"รู้เขารู้เรา จะกลัวอะไรกับการรบร้อยครั้ง" คำกล่าวอมตะในตำราพิชัยสงครามจีน ที่ไม่เพียงใช้ในสนามรบโบราณเท่านั้น หากยังสะท้อนแนวคิดร่วมสมัยในการสร้างความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
เนื่องจากประเทศกัมพูชา เป็นเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงที่มีความเกี่ยวข้องกับไทยอย่างมาก ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่คนไทยจะต้องศึกษาเรียนรู้ทำความเข้าใจในเรื่องกัมพูชา ทั้งด้าน ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง เพื่อให้เกิดมิตรไมตรี และลดความเข้าใจผิด โดยมิใช่การเตรียมเผชิญหน้า แต่เพื่อเสริมสร้างสันติภาพ ความร่วมมือ และการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน และเป็นการลงทุนที่มีคุณค่า การที่คนไทยรู้จักเขมรนั้นเป็นก้าวสำคัญของการเป็นเพื่อนบ้านในองค์การอาเซียนอย่างมั่นคง
1.ประวัติศาสตร์ : ความสัมพันธ์พันปี คนไทยและคนเขมรมีความเกี่ยวพันกันมากว่าพันปี เปรียบเสมือนพี่น้องคลานตามกันมา ตั้งแต่สมัยอาณาจักรขอมโบราณก่อนการตั้งประเทศสยามและอาณาจักรกัมโพช จนถึงปัจจุบัน ที่มีสายใยร่วมกันในด้านประเพณี ภาษา ศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม หลักฐานทางประวัติศาสตร์ เช่น ปรางค์สามยอดลพบุรี ปราสาทหินพิมาย ปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเขาพระวิหาร ปราสาทนครวัด และเส้นทางราชมรรคา สะท้อนการผสมผสานและการถ่ายทอดอารยธรรมอย่างแน่นหนา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศบางช่วงก็ราบรื่นดี แต่มีบางช่วงที่ขัดแย้งกันบ้างเหมือนปัญหาคนในครอบครัว การเข้าใจประวัติศาสตร์เขมรจะช่วยให้คนไทยไม่ยึดติดกับข้อมูลด้านเดียวและเข้าใจความสัมพันธ์อันซับซ้อนในปัจจุบัน ที่อาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่เบื้องหลัง ความขัดแย้งและความเข้าใจผิดในอดีตบางครั้งเกิดจากการขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนั้นการศึกษาประวัติศาสตร์อย่างเป็นกลางและครอบคลุมจะช่วยลดอคติและสร้างมุมมองที่สร้างสรรค์มากขึ้น
2.วัฒนธรรม : สะพานเชื่อมความสัมพันธ์ ประเทศไทยและกัมพูชามีมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกันมากมาย ทั้งในด้านภาษา ศาสนาพุทธ พราหมณ์ฮินดู ศิลปะ สถาปัตยกรรม และวิถีชีวิต ตัวอย่างที่ชัดเจนคืออิทธิพลของวัฒนธรรมเขมรที่มีต่อศิลปะและเพลงไทยในหลายยุคสมัย
วัฒนธรรมเขมรมีเอกลักษณ์ที่น่าศึกษา ตั้งแต่ศิลปะการแสดงแบบดั้งเดิม เช่น รำอัปสรา ดนตรีพื้นบ้าน การแกะสลักหิน ไปจนถึงประเพณีต่างๆ ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและความเชื่อของชาวเขมร การเรียนรู้เรื่องเหล่านี้สร้างการเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งระหว่างสองประเทศ ดังนั้นการเรียนรู้และชื่นชมวัฒนธรรมกัมพูชา จะช่วยเปิดมุมมองให้คนไทยเห็นถึงความหลากหลายและความงดงามของเพื่อนบ้าน เป็นการสร้างความผูกพันทางใจ และลดอคติที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่รู้
3.เศรษฐกิจ : โอกาสและความท้าทายร่วมกัน กัมพูชาเป็นตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพสูงในภูมิภาคอาเซียน ด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องและประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมาก การเข้าใจลักษณะการทำธุรกิจ วัฒนธรรมองค์กร และพฤติกรรมผู้บริโภคในกัมพูชาจะช่วยให้นักธุรกิจไทยสามารถขยายตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อุตสาหกรรมสิ่งทอ เกษตรกรรม การท่องเที่ยว และเทคโนโลยีเป็นสาขาที่มีโอกาสความร่วมมือสูง การเตรียมความพร้อมด้วยความรู้ที่ถูกต้องจะช่วยให้การลงทุนและการค้าขายประสบความสำเร็จมากขึ้น
4.สังคม : ในปัจจุบันมีแรงงานเขมรจำนวนมากที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย การทำความเข้าใจวัฒนธรรมและภาษาเขมรจะช่วยลดปัญหาการสื่อสารและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน การเรียนรู้เรื่องสังคมกัมพูชาจะช่วยให้คนไทยมีความเข้าใจในบริบทของเพื่อนบ้านมากขึ้น ลดอคติ และส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข แบบ “เอาใจเขามาใส่ใจเรา” รวมถึงการร่วมมือกันเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ การแลกเปลี่ยนทางวิชาการ การศึกษา และกิจกรรมทางสังคมระหว่างทั้งสองประเทศจะช่วยสร้างความเข้าใจอันดีและลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่เข้าใจกัน
5.ความมั่นคง : สร้างเสถียรภาพเพื่อภูมิภาค ความมั่นคงในภูมิภาคอาเซียนขึ้นอยู่กับความร่วมมือและความเข้าใจกันระหว่างประเทศสมาชิก การมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกัมพูชาจะช่วยให้ไทยสามารถมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
การป้องกันปัญหาข้ามแดน เช่น การค้ามนุษย์ ยาเสพติด และการก่อการร้าย ต้องอาศัยความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเริ่มต้นจากความเข้าใจและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ประเด็นเรื่องพรมแดน และการประสานความร่วมมือ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน และป้องกันปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ
6.การลดความเข้าใจผิดและอคติ ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและการขาดความรู้ความเข้าใจมักเป็นต้นเหตุของความเข้าใจผิดและการมองกันในแง่ลบ การศึกษาเรียนรู้จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และมีมุมมองที่หลากหลายจะช่วยสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและลดความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น
7.บทบาทของสื่อสังคมออนไลน์ การปลุกระดมมวลชน และข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง สามารถขยายความเข้าใจผิดได้อย่างรวดเร็ว การมีความรู้พื้นฐานที่มั่นคงจะช่วยให้เราสามารถกลั่นกรองข้อมูลและไม่หลงเชื่อข่าวลือหรือข้อมูลที่บิดเบือน
วิธีการเรียนรู้เรื่องเขมร
1.ศึกษาจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย - อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ บทความวิชาการ และข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ 2.เรียนรู้ภาษาเขมรขั้นพื้นฐาน – การรู้ภาษาจะช่วยให้เข้าใจวัฒนธรรมได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การพูดทักทายภาษาเขมรเพียง 10 ประโยค จะสร้างความประทับใจต่อคนกัมพูชาอย่างมาก เช่น จุมเรียบเซา (สวัสดี) โซกซะบายเด?(สบายดีหรือ) ซะบาย-นาด(สบายมาก) ออกุน (ขอบคุณ) รีก-เรียย- เดล (ยินดีที่ได้พบ) สะอาด(สวย/สะอาด/หล่อ) ตรัวเฮย(ถูกแล้ว/เก่งมาก) อะ-ดืออี-เต(ไม่เป็นไร) ไป-ญาม-บาย (ไปกินข้าวกัน) เละ นาด (ดีมาก) รีก-เรียย-นาด (ดีใจมาก) 3.เข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม - เทศกาล นิทรรศการ และกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมร่วม เช่น ในเทศกาลวิสาขบูชา 4.เดินทางไปเยือนกัมพูชา – การสัมผัสด้วยตนเองจะให้ความเข้าใจที่แท้จริงมากกว่าการอ่านหรือฟังเพียงอย่างเดียว และ 5.สร้างเครือข่ายกับชุมชนเขมรในไทย – การมีปฏิสัมพันธ์โดยตรง กับแรงงานเขมรในประเทศไทย จะช่วยเพิ่มความเข้าใจในมิติส่วนบุคคล
โดย สุริยพงศ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี