ผู้ตรวจสอบ‘USAID’ถูกปลด หลังเผยแพร่รายงานวิจารณ์‘ทรัมป์’

ผู้ตรวจสอบ‘USAID’ถูกปลด หลังเผยแพร่รายงานวิจารณ์‘ทรัมป์’

วันพุธ ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 23.34 น.

12 ก.พ. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว USAID watchdog fired after critical report on the bid to dismantle the agency ระบุว่า พอล มาร์ติน (Paul Martin) ผู้ตรวจสอบประจำหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ (USAID) ถูกปลดออกเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2568 หลังจากที่เขาเผยแพร่รายงานที่มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่พยายามจะยุบหน่วยงานดังกล่าว

มาร์ติน ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจสอบของ USAID ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสมาชิกวุฒิสภา (สว.) มาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2566 กระทั่งได้รับอีเมล ระบุผู้ส่งคือ เทรนต์ มอร์ส (Trent Morse) รองผู้อำนวยการสำนักงานบุคลากรประธานาธิบดี แจ้งว่าตำแหน่งผู้ตรวจสอบของ USAID ถูกยกเลิกโดยมีผลทันที ไม่มีการให้เหตุผลใดๆ และทำเนียบขาวไม่มีความคิดเห็นใดๆ


ในวันที่ 10 ก.พ. 2568 สำนักงานผู้ตรวจสอบของ USAID ได้เผยแพร่รายงานที่ระบุว่า การเคลื่อนไหวของรัฐบาลทรัมป์ในการยุบ USAID ทำให้ความสามารถในการกำกับดูแลงบประมาณช่วยเหลือที่ยังไม่ได้ถูกเบิกจ่าย ซึ่งมีมูลค่า 8.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2.8 แสนล้านบาท) ของ USAID ลดลง โดยการลดจำนวนพนักงานและการสั่งให้หยุดงาน ทำให้ยากที่จะรับประกันได้ว่างบประมาณของ USAID ซึ่งมาจากภาษีของประชาชน จะถูกส่งต่อไปยังถึงมือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง

โครงการ USAID หลายร้อยโครงการทั่วโลกซึ่งคิดเป็นเงินช่วยเหลือจากสหรัฐฯ มูลค่าหลายพันล้านเหรียญต้องหยุดชะงักลงหลังจากที่ทรัมป์สั่งระงับการช่วยเหลือต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. 2568 ซึ่งเป็นวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่าต้องการทำให้แน่ใจว่าความช่วยเหลือดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน"

ในวันที่ 11 ก.พ. 2568 ทรัมป์ กล่าวถึง USAID ว่าเป็นองค์กรที่ไร้ความสามารถและทุจริต ซึ่งก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้สั่งให้มหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มิตรสหายใกล้ชิดที่ได้รับมอบหมายภารกิจลดขนาดของภาครัฐในรัฐบาลกลาง ดำเนินการลดขนาดหน่วยงาน USAID ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รวมกันมากกว่า 10,000 คนในประเทศและต่างประเทศ นำมาซึ่งการที่บุคลากรเกือบ 600 คนจะถูกพักงานหรือไล่ออก อนึ่ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลทรัมป์ได้ดำเนินการเพื่อให้พนักงานส่วนใหญ่ของ USAID ลาออกจากงาน แต่ถูกระงับโดยคำสั่งศาลเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2568

ในปีงบประมาณ 2566 สหรัฐฯ ได้เบิกจ่ายเงินช่วยเหลือ 72,000 ล้านเหรียญ (ราว 2.52 ล้านบาท) กระจายไปทั่วโลกในโครงการต่างๆ รวมถึงสุขภาพสตรีในเขตพื้นที่ขัดแย้ง การเข้าถึงน้ำสะอาด การรักษาเอชไอวี/เอดส์ ความมั่นคงด้านพลังงาน และปราบปรามการทุจริต โดยสหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ร้อยละ 42 ของโครงการทั้งหมดที่องค์การสหประชาชาติติดตามในปี 2567

เงินทุนดังกล่าว ซึ่งมีสัดส่วนน้อยกว่าร้อยกว่าร้อยละ 1 ของงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในความพยายามของสหรัฐฯ ในการสร้างพันธมิตรทั่วโลก เสริมสร้างการทูต และต่อต้านมหาอำนาจขั้วตรงข้าม เช่น จีนและรัสเซีย ที่แผ่อิทธิพลในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.reuters.com/world/us/head-usaid-watchdog-removed-position-official-says-2025-02-12/

043...

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top