23 ก.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Malaysia PM announces cash aid, fuel price cut to address rising living costs อ้างการเปิดเผยของ อันวาร์ อิบราฮิม (Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ว่า รัฐบาลมาเลเซียจะแจกเงินสดให้กับประชาชนผู้ใหญ่ทุกคน และให้คำมั่นที่จะลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อบรรเทาความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น
ซึ่งถ้อยแถลงของนายกฯ อันวาร์ ซึ่งออกอากาศทางโทรทัศน์ มีขึ้นก่อนการชุมนุมประท้วงที่จะจัดขึ้นโดยพรรคฝ่ายค้าน ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย วันที่ 26 ก.ค. 2568 เพื่อขับไล่เขาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากปัญหาราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นและความล้มเหลวในการปฏิบัติตามแผนปฏิรูปตามที่เคยให้คำมั่นไว้ โดยทางตำรวจคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมราว 10,000- 15,000 คน
ในปี 2568 รัฐบาลของอันวาร์ได้ดำเนินมาตรการหลายอย่างเพื่อกระตุ้นรายได้และผลผลิต รวมถึงการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ การปรับขึ้นค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ และการขยายภาษีการขายและบริการ มาตรการเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่ธุรกิจขนาดใหญ่และกลุ่มคนรวยเป็นหลัก แต่นักวิจารณ์ได้แสดงความกังวลว่าต้นทุนที่สูงขึ้นจะถูกส่งต่อไปยังผู้บริโภคในที่สุด รวมถึงผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง
“ชาวมาเลเซียทุกคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไปจะได้รับเงินช่วยเหลือ 100 ริงกิต (23.67 เหรียญสหรัฐ หรือราว 780 บาท) ในรูปแบบเงินช่วยเหลือครั้งเดียว ซึ่งจะจ่ายตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ รัฐบาลจะจ่ายเงินช่วยเหลือรวม 15,000 ล้านริงกิต (3,550 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.17 แสนล้านบาท) ในปี 2568 เพิ่มขึ้นจาก 13,000 ล้านริงกิตที่ได้รับการจัดสรรไว้เดิมสำหรับปีนี้” นายกฯ มาเลเซีย กล่าว
อันวาร์ กล่าวต่อไปว่า ตนรับทราบข้อร้องเรียนและยอมรับว่าค่าครองชีพยังคงเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข แม้ว่ารัฐบาลจะได้ประกาศมาตรการต่างๆ ไปแล้ว โดยจะมีการริเริ่มโครงการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ในวันที่ 24 ก.ค. 2568 นอกจากนั้น รัฐบาลจะประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการที่รอคอยกันมานานในการปรับเงินอุดหนุนน้ำมันเชื้อเพลิง RON95 ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการขนส่งก่อนสิ้นเดือน ก.ย. 2568
ซึ่งเมื่อการเปลี่ยนแปลงเงินอุดหนุนมีผลบังคับใช้ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่หน้าปั๊มจะลดลงเหลือ 1.99 ริงกิต (15.3 บาท) เมื่อเทียบกับราคาปัจจุบันที่ 2.05 ริงกิต (15.7 บาท) อย่างไรก็ตาม ชาวต่างชาติจะต้องจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในราคาตลาดที่ไม่ได้รับการอุดหนุน อย่างไรก็ตาม นายกฯ มาเลเซีย ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการบังคับใช้มาตรการนี้
บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงโครงการปรับปรุงนโยบายการอุดหนุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเดิมกำหนดไว้ในช่วงกลางปี 2568 และมุ่งเป้าไปที่การยกเลิกมาตรการอุดหนุนสำหรับผู้มีฐานะ อาจส่งผลกระทบต่อแผนการปรับโครงสร้างการคลังของมาเลเซีย อาทิ มูฮัมหมัด ไซฟุดดิน ซาปวน (Muhammad Saifuddin Sapuan) นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารเพื่อการลงทุนเคนันกา กล่าวว่า การแจกเงินสดและมาตรการอุดหนุนเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ ท่ามกลางปัจจัยภายนอกที่เกิดจากความไม่แน่นอนทั่วโลกที่ยังคงดำเนินอยู่ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องแลกมาด้วยต้นทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวิธีที่รัฐบาลจะจัดหาเงินทุน และอาจสร้างแรงกดดันต่อเป้าหมายทางการคลัง
แคทลีน เฉิน (Kathleen Chen) จากทีม Sovereigns ของฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า ความล่าช้าเพิ่มเติมหรือความคืบหน้าที่ไม่เพียงพอในการปรับสมดุลเงินอุดหนุน อาจส่งผลกระทบต่อเป้าหมายของรัฐบาลในการลดการขาดดุลงบประมาณให้เหลือร้อยละ 3 ภายในปี 2571 โดยฟิทช์คาดการณ์ว่าหนี้สาธารณะของรัฐบาลมาเลเซียจะยังคงอยู่ในระดับสูงที่ประมาณร้อยละ 76.5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ในปี 2568 โดยจะลดลงเพียงเล็กน้อยในระยะกลาง
ขอบคุณเรื่องจาก
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี