พระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช
พระบรมธาตุทางภาคใต้นั้น พระธาตุเมืองละคร นั้นมีตำนานเล่าขานนานมาถึง พระนางเหมชาลา และพระราชกุมาร พระทันทกุมาร มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับตำนานพื้นเมืองท้องถิ่นทางภาคใต้โดยเฉพาะเมืองละคร หรือนครศรีธรรมราช และเมืองสทิงพระ ที่ได้รับพุทธแบบเถรวาทจากศรีลังกาและได้รับการสักการบูชาในฐานะปูชนียบุคคลที่ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในมเหสักข์และอารักษ์ในศาสนาพื้นเมืองเดิมท้องถิ่นร่วมกับเทพารักษ์พระหลักเมือง พระเสื้อเมือง อารักษ์เสื้อวัด ตลอดจนเทพบรรพชนโดยทั่วไปของท้องถิ่นภาคใต้ ดังนั้นนามของพระนางและพระราชกุมารจึงได้รับสถาปนาเป็นพระพุทธรูปฉลองพระองค์อุทิศถวาย ณ วิหารธรรมศาลา วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารซึ่งกำหนดอายุทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีได้ในศิลปะไทยสกุลช่างท้องถิ่นสมัยอาณาจักรอยุธยาตอนปลายประมาณ รัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศลงมาและยังมีพระราชานุสาวรีย์ของพระนางและพระราชกุมารในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และวัดจะทิ้งพระด้วย นอกจากนี้ ยังมีพระพุทธรูปฉลองพระองค์อุทิศถวายแด่ทั้งสองพระองค์ในฐานะพระพุทธรูปประธานของอุโบสถร่วมกับพระพุทธรูปฉลองพระองค์ของพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ณ วัดหนองคุย อำเภอแกลง จังหวัดระยองอีกด้วย จนถือว่า “ชาวนครฯนั้นอยู่เมืองพระมั่นอยู่ในสัจจะ ศีลธรรม กอปรกรรมดี มีมานะ พากเพียร ไม่เบียดเบียน ทำอันตรายผู้ใด”
พระเจ้าจันทรภาณุ
อดีตนั้นชาวเมืองละครหรือนครศรีธรรมราช เป็นเมืองโบราณที่มีความสำคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครองและศาสนามากที่สุดเมืองหนึ่ง ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่รู้จักกันมาไม่น้อยกว่า ๑,๘๐๐ ปี ซึ่งมีหลักฐานทางโบราณคดี และหลักฐานทางเอกสารที่ยืนยันว่าเมืองนี้ได้กำเนิดมาแล้วตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๗ และนาม “นครศรีธรรมราช” ก็เป็นพระนามของปฐมกษัตริย์ผู้ครองนครศรีธรรมราช คือพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช แปลว่า “นครอันงามสง่าแห่งพระราชาผู้ทรงธรรม” ที่ยืนยันความเป็นพระธรรมของราชาแห่งนครนี้ คือ พระธรรมราชาแห่ง พระพุทธศาสนา โดย ราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราชได้สร้างความเจริญรุ่งเรืองในพุทธศตวรรษที่ ๑๗-๑๙ จากการเป็นสถานีการค้าสำคัญของคาบสมุทรไทยเป็นจุดพักถ่ายซื้อสินค้าระหว่างตะวันออกกับตะวันตกที่ดีที่สุดในเวลานั้น ประกอบกับบริเวณ หาดทรายแก้วอันเป็นศูนย์กลางของชุมชนเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์ความศรัทธาและความเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนา จึงเป็นปัจจัยชักนำให้ผู้คนจากทุกสารทิศในภาคใต้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในนครศรีธรรมราชอย่างหนาแน่นในราวพ.ศ.๑๗๐๐ เศษ ราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราชก็สามารถจัดการปกครองหัวเมืองรายรอบ ได้สำเร็จถึง ๑๒ เมือง เรียกว่า เมืองสิบสองนักษัตร พระบรมธาตุเจดีย์ เป็นเจดีย์สถาปัตยกรรมแบบทรงระฆังคว่ำ มีจุดเด่นที่ยอดเจดีย์ ซึ่งหุ้มด้วยทองคำแท้ จากความเชื่อที่เล่าสืบต่อกันมาว่าองค์พระธาตุประกอบด้วยทองรูปพรรณและของมีค่ามากมายจรดปลายเจดีย์ ซึ่งสิ่งของมีค่าเหล่านี้พุทธศาสนิกชนนำมาถวายแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อให้ตนได้พบกับนิพพาน ซึ่งมีประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ หมายถึงการนำผ้าผืนยาวขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ในวันสำคัญทางศาสนา ชาวนครได้ร่วมมือร่วมใจกันบริจาคเงินตามกำลังศรัทธานำเงินที่ได้ไปซื้อผ้ามาเย็บต่อกันเป็นแถวยาวนับพันหลา แล้วจัดเป็นขบวนแห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์ ผ้าที่ขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์เรียกว่า “ผ้าพระบฏ” (หรือพระบต) นิยมใช้สีขาวสีเหลือง สีแดง สำหรับผ้าสีขาวนิยมเขียนภาพเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ เสด็จออกบรรพชา ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพานตามตำนานประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ มีตำนานว่าในขณะพระเจ้าสามพี่น้อง คือ พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช พระเจ้าจันทรภาณุและ พระเจ้าพงษาสุระ กำลังดำเนินการสมโภชพระบรมธาตุอยู่นั้น คลื่นได้ซัดผ้าแถบยาวชิ้นหนึ่ง ซึ่งมีลายเขียนเรื่องราวพุทธประวัติ(เรียกว่า พระบฏ หรือพระบต) ขึ้นที่ชายหาดปากพนัง จึงนำผ้าผืนนั้นไปถวาย พระเจ้าศรีธรรมโศกราช พระองค์จึงรับสั่งให้ซักจนสะอาดแต่ลายเขียนพุทธประวัติก็ไม่ลบเลือนยังคงสมบูรณ์ดีทุกประการ นับเป็นพระธาตุองค์สำคัญอีกแห่งหนึ่งสถิตอยู่ทางภาคใต้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี