พระบรมธาตุเจดีย์
ไม่มีใครที่ไม่รู้จักดอยสุเทพที่ตั้งของพระธาตุเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุบนดอยสุเทพ แต่น้อยคนนักที่จะรู้จัก วัดผาลาด หรือวัดสกทาคามี ซึ่งเป็นวัดโบราณคู่เมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ดอยปุย ตรงถนนศรีวิชัย กม.๕ ริมเส้นทางขึ้นดอยสุเทพ ซึ่งในอดีตกาลนั้นเป็นเส้นทางเดินขึ้นดอยสุเทพ ก่อนมีถนนในพ.ศ.๒๔๙๐
วัดนี้สร้างขึ้นสมัยพญากือนาธรรมิกราชด้วยเหตุที่เป็นวัดเก่าอายุกว่า ๖๓๗ ปี ซึ่งมี ประวัติการสร้างว่า ในสมัยพญาลิไทแห่งสุโขทัย โดยเสด็จเดินทางขึ้นมาร่วมบุญกับพญากือนาในการพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นหลังช้างเสี่ยงทายหาสถานที่ประดิษฐาน ซึ่งช้างที่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุได้พักถึง ๔ จุด โดยจุดหนึ่งนั้นได้มาพักบริเวณแห่งนี้ก่อนเป็นแห่งแรก ก่อนที่ช้างจะเดินขึ้นดอยต่อไป สุดท้ายช้างไปหยุดอยู่ที่ดอยสุเทพทำให้พญากือนาธรรมิกราชได้สร้างพระธาตุเจดีย์บนดอยสุเทพขึ้น
ต่อมาสถานที่ช้างหยุดพักตามทางนั้นเจ้าครองนครทั้งสองพระองค์มีความเห็นว่าเมื่อสร้างพระธาตุเจดีย์บนยอดดอยสุเทพแล้วได้เห็นร่วมกันว่าควรจะสร้างวัดในจุดที่พักระหว่างทาง ดังนั้นวัดผาลาดหรือวัดสกทาคามีแห่งนี้จึงเป็นวัดแรกที่สถาปนาเพื่อระลึกถึงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นดอยสุเทพ เมื่อ พ.ศ.๑๙๒๗ ครั้งนั้นพญาลิไทได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่ติดพระองค์มาด้วยนั้นสร้างพระบรมธาตุในที่แห่งนี้อีกองค์หนึ่ง
พระเจ้ากือนาธรรมิกราช
พญากือนาธรรมิกราช หรือ เจ้าท้าวสองแสนนา ธรรมิกราช ทรงเป็นกษัตริย์ราชวงศ์ มังราย รัชกาลที่ ๖ แห่งอาณาจักรล้านนา ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ.๑๘๙๘-๑๙๒๘ พระองค์ทรงเป็นพระโอรสในพญาผายูกับพระนางจิตราเทวี ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากพญามังราย พญากือนาพระองค์นี้ทรงมีศรัทธาในศาสนาพุทธอย่างมาก โปรดฯให้อาราธนาพระสุมน เถระจากกรุงสุโขทัยมาประดิษฐานพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์ในล้านนา ทรงทำนุบำรุงวัดวาอารามตลอดรัชกาล และจัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นช้างเสี่ยงทายจากวัดสวนดอกขึ้นเขาไปหาที่เหมาะสมประดิษฐาน จนได้สถานที่บนดอยสุเทพ
สำหรับโบราณสถานของวัดที่สร้างขึ้นแต่ครั้งพญากือนาธรรมิกราชนั้นประกอบด้วย หอพระเจ้า ตั้งอยู่ริมน้ำตกผาลาดภายในมีพระพุทธรูปหลายองค์ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ วิหาร และ พระบรมธาตุเจดีย์ โดยมีร่มเงาของธรรมชาติสร้างความร่มรื่นและปกคลุมด้วยหมู่แมกไม้ ลำธารจากน้ำตกพระพุทธเจดีย์ ที่ปรากฏนี้สร้างเป็นศิลปะพม่าจากความชื้นที่คลุมอยู่ตลอดนั้นทำให้องค์เจดีย์มีพืชสีเขียวขนาดเล็กคลุมไว้อย่างงดงาม วิหารสร้างเป็นศิลปะไทลื้อ เดิมนั้นมุงด้วยใบตองตึง ได้บูรณะเปลี่ยนเป็นกระเบื้องเมื่อครั้งครูบาศรีวิชัยได้อำนวยการสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ เมื่อพ.ศ.๒๔๘๙-๙๐ วัดนี้มีศิลปกรรมประดับสวยงามได้แก่ รูปปั้นของ อนาถปิณฑิกเศรษฐี เป็นเศรษฐีที่อุปภัมถ์พระพุทธเจ้าในสมัยพุทธกาล และรูปปั้นนางวิสาขา เศรษฐินีที่อุปถัมภ์พระพุทธเจ้าจึงเป็นที่ศรัทธาของผู้ที่เข้ามาขอพรอธิษฐานจากรูปปั้นทั้งสองโดยนำเครื่องประดับมาถวายนางวิสาขา นอกจากนี้ ยังมีรูปปั้นพระอินทร์ในมิติของพญานาคตามจุดต่างๆ ของวัด และภายในวิหารโบราณประดิษฐานพระพุทธรูปอุ่นเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีถ้ำเก่าแก่ ที่ตรวจสอบเบื้องต้น เป็นถ้ำขนาดความกว้าง ๙ เมตรลึกประมาณ ๑๐-๑๕ เมตร ซึ่งมีช่องทางเข้าไปด้านในซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีโบราณสถานหรือทรัพย์สินมีค่าอยู่ภายใน ซึ่งต้องรอการสำรวจอีกครั้ง พระครูธีรสุตพจน์ (พระมหาสง่า ธีรสํวโร) เจ้าอาวาสวัดผาลาด องค์ปัจจุบันได้ทำการก่อสร้างบำรุงสถานที่และอนุรักษ์โบราณสถานเป็นอย่างดี โดยความร่วมมือจากสำนักศิลปากรที่ ๗ กรมศิลปากร ได้ฟื้นฟูและบูรณะโบราณสถานโดยเฉพาะ หอพระเจ้าที่ชำรุดทรุดโทรมให้มีความสง่างามตามรูปแบบเดิม ปัจจุบันเป็นวัดสำหรับปฏิบัติธรรม โดยมีอุทยานธรรมของมูลนิธิสถาบันครูบาศรีวิชัย ผู้สนใจทำบุญบริจาคทรัพย์อุปถัมภ์ได้ที่วัดผาลาด โทร.๐๘๑-๖๗๑๙๗๖๓ โดยตรง เพื่อสร้างอาศรมศีลครูบาศรีวิชัย สำหรับชาวพุทธทั่วไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี