรวจและทหาร คอยเฝ้าระวังการชุมนุมอยู่ และได้นำยานพานะของทหารมาปิดถนนหลายสายในย่านดาวน์ทาวน์ เพื่อให้การประท้วงไม่เป็นอุปสรรคต่อการจราจร
ขณะที่ผู้ประท้วงในเมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน พากันยึดท้องถนน ชุมนุมประท้วงโดยสงบ เพื่อต้านการเหยียดผิว ขณะที่ตำรวจพยายามผลักดันให้ผู้ประท้วงเคลื่อนขบวนไปตามถนน แต่หลังจากผลักดันกันอยู่นาน ไม่ประสบผลสำเร็จ ตำรวจจึงตัดสินใจใช้ระเบิดแสงที่มีเสียงดังและแสงจ้าขว้างใส่ผู้ประท้วง ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ตำรวจขอให้ผู้ประท้วงเคลื่อนขบวน แต่กลับถูกขว้างปาสิ่งของเข้าใส่ ตำรวจจึงตัดสินใจขว้างระเบิดแสง ผู้ประท้วงรายหนึ่งกล่าวว่า ตำรวจบอกไม่ได้ใช้สเปรย์พริกไทย แต่ตนได้กลิ่นสเปรย์พริกไทยคละคลุ้งไปทั่ว
ส่วนกลุ่มผู้ประท้วงในเมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินนิโซตา พากันเดินขบวนไปยังหน้าบ้านพักของนายเจคอบ เฟรย์ นายกเทศมนตรี เรียกร้องให้นายเฟรย์ ออกมาพบกลุ่มผู้ประท้วง เพื่อตอบคำถามว่า จะยุบเลิกสำนักงานตำรวจมินนิอาโปลิสหรือไม่ และเมื่อนายเฟรย์ ออกมาพบผู้ประท้วง และได้ตอบคำถามว่า จะไม่ยุบสำนักงานตำรวจ แต่จะปรับปรุงให้ดีขึ้น เมื่อได้ฟังคำตอบ ผู้ประท้วงต่างส่งเสียงโห่ไล่ให้นายเฟรย์ กลับบ้านไป และบางคนถึงกับยกนิ้วกลางให้นายเฟรย์ ทำให้นายเฟรย์ ต้องรีบเดินออกจากกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงกลับบ้านในทันที
ด้านสำนักข่าวบีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานว่าผู้คนจำนวนมากมาร่วมตัวที่จัตุรัสรัฐสภาอังกฤษในกรุงลอนดอน ไม่ห่างจากที่พักของนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน เพื่อออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับจอร์จ ฟลอยด์ แอฟริกันอเมริกันชาวมินนีอาโปลิสที่เสียชีวิตหลังตำรวจใช้เข่ากดคอจนเสียชีวิต กลุ่มผู้ประท้วงยังๆด้ร่วมคุกเข่าพร้อมนิ่งเงียบเป็นเวลา 1 นาที ไว้อาลัยก่อนประท้วงว่า “ไม่เกิดยุติธรรม จะไม่มีความสันติ” และ “ชีวิตคนผิวดำสำคัญ” ทั้งนี้ การประท้วงส่วนใหญ่ของทั้งวันเป็นไปด้วยความสงบ แต่เกิดปัญหาขึ้นในช่วงค่ำบริเวณถนนดาวนิงใกล้ทำเนียบรัฐบาลอังกฤษ โดยหลังการประท้วงใหญ่นั้นจบสิ้นแล้วแต่มีกลุ่มผู้ประท้วงเล็กๆ โยนระเบิดและประทัดเข้าใส่แผงตำรวจที่มีการส่งตำรวจม้าเข้าควบคุมสถานการณ์ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงผู้ควบคุมม้าได้หล่นลงมาและได้รับบาดเจ็บและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่ไบาดเจ็บไม่มากนัก และในอีกคลิปพบว่ามีมีตำรวจม้าตัวหนึ่งหลุดออกและวิ่งไปรอบๆสร้างความโกลาหลให้กับผู้ประท้วง ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเป็นม้าของเจ้าหน้าที่หญิงหรือไม่ แต่ตำรวจอังกฤษแถลงว่า ม้าตัวที่หลุดนั้นกลับมาได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ นอกจากกรุงลอนดอนแล้ว การประท้วงยังเกิดขึ้นทั้งในเมืองแมนเชสเตอร์ คาร์ดิฟฟ์ เลสเตอร์ และเชฟฟิลด์ รวมถึงการประท้วงใหญ่เพื่อเรียกร้องให้ฟลอยด์ยังเกิดขึ้นทั้งในออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมัน และญี่ปุ่น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี