สั่งปลด : นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล (ซ้าย) สั่งปลด โยอาฟ กัลแลนต์ (ขวา) พ้นตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม เมื่อวันที่ 6 พ.ย. โดยอ้างว่า เขาไม่ไว้วางใจกัลแลนต์ในการจัดการปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลที่ยังคงดำเนินการอยู่ทั้งในฉนวนกาซา ดินแดนปาเลสไตน์ และภาคใต้ของเลบานอน

เทลอาวีฟ (รอยเตอร์ส/อัล-จาซีรา)-นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ปลดโยอาฟ กัลแลนต์พ้นตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม อ้างไม่ไว้วางใจในการจัดการปฏิบัติการทางทหารที่กำลังดำเนินอยู่ ขณะที่ยังคงเดินหน้าโจมตีกาซาและเลบานอนต่อไป

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล แถลงปลด โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 พ.ย. โดยอ้างว่า
เขาไม่ไว้วางใจกัลแลนต์ในการจัดการปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลที่ยังคงดำเนินการอยู่ทั้งในฉนวนกาซา ดินแดนปาเลสไตน์ และภาคใต้ของเลบานอน โดยเนทันยาฮูแต่งตั้ง อิสราเอล กัตซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศ รับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมแทนกัลแลนต์ขณะที่ กิเดียน ซาอาร์ รับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ ส่วนกัลแลนต์ โพสต์ข้อความผ่าน X ว่า ความมั่นคงของรัฐอิสราเอลจะยังคงเป็นภารกิจในชีวิตของเขาต่อไป

กัลแลนต์ และเนทันยาฮู ต่างก็เป็นสมาชิกพรรคลิคุดฝ่ายขวา และเกิดความขัดแย้งกันมานานหลายเดือน กรณีวัตถุประสงค์ของสงครามอิสราเอลในฉนวนกาซาเพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาส ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 13 เดือน เนทันยาฮูกล่าวว่า นอกจากความคิดเห็นที่แตกต่างกันแล้ว วิกฤตความไว้วางใจก็ค่อยๆ เปิดกว้าง และวิกฤตนี้ ไม่อาจปล่อยให้บริหารจัดการการปฏิบัติการทางทหารต่อไปได้เนทันยาฮู ระบุเพิ่มเติมว่า เขาพยายามปิดช่องว่างดังกล่าว แต่ช่องว่างนั้นกลับกว้างขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะ

ขณะเดียวกัน อิสราเอลก็โจมตีทางอากาศอย่างน้อย 1 ครั้ง ถล่มอาคารอพาร์ทเมนท์หลังหนึ่งในเมืองเจเย ชายฝั่งทะเลของกรุงเบรุต ประเทศเลบานอนเมื่อวานนี้ ทำให้เกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่พุ่งออกจากอาคารอพาร์ทเมนท์ดังกล่าว ยังไม่มีความชัดเจนว่า การโจมตีครั้งนี้ เป็นความพยายามลอบสังหารหรือไม่ และไม่มีคำเตือนอพยพก่อนการโจมตีด้วย ขณะที่การโจมตีด้วยอาวุธร้ายแรงอื่นๆ ยังคงเกิดขึ้นในสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ส่วนกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ก็ตอบโต้ด้วยการยิงจรวดข้ามพรมแดนเข้าไปในอิสราเอลเช่นกัน

ขณะเดียวกัน เครื่องบินขนส่งของกองทัพรัสเซียพร้อมความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เลบานอนกว่า 19 ตัน เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงเบรุตแล้วเมื่อวันที่ 6 พ.ย. โดยสถานทูตรัสเซียประจำเลบานอน ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า เครื่องบินขนส่งลำนี้ ซึ่งดำเนินการโดยกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซีย นำสิ่งของฉุกเฉินที่จำเป็นต่างๆ ช่วยเลบานอน ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้น ทั้งนี้ มีประชาชนมากกว่า 1.2 ล้านคน ไร้ที่อยู่อาศัยจากการโจมตีของอิสราเอลในช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งประชาชนเกือบ 190,000 คน ที่ลี้ภัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว บางส่วนอาศัยอยู่กับญาติ เช่าบ้านอยู่ หรือนอนตามท้องถนน ขณะที่ความขัดแย้งที่ดำเนินมานานกว่า1 ปี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในเลบานอนกว่า 2,600 ศพ