เด็ก10ขวบทำผิดรับโทษเหมือนผู้ใหญ่! รัฐควีนส์แลนด์ในออสเตรเลียงัดยาแรงแก้ปัญหาอาชญากรรม

เด็ก10ขวบทำผิดรับโทษเหมือนผู้ใหญ่! รัฐควีนส์แลนด์ในออสเตรเลียงัดยาแรงแก้ปัญหาอาชญากรรม

วันศุกร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 12.02 น.

 

13 ธ.ค. 2567 สำนักข่าว ABC ของออสเตรเลีย รายงานข่าว Tough youth justice law changes pass Queensland parliament, which will see juveniles sentenced as adults ระบุว่า สภานิติบัญญัติของมลรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย ผ่านร่างกฎหมายลดอายุขั้นต่ำของผู้กระทำผิดที่ต้องรับโทษทางอาญา ลงมาอยู่ที่ 10 ปี จะต้องรับโทษแบบเดียวกับผู้ใหญ่


เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ ผู้เยาว์ที่ถูกตั้งข้อหาในความผิดร้ายแรง เช่น ฆ่าคนตายโดยเจตจา ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายโดยไม่มีเจตนาฆ่า และลักทรัพย์ จะต้องรับโทษจำคุกสูงสุดที่เข้มงวดยิ่งขึ้น เยาวชนที่มีอายุระหว่าง 10-17 ปี ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีฆาตกรรมจะต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต โดยจะต้องรับโทษอย่างน้อย 20 ปี จึงจะสามารถร้องขอเพื่อเข้าสู่กระบวนการพักโทษได้ ร่างกฎหมายยังรวมถึงการยกเลิกหลักการ “กักขังเป็นทางเลือกสุดท้าย” และอนุญาตให้ศาลพิจารณาประวัติอาชญากรรมทั้งหมดของผู้กระทำความผิดเมื่อทำการพิพากษาโทษ

เดวิด คริซาฟุลลี (David Crisafulli) มุขมนตรีแห่งมลรัฐควีนส์แลนด์ และหัวหน้าพรรคชาติเสรีนินม (LNP) แถลงข่าวพร้อมกับเหยื่อคดีอาชญากรรม ว่า การปรับแก้กฎหมายครั้งนี้คือการตอบโต้ และส่งสัญญาณว่าจะมีการออกกฎหมายระลอก 2 ตามมา และเมื่อสื่อถามว่าจะมีแผนสำรองหรือไม่หากจำนวนเหยื่อไม่ลดลง คริซาฟุลลี ก็ตอบว่า ตนมั่นใจมากว่ากฎหมายใหม่จะทำให้ลดลงแน่นอน

ซินดี้ มิคาเลฟ (Cindy Micallef) ซึ่งมารดาของเธอ ไวลีน ไวท์ (Vyleen White) ถูกแทงเสียชีวิตที่ศูนย์การค้าในเมืองอิปสวิชเมื่อเดือน ก.พ. 2567 กล่าวว่าการเสียชีวิตของแม่จะไม่สูญเปล่า หัวใจของครอบครัวเราไม่ได้อยู่ที่นี่ และสำหรับเราแล้ว การคิดถึงเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่น่าหดหู่ใจ แต่ถึงอย่างไร ตนก็ยืนหยัดต่อสู้เพื่อผู้อื่น และมั่นใจว่าจะไม่มีใครต้องประสบกับเรื่องนี้อีก

การปรับแก้กฎหมายครั้งนี้เป็นไปตามหลักการ “หากทำผิดแบบผู้ใหญ่ เวลารับโทษก็ต้องเหมือนผู้ใหญ่ (Adult Crime , Adult Time)” เป็นไปตามแนวคิดของพรรค LNP ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลในมลรัฐควีนส์แลนด์ แต่บรรดาสมาชิกสภาจากพรรคแรงงานซึ่งเป็นฝ่ายค้านก็ลงมติสนับสนุนด้วยเช่นกัน ทำให้ จอนตี บุช (Jonty Bush) สมาชิกสภามลรัฐควีนส์แลนด์จากพรรคแรงงาน รู้สึกผิดหวังกับต้นสังกัดและกำลังพิจารณาอนาคตทางการเมืองของเธอ โดยบุชเป็นคนหนึ่งที่แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยการการปรับแก้กฎหมายในลักษณะดังกล่าว

“ร่างกฎหมายฉบับนี้ถือเป็นการเบี่ยงเบนจากหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่ากระบวนการยุติธรรมทางอาญาได้ผลจริง ร่างกฎหมายฉบับนี้จะส่งผลให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น มีเหยื่อมากขึ้น และมีอันตรายมากขึ้น ฉันขอเรียกร้องให้สมาชิกทุกคนในสภาแห่งนี้พิจารณาเรื่องนี้ในสัปดาห์นี้เมื่อลงคะแนนเสียง” บุช กล่าวในการอภิปรายในสภามลรัฐควีนส์แลนด์ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2567

แชนนอน เฟนติแมน (Shannon Fentiman) สมาชิกสภามลรัฐควีนส์แลนด์จากพรรคแรงงาน กล่าวในการอภิปรายในวันที่ 11 ธ.ค. 2567 ว่า แม้พรรคแรงงานจะสนับสนุนการปรับแก้กฎหมาย แต่ก็ยังมีข้อกังวลบางประการ ขณะที่กลุ่มเคลื่อนไหวของเหยื่อคดีอาชญากรรม เช่น Voice for Victims กล่าวว่า กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ควรยังคงเป็นทางเลือกในการพิพากษาโทษ เหยื่อต้องการให้มีทางเลือกนี้ และกังวลมากที่เหยื่อไม่มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น และอาจต้องเผชิญกับการซักถามค้าน

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า บางส่วนของกฎหมายจะกำหนดให้ต้องยกเลิก พ.ร.บ.สิทธิมนุษยชนของรัฐเป็นครั้งที่ 3 โดย ไมเคิล เบิร์กแมน (Michael Berkman) สมาชิกสภามลรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งเป็นนักการเมืองจากพรรคกรีนเพียงคนเดียวที่มีที่นั่งในสภาแห่งนี้ อภิปรายเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2567 ว่า กฎหมายที่ขัดแย้งกับหลักสิทธิมนุษยชนดูจะเป็นอะไรที่แปลกประหลาด ร่างกฎหมายได้ระบุรายละเอียดอย่างละเอียดถึงวิธีต่างๆ มากมายที่กฎหมายเหล่านี้จะจำกัดสิทธิของเด็กและเยาวชนในควีนส์แลนด์ คำถามคือทำไปเพื่ออะไร

“หลักฐานนั้นชัดเจนอย่างยิ่งว่าการโต้ตอบใดๆ ที่เด็กและเยาวชนมีต่อระบบกฎหมายอาญา จะนำไปสู่การก่ออาชญากรรมในอนาคต อาชญากรรมของผู้ใหญ่ การกระทำผิดของผู้ใหญ่ ไม่ใช่เพียงนโยบาย แต่เป็นเพียงคำขวัญ เมื่อคุณแปลคำขวัญเป็นกฎหมายหรือแม้แต่เป็นนโยบาย คำขวัญนั้นจะต้องมีเนื้อหาบางอย่าง” เบิร์กแมน กล่าว

สำหรับความผิดที่กฎหมายใหม่ของมลรัฐควีนส์แลนด์กำหนดให้ผู้กระทำผิดที่เป็นเด็กและเยาวชนต้องรับโทษเทียบเท่าผู้ใหญ่ มีตั้งแต่ความผิดที่ดูรุนแรงเป็นคดีอุกฉกรรจ์ เช่น ฆ่าคนตายโดยเจตนา ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายโดยไม่มีเจตนาฆ่า ชิงทรัพย์ ลักทรัพย์ ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นได้รับอันตรายอย่างสาหัส ใช้ยานพาหนะอย่างผิดกฎหมายเพื่อกระทำผิด การเข้าไปในสถานที่เพื่อกระทำผิด ไปจนถึงความผิดระดับรองลงมา เช่น ขับขี่ยานพาหนะโดยประมาท ใช้หรือครอบครองยานพาหนะโดยผิดกฎหมาย เป็นต้น

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.abc.net.au/news/2024-12-12/youth-justice-laws-pass-queensland-parliament/104716652

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top