5 กันยายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศระดับโลก 'ซีเอ็นเอ็น' (CNN) รายงานข่าว อดีตนายกรัฐมนตรี 'ทักษิณ ชินวัตร' ผู้ทรงอิทธิพลของไทย เดินทางออกจากประเทศอย่างกะทันหันด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ย.2568 ก่อนที่ศาลฎีกานัดฟังคำสั่งคดีบังคับโทษชั้น 14 ที่อาจทำให้เขาต้องถูกจำคุก ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า เขาอาจไม่กลับมารับโทษ

การเดินทางออกนอกประเทศของเขา ยังเกิดขึ้นหนึ่งวันก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในวันศุกร์ (5 ก.ย.68) ที่ได้รับการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลที่ทักษิณก่อตั้งขึ้น จะสูญเสียอำนาจ

ทักษิณ ชินวัตร วัย 76 ปี ได้ลี้ภัยในต่างแดนเป็นเวลา 15 ปี หลังจากถูกโค่นอำนาจโดยการรัฐประหารในปี 2549 ส่วนแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของเขา ซึ่งกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดของไทย เมื่อปีที่แล้ว ต้องพ้นจากตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฐานฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา ทักษิณได้สร้าง "ตระกูลการเมือง" ที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศ โดยมีผู้สมัครที่สนับสนุนเขา ชนะการเลือกตั้งเกือบทุกครั้ง ตั้งแต่ปี 2544 

ส่วนทางด้าน  'เซาท์ ไชนา มอร์นิ่ง โพสต์' (South China Morning Post) ของฮ่องกงรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ได้เดินทางออกนอกประเทศอย่างกะทันหันและน่าประหลาดใจ เมื่อวานนี้ เพียง 5 วันก่อนที่ศาลจะมีคำตัดสินซึ่งอาจทำให้เขาต้องรับโทษจำคุกครั้งใหม่

ในรายงาน ระบุว่า การเดินทางออกนอกประเทศของเขาเกิดขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของเขา พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ฐานละเมิดจริยธรรม จากการสนทนาทางโทรศัพท์กับฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา

รัฐสภามีกำหนดจะลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อสืบทอดตำแหน่งต่อจากนางสาวแพทองธารและจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในวันนี้ หลายฝ่ายมองว่านี่คือจุดสิ้นสุดของอำนาจของทักษิณที่เคยมีมานานกว่าสองทศวรรษ ซึ่งตลอดช่วงเวลาดังกล่าว ทักษิณต้องเผชิญกับโทษจำคุกในหลายคดี แต่ไม่เคยต้องโทษในเรือนจำเลย

สื่อฮ่องกงยังรายงานว่าการที่นายทักษิณเดินทางออกนอกประเทศ ก่อให้เกิดกระแสคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่าเขาอาจหลบหนีโทษจำคุกอีกครั้ง แม้ว่านายทักษิณจะยืนยันว่าเขาจะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อขึ้นศาลในวันอังคาร (9 ก.ย.) ที่จะถึงนี้ก็ตาม