ใครเอาไปวาง? ถุงใส่เงิน1.2แสนเหรียญวางหน้าบ้านลูกขุนในสหรัฐฯ หวังติดสินบนคดีโกงเงินช่วยเหลือเด็ก
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2567 สำนักข่าว BBC ของอังกฤษ รายงานข่าว A $120,000 jury bribe disrupts US charity fraud trial ระบุว่า ที่สหรัฐอเมริกา มีการพิจารณาคดีฉ้อโกงต่อรัฐ กรณีกลุ่มผู้อพยพชาวโซมาเลียในรัฐมินนิโซตา แอบอ้างตั้งองค์กรการกุศลขึ้นมาเพื่อขอรับเงินสนับสนุนในโครงการดูแลโภชนาการเด็กของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ซึ่งจากหลักฐานพบว่า จำเลยเหล่านี้ใช้ชื่อปลอมของเด็กที่ไม่มีอยู่จริง ซึ่งพวกเขาอ้างว่าเลี้ยงดู และทำเอกสารปลอมที่แสดงให้เห็นว่าจำนวนเด็กเหล่านี้พุ่งสูงขึ้นอย่างไรในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ซึ่งทำให้จำเลยได้รับเงินหลายล้านเหรียญสหรัฐ
คดีนี้มีผู้ต้องหารวม 7 คน มูลค่าความเสียหายอยู่ที่ราว 40 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 1.4 พันล้านบาท โดยหลักฐานเผยให้เห็นว่า จำเลยนำเงินที่ได้มาไปใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ทั้งการซื้อรถหรูยี่ห้อปอร์เช่และยี่ห้อเทสลา การไปทริปพักผ่อนราคาแพงในเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และการไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศเคนยา อย่างไรก็ตาม โจเซฟ ธอมป์สัน (Joseph Thompson) ผู้ช่วยอัยการสหรัฐฯ ในฐานะผู้แทนรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มีความพยายามติดสินบน 1 ในคณะลูกคุณ ที่กำลังจะร่วมตัดสินคดีนี้
โดยเมื่อคืนวันที่ 2 มิ.ย. 2567 มีผู้หญิงคนหนึ่ง นำถุงบรรจุเงินไปวางไว้ที่บ้านของ 1 ในคณะลูกขุน และยังบอกด้วยว่าจะให้เพิ่มหากลูกขุนคนดังกล่าวลงความเห็นยกฟ้องจำเลยทั้งหมด ทั้งนี้ ไม่มีการเปิดเผยชื่อลูกขุนในคดีนี้ต่อสาธารณะ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ทนายความและจำเลยได้ดูชื่อและที่อยู่ของพวกเขาในช่วงเริ่มต้นการพิจารณาคดี ซึ่งตามรายงานข่าว จะเรียกว่า “ลูกขุนหมายเลข 52” ซึ่งสื่อท้องถิ่นระบุว่า เป็นหญิงวัย 23 ปี และเป็นคนผิวสีเพียงคนเดียวในคณะลูกขุนที่จะร่วมตัดสินคดีนี้
ขณะที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) ระบุว่า ผู้หญิงที่อาจเป็นชาวโซมาเลีย พูดจาสำเนียงแปลกๆ สวมชุดเดรสยาวสีดำ ขับรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า ไปยังบ้านพักของลูกขุนหมายเลข 52 ซึ่งขณะนั้น ลูกขุนคนดังกล่าวไม่อยู่บ้าน โดยมีพ่อของสามีเปิดประตูออกมารับ ซึ่งก็พบว่า ผู้มาเยือนนำถุงที่ภายในบรรจุธนบัตรใบละ 20 50 และ 100 ดอลลาร์ มาด้วย โดยรวมเงินได้ 1.2 แสนเหรียญสหรัฐ หรือราว 4.4 ล้านบาท และเมื่อลูกขุนหมายเลข 52 ทราบเรื่อง ก็รีบแจ้งตำรวจท้องที่ทันที และส่งมอบเงินให้กับ FBI จากนั้นในวันที่ 3 มิ.ย. 2567 เธอก็ถูกถอดออกจากการร่วมพิจารณาคดี
แนนซี บราเซล (Nancy Brasel) ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ เห็นด้วยกับอัยการ ว่า มีคนรู้ที่อยู่ของครอบครัวลูกขุนเหล่านี้ จึงสั่งขังจำเลยทั้ง 7 คน ต่อมาศาลได้อนุมัติหมายค้นซึ่งนำไปสู่การยึดโทรศัพท์มือถือที่เป็นของจำเลย ซึ่งทั้งหมดถูกควบคุมตัวออกจากศาลโดยใส่กุญแจมือ บางคนร้องไห้และโอบกอดสมาชิกในครอบครัวอย่างเปิดเผยก่อนจะถูกนำตัวออกไป นอกจากนั้น ผู้พิพากษายังได้ซักถามลูกขุนที่เหลือทั้งหมดเพื่อพิจารณาว่าพวกเขาเคยเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันหรือไม่
ในการดำเนินการที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก ผู้พิพากษาบราซเล ยังได้สั่งขังลูกขุนอย่าง “ไม่เต็มใจ” ตลอดช่วงที่เหลือของการพิจารณาคดี โดยห้ามไม่ให้ติดต่อกับบุคคลภายนอกและห้ามใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์จนกว่าการพิจารณาคดีจะสิ้นสุดลง โดยเหตุพลิกผันในวันที่ 3 มิ.ย. 2567 เป็นครั้งล่าสุดในการสอบสวนที่อัยการได้สั่งฟ้องผู้ต้องหา 70 ราย จนถึงขณะนี้จำเลย 18 รายรับสารภาพ และรัฐบาลได้ติตดามเเงินคืนได้ประมาณ 60 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 2 พันล้านบาท จากเงินทั้งหมดที่ถูกฉ้อโกงไป
ทั้งนี้ ตามกฎหมายสหรัฐฯ การติดสินบนลูกขุนถือเป็นความผิดทางอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี
ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.bbc.com/news/articles/c4nn657qq9vo
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี