15 กันยายน 2564 สำนักข่าวซินหัวรายงาน เวียงจันทน์ ไทม์ส รายงานว่าหน่วยงานสาธารณสุขของลาวกำลังพิจารณาตัวเลือกการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดสที่ 3 ในอนาคต เพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายต่อเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ใหม่ เช่น เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา
เวียงจันทน์ ไทม์ส รายงานว่าลาวกำลังดำเนินการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสที่ 3 เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดมากขึ้น โดยได้รับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดจากองค์การอนามัยโลก (WHO)
เมื่อวันอังคาร (14 ก.ย.) รัดตะนะไช เพ็ดสุวัน (Rattanaxay Phetsouvan) อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ สังกัดกระทรวงสาธารณสุขลาว ระบุว่ากำลังดำเนินการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อตัดสินใจว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสที่ 3 จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้หรือไม่
มีความกังวลว่าจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในลาวและอีกหลายประเทศทั่วโลก มีสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาซึ่งตรวจพบครั้งแรกในอินเดีย อันเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น
รัดตะนะไชกล่าวว่าหลายคนมีความสนใจในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสกระตุ้น หรือโดสที่ 3 แต่ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์จากองค์การอนามัยโลกหรือกระทรวงฯ ที่สนับสนุนการฉีดวัคซีนโดสกระตุ้นเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน
รัตตะนะไชเสริมว่า กระทรวงฯ ได้รับรายงานว่ามีประชาชนบางกลุ่มพยายามฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสกระตุ้นที่จุดฉีดวัคซีน แม้ว่ารัฐบาลจะยังไม่มีการอนุมัติเกี่ยวกับเรื่องนี้
บางประเทศเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสที่ 3 ให้กับผู้สูงอายุ และอาจฉีดวัคซีนโดสที่ 3 ให้กับประชากรทุกช่วงอายุเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่เหมาะสมต่อโรคโควิด-19 ในท้ายที่สุด โดยการศึกษาบางชิ้นระบุว่าภูมิคุ้มกันอาจลดลงพอประมาณ หลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสที่ 2 ผ่านไปแล้วราว 3 เดือน
คณะกรรมการเฉพาะกิจแห่งชาติด้านการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ระบุว่าหากนับจนถึงวันอาทิตย์ (12 ก.ย.) ลาวฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกให้กับประชากรกลุ่มเสี่ยงแล้ว 2,663,816 คน ขณะที่มีประชาชนฉีดวัคซีนโดสที่ 2 แล้ว 1,865,187 คน
ทั้งนี้ จนถึงวันพุธ (15 ก.ย.) ลาวมียอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวมอยู่ที่ 17,905 ราย มียอดผู้ป่วยเสียชีวิต 16 ราย และมีผู้ป่วยที่รักษาหายและออกจากโรงพยาบาลแล้วรวม 13,655 ราย โดยลาวรายงานพบผู้ป่วยสองรายแรกของประเทศเมื่อวันที่ 23 มี.ค. ปีก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี