ลินซี แม็คลิลแลนด์, กาดิยาห์ โรบินสัน, เจสสิกา ไทสัน, มาเรีย เวสิเลวิช, ควิน อเบนาเคียว และ โซลาริส บาร์บา
เป็นกระแสตั้งแต่การประกวด Miss World 2018 ยังไม่เสร็จสิ้นว่า ประเทศไทยมีลุ้นเจ้าภาพจัดการประกวดMiss World 2019 ซึ่งไม่ต้องลุ้นกันอีกต่อไปเมื่อ จูเลีย มอร์ลีย์ ประธานและซีอีโอ มิสเวิลด์ออร์แกไนเซชั่น ลงนามให้สิทธิ์แก่ บริษัท ทีดับเบิลยู เพเจ้นส์ จำกัด ได้รับลิขสิทธิ์ให้จัดการประกวดรอบตัดสิน Miss World 2019 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยงานนี้ จูเลีย มอร์ลีย์ เดินทางมาประเทศไทยเพื่อแถลงข่าวร่วมกับ ธนวัฒน์ วันสม ประธานกรรมการผู้บริหาร บริษัท ทีดับเบิลยู เพเจ้นส์ จำกัด ด้วยตัวเอง ร่วมด้วยวาเนซา ปอนเซ เด เลออน มิสเวิลด์ 2018 และราชินีความงามประจำภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก (Continental Queen) ได้แก่ นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ รองอันดับหนึ่งมิสเวิลด์ 2018 และมิสเวิลด์ เอเชีย, มาเรีย เวสิเลวิช มิสเวิลด์ ยุโรป จากเบลารุส, กาดิยาห์ โรบินสัน มิสเวิลด์ คาริบเบียน จากจาเมกา, เจสสิกา ไทสัน มิสเวิลด์ โอเชียเนีย จากนิวซีแลนด์, ควินอเบนาเคียว มิสเวิลด์ แอฟริกา จากยูกันดา, โซลาริส บาร์บามิสเวิลด์ อเมริกา จากปานามา และลินซี แม็คลิลแลนด์ มิสเวิลด์ สหราชอาณาจักร จากสกอตแลนด์ ณ พระราชวังพญาไท
จูเลีย มอร์ลีย์ ประธานและซีอีโอ มิสเวิลด์ออร์แกไนเซชั่นเผยว่า ส่วนตัวมีความประทับใจประเทศไทยอยู่แล้ว มีโอกาสได้เดินทางมาประเทศไทยก่อนหน้านี้ สิ่งที่ประทับใจในความเป็นไทยไม่ใช่แค่การเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรม ธรรมชาติที่สวยงาม แต่ประทับใจในยิ้มสยามของคนไทย ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่จริงใจ แม้ว่าขณะที่เขายิ้มภายในเขาอาจจะมีความทุกข์ ความยากลำบากก็ตาม แต่คนไทยก็พร้อมที่จะยิ้มต้อนรับผู้อื่นเสมอ
“การที่มิสเวิลด์ 2019 ได้จัดขึ้นที่ประเทศไทย จึงรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่เวทีนี้จะมีส่วนร่วมในการสร้างชื่อเสียงทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักอีกครั้ง ที่สำคัญคือการมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทย อีกทั้งยังจะมีส่วนในการสร้างความตระหนักถึงการสร้างคุณค่าในตัวเองของผู้หญิงด้วยการช่วยกันพัฒนาสังคม ชุมชน ในด้านต่างๆ ตามพันธกิจของเวทีมิสเวิลด์คือ Beauty With A Purpose หรืองามอย่างมีคุณค่า นั่นเอง ซึ่งเชื่อมั่นว่าชาวไทยจะให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และติดตามเวทีมิสเวิลด์ เป็นกำลังใจให้กับสาวงามผู้เข้าประกวดจาก 130 ประเทศทั่วโลกในการประกวดมิสเวิลด์ 2019”
ธนวัฒน์ วันสม ประธานกรรมการผู้บริหาร บริษัททีดับเบิลยู เพเจ้นส์ จำกัด กล่าวว่า เวทีมิสเวิลด์ เป็นอีกหนึ่งความใฝ่ฝันของตัวเองที่อยากนำการประกวดดีๆ แบบนี้เข้ามาจัดในประเทศไทย จึงตนเองใช้เวลากว่า 3 ปี ในการติดต่อพูดคุยกับ มิสเวิลด์ออร์แกไนเซชั่น จนกระทั่ง จูเลีย มอร์ลีย์ ได้อนุมัติให้ทีดับเบิลยู เพเจ้นส์ เป็นผู้ได้รับสิทธิ์จัดการประกวดมิสเวิลด์ 2019 ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างสูงเพราะมิสเวิลด์จัดการประกวดมาแล้ว 68 ครั้ง โดยมิสเวิลด์ 2019 จะเป็นครั้งที่ 69 และเป็นครั้งแรกของประเทศไทยด้วย
“การที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประกวดมิสเวิลด์ 2019 แน่นอนว่าจะเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยในทุกๆ ด้าน ให้กับทั่วโลกได้รู้จัก มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง ซึ่งทีดับเบิลยู เพเจ้นส์ จะทำงานนี้ออกมาให้ดีที่สุดอย่างสุดความสามารถเพื่อให้สาวงามจากทั่วโลกและผู้คนที่รอชมการประกวดได้มีความประทับใจในประเทศไทย”
วาเนซา ปอนเซ เด เลออน มิสเวิลด์ 2018 ซึ่งได้เคยเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยก่อนหน้านี้แล้ว บอกว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว รวมถึงตนเองด้วย เมื่อได้มาเที่ยวประเทศไทยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา รู้สึกประทับใจในทุกๆ สิ่งที่ได้สัมผัส อย่างเช่น สถาปัตยกรรมไทยอันงดงาม ทำให้เกิดความสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับประเทศไทยมากขึ้น และเชื่อว่าสาวงามจาก 130 ประเทศทั่วโลกที่จะเข้าร่วมการประกวดมิสเวิลด์ 2019 ที่ในปลายปีนี้ก็จะมีความประทับในเช่นกัน และเป็นแรงบันดาลใจในการทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคมต่อไป
ปิดท้ายด้วย นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ รองอันดับหนึ่ง มิสเวิลด์ 2018 และมิสเวิลด์ เอเชีย จากประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกยินดีและตื่นเต้นที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประกวดมิสเวิลด์ 2019 สำหรับตนเองมีความพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีให้กับผู้เข้าประกวดได้หลงเสน่ห์ประเทศไทย เช่นเดียวกับที่ตัวเองที่แม้จะกลับมาอยู่เมืองไทยได้แค่เพียงปีเดียวแต่ก็หลงเสน่ห์ประเทศไทยจนไม่อยากกลับไปบ้านที่ต่างประเทศเลย ตอนนี้ก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยเอาไว้บอกเล่าให้กับเพื่อนๆ ที่จะมาปลายปีนี้แล้ว และอยากจะเชิญชวนคนไทยมาร่วมเป็นเจ้าภาพด้วยรอยยิ้มและความอบอุ่นมอบให้กับสาวงามทั้ง 130 ประเทศทั่วโลกที่จะมาร่วมประกวดเวทีมิสเวิลด์ 2019 ในเดือนพฤศจิกายนนี้
ทั้งนี้ สาวงามผู้เข้าประกวดมิสเวิลด์ 2019 จาก 130 ประเทศมีกำหนดจะเดินทางถึงประเทศไทยในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2562 เพื่อเก็บตัวก่อนเข้าประกวดรอบสุดท้ายในเดือนธันวาคม 2562 โดยตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนในเมืองไทยผู้เข้าประกวดทุกคนจะได้เข้าร่วมกิจกรรมของกองประกวด ณ สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงต่างๆ ของเมืองไทยรวมถึงเข้าร่วมกิจกรรมภายใต้โครงการ Beauty With A Purpose เพื่อบริจาคช่วยเหลือองค์กรการกุศล โดยการประกวดมิสเวิลด์ 2019 รอบตัดสินในประเทศไทย จะมีการถ่ายทอดสดไปยังกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี