ครั้งสุดท้ายที่คุณชมลิเก นานกี่ปีมาแล้วครับ แล้วคุณคิดอยากจะกลับไปดูลิเกอีกสักครั้ง ไหมครับ
แต่คุณเชื่อไหม เวลาคนต่างชาติ (ชาวยุโรปตะวันตก) เห็นคนแต่งกายด้วยชุดลิเกเต็มยศ แล้วเดินเก๋ไปมา เพื่อประชาสัมพันธ์งานแสดงศิลปะของไทยในย่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของยุโรป เช่น กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยเฉพาะที่จัตุรัสมหาวิหารเซนต์สตีเฟน คุณเชื่อไหมว่า ฝรั่งตะวันตกให้ความสนใจกับผู้แต่งชุดลิเกอย่างมากมาย หลายคนหยุดมอง หลายคนขอถ่ายรูปด้วย หลายคนยิ้ม หลายคนหัวเราะ หลายคนถามว่ามาจากประเทศไหนแล้วก็ถามว่านี่คือชุดอะไร เพราะดูแล้วจะบอกว่าเป็นชุดแฟนซีก็ได้ หรือเป็นชุดสำหรับการแสดงก็ได้ แต่ที่แน่ๆ คือ ฝรั่งตะวันตกสนใจว่าชุดนี้ใช้สำหรับการแสดงอะไร
เมื่อฝรั่งตะวันตกรุมล้อมเข้ามาถามไถ่เช่นนี้ ก็จึงเป็นโอกาสทองที่คณะผู้จัดงาน คือ คุณณัฐ ยนตรรักษ์ นักประพันธ์เพลง และนักเปียโนไทย ผู้มีฝีมือการบรรเลงระดับโลก คุณพ-วงเดือน ยนตรรักษ์ และลูกสาวทั้งสอง คือลูกตาล และลูกจัน พร้อมกับชาวคณะนักแสดง ได้บอกเล่าให้ผู้สนใจรับทราบว่า ขณะนี้คณะนักแสดงของไทย แต่จริงๆ มีชาวตะวันตกร่วมด้วยรายหนึ่งคือ คุณวูกัซ คูเช-ดโว (Lukasz Kurzydlo) ชาวโปแลนด์ ซึ่งทำหน้าที่นักเคาะจังหวะ (percussionist) พร้อมด้วยนักแสดงจากสถาบันคริสเตียนนิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ กำลังตระเวนเปิดการแสดงเพื่ออวดชาวโลกให้รู้ว่าประเทศไทยมีงานศิลปะด้านการดนตรีและการแสดงที่ชาวโลกไม่ควรพลาด โดยเริ่มแสดงตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายนไปจนถึงเดือนตุลาคม 2562 ในหลายประเทศของยุโรป อาทิ ออสเตรีย โปแลนด์ ฮังการี เยอรมนี อิตาลี และรัสเซีย โดยการแสดงชุดนี้ใช้ชื่อว่าCourt to Common แปลเป็นไทยอย่างไพเราะว่า จากเวียงวังสู่ชาวบ้านร้านถิ่น
การเดินทางไปแสดงศิลปะด้านดนตรีและการละคร (ลิเก) ในครั้งนี้เป็นไปตามคำเชื้อเชิญจากประเทศเจ้าบ้านที่ต้องการสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศในรูปแบบประชาชนกับประชาชน (people to people) เพราะตระหนักดีว่า ประเทศไทยมีนักประพันธ์เพลง และมีนักเปียโนฝีมือดีระดับโลกแล้วก็ยังมีศิลปะการแสดงที่ชาวโลกให้ความสนใจ โดยเฉพาะการแสดงที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของไทยได้อย่างชัดเจน เช่น ลิเก ซึ่งหลายคนบอกว่าเป็นศิลปะชาวบ้านที่มีเสน่ห์อย่างมหัศจรรย์
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมจึงใช้ชื่อการแสดงในครั้งนี้ว่า จากเวียงวังสู่ชาวบ้านร้านถิ่น
คำตอบคือ เพราะในการแสดงนี้ คุณณัฐได้เชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2และบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 และบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ไปบรรเลง เพื่อแสดงให้ชาวโลกรู้ว่าพระมหากษัตริย์ไทยทรงมีพระปรีชาญาณด้านการดนตรีอย่างวิเศษจนเป็นที่ประจักษ์ต่อประชาชนไทยและต่อประชาคมโลก โดยเฉพาะบทเพลงพระราชนิพนธ์ในล้นเกล้าล้นกระหม่อม รัชกาลที่ 9
ส่วนประเด็นที่บอกว่า ถึงชาวบ้านร้านถิ่น ก็เพราะในการแสดงนี้ได้นำการแสดงของชาวไทยในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ คือ จากภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ไปเผยแพร่ให้ชาวตะวันตกไปรับชมด้วย โดยผสมผสานระหว่างเสียงเปียโนในท่วงทำนองเพลงของแต่ละภาคกับการแสดงประจำภาค แล้วปิดท้ายด้วยการแสดงลิเก โดยไม่มีการร้องลิเก แต่ใช้เสียงเปียโนและเครื่องเคาะจังหวัด เช่น ฉิ่ง ตะโพน เป็นเสียงแทนการร้อง
นี่คือคำเฉลยว่าเหตุใดจึงใช้ชื่อการแสดงครั้งนี้ว่า จากเวียงวังสู่ชาวบ้านร้านถิ่น แต่ที่สำคัญคือในการแสดงครั้งนี้ คณะผู้แสดงตั้งใจบอกกับชาวตะวันตกรวมถึงคนไทยที่ไปมีครอบครัวอยู่ในตะวันตกว่า ในความเป็นจริงแล้วสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยกับพสกนิกรไทยไม่เคยอยู่ห่างไกลกันเลย เพราะพระมหากษัตริย์ไทยทรงใส่พระทัยในความสุขความทุกข์ของพสกนิกรตลอดเวลา และพสกนิกรไทยก็ร่มเย็นเป็นสุขด้วยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมเสมอมา และตลอดไป
อันที่จริง Mr.Flower มีทริปพาคุณผู้ฟังไปเที่ยวพร้อมกับรับชมการแสดงของคุณณัฐ และคณะนักแสดงด้วย หากคุณผู้อ่านสนใจจะร่วมทริปไปกับเรา โปรดติดต่อด่วนที่หมายเลขโทรศัพท์ 091-7233615(สำหรับคุณที่มีเชงเก้นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว สามารถเดินทางได้ทันที ส่วนคุณที่ยังไม่มีเชงเก้นวีซ่า และต้องการร่วมทริปเล็กๆ ไปกับเรา โปรดติดต่อด้วย เพราะต้องใช้เวลาในการจัดทำวีซ่า)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี