วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - คนร้ายขับรถยนต์พุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 1 นาย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดอาคารรัฐสภาทั้งหมด แต่ตำรวจระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน หัวใจสลาย ทำเนียบขาวและรัฐสภาลดธงครึ่งเสาเป็นเกียรติแก่นายตำรวจที่สละชีพ

โยกานานดา พิตต์แมน รักษาการหัวหน้าตำรวจประจำอาคารรัฐสภาสหรัฐ กล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยขับรถพุ่งเข้าชนตำรวจทั้งสองนาย ก่อนที่รถยนต์จะชนเข้ากับเครื่องกีดขวาง หลังจากนั้น เขาก็ลงจากรถพร้อมกับเอามีดไล่ทำร้ายตำรวจทั้งสองนาย คนร้ายถูกตำรวจยิงเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ระบุว่า ตำรวจที่เสียชีวิตมีชื่อว่า วิลเลียม อีแวนส์ ทำงานมานาน 18 ปี เป็นคุณพ่อลูก 2 ส่วนอีกคนได้รับบาดเจ็บแต่ไม่สาหัสถึงขั้นจะเสียชีวิตได้ ส่วนผู้ต้องสงสัยชื่อโนอาห์ กรีน วัย 25 ปี จากเมืองนิวพอร์ต นิวส์ รัฐเวอร์จิเนีย เคยเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย Florida State University และกำลังเรียน MBA ออนไลน์ ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อนที่จะก่อเหตุครั้งนี้ โดยไม่มีประวัติทั้งจากข้อมูลของตำรวจกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และข้อมูลของตำรวจรัฐสภา แต่จาก Facebook ของคนร้าย ทำให้รู้ว่า เขากำลังมีปัญหาชีวิตหลายเรื่องขณะที่พี่ชายของผู้ต้องสงสัยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ว่า น้องชายของเขามีปัญหาเรื่องการใช้ยาเสพติดและมีอาการหวาดระแวง ครอบครัวเป็นห่วงเกี่ยวกับสภาพจิตของเขา

เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยไม่มีประวัติคนร้ายและขณะนี้ยังไม่ได้ลงความเห็นเรื่องสาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้ ทางด้านโรเบิร์ตคอนที รักษาการหัวหน้าสำนักงานตำรวจนครบาลกรุงวอชิงตันกล่าวว่า เหมือนว่าเหตุครั้งนี้จะไม่เกี่ยวกับการก่อการร้ายแต่จะยังคงสอบสวนต่อไป

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า เขารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกทำร้ายจนเสียชีวิตและสั่งให้ลดธงชาติที่ทำเนียบขาวลงครึ่งเสาเพื่อเป็นการไว้อาลัย ทั้งนี้ ขณะเกิดเหตุ ไม่มีการประชุมรัฐสภาทั้งสภาผู้แทนและวุฒิสภา จึงไม่มีทั้งสส.และสว. อยู่ภายในอาคารรัฐสภา ถือเป็นเหตุพุ่งเป้าโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ครั้งที่ 2 ในรอบเกือบ 3 เดือน ตามหลังเหตุผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยกพวกบุกอาคารรัฐสภาขณะกำลังมีการประชุมร่วมของทั้ง สว.และ สส. เมื่อวันที่ 6 มกราคม จนเกิดเป็นเหตุจลาจลมีผู้เสียชีวิต 5 คน