6 พ.ค. 2568 นสพ.China Daily ของจีน รายงานข่าว Thai rice faces tough times amid levies ระบุว่า ไทยจำเป็นต้องพัฒนาพันธุ์ข้าวคุณภาพสูงและเร่งการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและรักษาความสามารถในการแข่งขันของไทยในการค้าข้าวโลกท่ามกลางความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่สหรัฐอเมริกาใช้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยไทยนั้นถูกตั้งกำแพงภาษีไว้ที่อัตราร้อยละ 36 เว้นแต่จะสามารถเจรจากับสหรัฐฯ ได้ก่อนถึงเส้นตายในเดือน ก.ค. 2568 ที่คำสั่งชะลอการบังคับใช้ภาษีดังกล่าวจะครบกำหนด
เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ (Charoen Laothamatas) นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย (TREA) กล่าวว่า ข้าวหอมมะลิไทยมีคุณภาพสูงและมีชื่อเสียงในตลาดโลก ซึ่งจะไม่สั่นคลอนจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ภาษีที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นและทำให้ราคาข้าวไทยแข่งขันได้น้อยลง ทั้งนี้ ตามข้อมูลของ TREA ในปี 2567 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกข้าว 9.95 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากปีก่อนหน้า และถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2561 และในการส่งออกทั้งหมด ไทยขายข้าวไปยังสหรัฐฯ 848,449 ตัน ถือเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากอินโดนีเซียและอิรัก
กระทรวงพาณิชย์ของไทยตั้งเป้าส่งออกข้าวปีนี้ไว้ที่ 7.5 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม จากสถิติของ TREA พบว่าการส่งออกข้าวในไตรมาสแรกของปีนี้ลดลงร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่ง เจริญ อธิบายว่าเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ ที่สูง ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และราคาข้าวที่สูงกว่าคู่แข่งของไทยอย่างอินเดียและเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าวของอินเดียมีราคาถูกกว่าข้าวของไทยถึงตันละ 40 เหรียญสหรัฐ ทำให้ประเทศผู้บริโภคข้าวรายใหญ่หลายประเทศ เช่น แอฟริกาใต้ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ หันมาส่งออกข้าวจากอินเดียแทนไทย
ในการแถลงข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ (Anukool Pruksanusak) รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวว่า ความต้องการที่ลดลงประกอบกับการผลิตที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศผู้ส่งออกและประเทศผู้นำเข้าเนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งที่คลี่คลายลง จะทำให้การส่งออกข้าวของไทยในปี 2568 มีความท้าทายมากขึ้น
ชูเกียรติ โอภาสวงศ์ (Chookiat Ophaswongse) นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ข้าวจากเวียดนามมีราคาถูกกว่าเพราะต้นทุนการผลิตต่ำกว่า และเกษตรกรปลูกพืชหลากหลายสายพันธุ์และเก็บเกี่ยวได้หลายครั้ง ตรงข้ามกับข้าวไทยมีราคาแพงกว่าเนื่องจากเกษตรกรไทยมีต้นทุนการผลิตสูงกว่าในขณะที่ผลผลิตต่ำ ดังนั้นทางการควรเน้นที่การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของเกษตรกรไทยเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยการจัดการต้นทุนการผลิต ปรับปรุงการลงทุน และพัฒนาสายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงขึ้น
ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไทยเมื่อไม่นานนี้ บรรจง ตั้งจิตรวัฒนากุล (Banjong Tangchitwattanakul) นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า การที่ไทยยื่นข้อเสนอเพื่อรับมือการเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ รวมถึงการลดภาษีข้าวโพดสหรัฐฯ จากร้อยละ 73 เหลือ 0% จะยิ่งส่งผลกระทบต่อเกษตรกรไทย ข้าวโพดนำเข้าราคาถูกเหล่านี้อาจทำให้ราคาข้าวหักและรำข้าว ซึ่งจะถูกสกัดระหว่างการสีข้าวและนำไปใช้เป็นอาหารสัตว์ตกต่ำลงอีก
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า แพทองธาร ชินวัตร (Paetongtarn Shinawatra) นายกรัฐมนตรีของไทย เปิดเผยว่า สหรัฐฯ ได้ขอให้เลื่อนการเจรจาการค้าทวิภาคีเกี่ยวกับภาษีศุลกากรออกไป เนื่องจากไม่พอใจข้อเสนอเบื้องต้นของไทย และสหรัฐฯ ต้องการให้ไทยทบทวนและแก้ไขมาตรการบางประการก่อนดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งการยืนยันดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย ภูมิธรรม เวชยชัย (Phumtham Wechayachai) ประกาศเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2568 ว่าไทยจะไม่ซื้อเครื่องบินรบ F-16 ฝูงใหม่จากสหรัฐฯ
อีกด้านหนึ่ง กิริฎา เภาพิจิตร (Kirida Bhaopichitr) ผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่า สินค้าส่งออกหลักของไทยไปยังสหรัฐฯ ได้แก่ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร ยานยนต์และส่วนประกอบ การเกษตรและเกษตรแปรรูป จะได้รับผลกระทบจากมาตรการกำแพงภาษีมากที่สุด ซึ่งไทยควรวางตัวเป็นกลางและส่งเสริมการค้าและการลงทุนกับทุกประเทศ ควรมีการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับคู่ค้าเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้ โดยประเทศและธุรกิจต้องกระจายความเสี่ยงเพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ในระบบการค้าและการลงทุนโลกที่แตกแยก
ขอบคุณภาพจากรอยเตอร์
ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.chinadaily.com.cn/a/202505/06/WS68194147a310a04af22bd898.html
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
https://www.naewna.com/inter/879165 มีแต่ทางตัน? สื่อนอกตีข่าวไทยเจรจาภาษีทรัมป์ เลือกแบบไหน‘ภาคเกษตร’ก็เจ็บ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี