ในช่วงบ้านเมืองมีแต่ข่าวลบ ข่าวร้าย หลายคนจะบ่นตรงกันว่า เครียดมาก ดูข่าวศาลอาญายกฟ้องคดี 112 ทักษิณแล้วเครียดจัด ดูข่าวทหารไทยขาขาดเพราะเหยียบกับระเบิดเขมรแล้วทั้งสงสารทหารและก็เครียดจนนอนไม่หลับ และยังมีสารพัดข่าวเครียดให้ดูทั้งวันทั้งคืน
หากคุณอยู่ในสภาพเช่นนี้ ขอแนะว่า ยุติการดูข่าวเหล่านั้นทันที แล้วไปทำกิจกรรมอื่น ๆ อย่าจมจ่อมกับข่าวลบข่าวร้ายที่ทำให้เครียดต่อไป เพราะอาจจะมีปัญหาด้านอารมณ์ และสุขภาพตามมาได้
คำว่าข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีเสียตังค์ เป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริง แล้วยิ่งในช่วงนี้หลายคนคงประสบปัญหาเครียดจากการเสพข่าวที่ถาโถมเข้ามามากมาย เช่น เรื่องชายแดนไทยกัมพูชา ที่รบพัวพันยืดเยื้อกันมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ข่าวพระสงฆ์ที่เราเคยนับถือร่วมทำบุญ แต่ตอนนี้กลายเป็นสมีกันไปไม่น้อย ข่าวเศรษฐกิจเสื่อมทรุดปิดกิจการ จะยังมีข่าวดี (สำหรับคนขาย) คือดราม่าไข่เจียวปู ราคาจานละ 4 พันบาท ฯลฯ บอกตรง ๆ ฟังแล้วก็จิตตก เหนื่อยใจ
แต่คนที่มีจิตใจเข้มแข็งก็คงไม่เป็นอะไรมากนัก เพราะทำใจได้ คือรับรู้แล้วปล่อยวาง แต่ก็มีหลายคน in กับข่าวมากเหลิอเกิน ยิ่งดูยิ่งยิ่งรู้สึกแย่ จนเครียดเพราะเสพข่าวมากไป ซึ่งเป็นภาวะที่ก่อให้เกิดความรู้สึกวิตกกังวล หดหู่ มีความเครียดสะสม
สาเหตุหลักของภาวะนี้ คือ ได้รับข่าวลบมากเกินไป เช่นข่าวที่เต็มไปด้วยความรุนแรง ภัยพิบัติ ความขัดแย้ง และโรคระบาด การได้รับข้อมูลลบอย่างต่อเนื่อง ทำให้จิตใจเกิดความตื่นตระหนกและหวาดกลัว แล้วยิ่งในยุคนี้การแพร่กระจายของข่าวไปได้เร็วมาก ผู้คนเข้าถึงข่าวสารต่าง ๆ ทั้งลบและบวกได้ง่าย เพราะอินเตอร์เน็ตในบ้านเราเร็วและแรง (แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทุกทีทั่วประเทศ) ความรวดเร็วของอินเตอร์เน็ตทำให้เราต้องเผชิญกับข่าวและเรื่องราวต่าง ๆ ตลอดเวลา โดยไม่มีเวลาให้สมองได้ประมวลผล หรือพักผ่อน
สาเหตุทั้ง 2 ข้อข้างต้นส่งผลให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นคงและควบคุมอารมณ์ไม่ได้ การรับรู้ข่าวภัยพิบัติ หรือวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ทำให้รู้สึกว่าชีวิตไม่มั่นคง รู้สึกไร้อำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์เหล่านั้น บางคนเกิดอาการเสพติดข่าว ต้องติดตามข่าวและเรื่องราวต่าง ๆ ตลอดเวลา เพราะกลัวว่าจะตกข่าว หรือไม่รู้ข้อมูล ก็ยิ่งเพิ่มความเครียดมากขึ้น
วิธีการตรวจสอบว่าเรามีอาการเครียดจากการเสพข่าว สามารถสังเกตคร่าว ๆ ได้จาก 3 ด้านคือ อารมณ์ ร่างกาย และพฤติกรรม ด้านอารมณ์ให้ดูว่าตนเองวิตกกังวล หงุดหงิดง่าย หดหู่ สิ้นหวังหรือไม่ ด้านทางกาย อาจเกิดอาการปวดหัว นอนไม่หลับ ใจสั่น ปวดท้อง ปวดเมื่อยร่างกาย ส่วนด้านพฤติกรรมคือ หมกมุ่นกับการเสพข่าวมากผิดปกติ บางครั้งถึงกับหลีกเลี่ยงการเข้าสังคมเพราะต้องตามดูข่าวและเรื่องต่าง ๆ ทั้งวันทั้งคืน บางคนก้มหน้าอยู่กับจอโทรศัพท์มือถือทั้งวัน หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ แสดงว่ากำลังเครียดจากข่าวที่เสพ
การป้องกันหรือแก้ไข ถ้ารู้สึกตัวว่ากำลังมีปัญหาข้างต้น สิ่งแรกที่ต้องทำคือ จำกัดเวลาเสพข่าว ต้องลดเวลาลงจากเดิม แล้วควรอ่านหรือดูข่าวใดข่าวหนึ่งจากแหล่งที่น่าเชื่อถือสัก 1-2 แหล่ง เพื่อเปรียบเทียบเนื้อหากัน แต่ไม่ต้องดูวนไปวนมา แต่ที่สำคัญคือต้องแยะแยะความเท็จกับความจริงให้ได้ ต้องตั้งข้อสงสัย และต้องตั้งคำถามกับข่าวหรือเรื่องนั้น ๆ บางคนตามดูข่าวหรือเรื่องราวทั้งวันทั้งคืน ดูไปก็หนักใจ เศร้าใจ เครียด แต่ก็ยังดู แบบนี้ต้องหยุดหรือพักใช้โทรศัพท์มือถือสัก 20-30 นาที ต้องมีสติ และต้องอยู่กับปัจจุบัน และแนะนำให้ทำสมาธิ ดูลมหายใจ หรือทำกิจกรรมอื่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากข่าว เช่น ออกกำลังกาย ทำงานอดิเรก เล่นกับสัตว์เลี้ยง ดูแลคนครอบครัว เป็นต้นส
ส่วนคนที่บังคับตัวเองไม่ได้ เพราะติดโทรศัพท์มือถืออย่างหนัก ถึงแม้จะมีอาการเครียดเพราะเสพข่าวที่เต็มไปด้วยความรุนแรง ที่ทำให้ทั้งร่างกายและจิตใจแย่ ห่อเหี่ยว แบบนี้ต้องเลิกดูข่าวทันที อย่าทนดูต่อไปจนเกิดผลกระทบต่อการทำงาน การเรียน และก่อให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์กับคนต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว จนถึงกับการทะเลาะกัน หรือบางคนแยกตัวออกจากคนอื่น บางคนนอนไม่หลับ มีอาการป่วยทางกาย ปวดนี่นั่นโน่นโดยไม่มีสาเหตุ หรือคิดทำร้ายตัวเอง หากมีอาการทั้งหมดนี้ ต้องไปปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทันที เพราะหมายความว่าอาจต้องใช้ยาคลายคลียดเพื่อรักษา หรือต้องใช้ยาต้านเศร้า ซึ่งมีหลากหลายกลุ่ม จึงต้องเลือกใช้ยาที่เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละราย ขอย้ำว่าอย่าหาซื้อยาเหล่านี้โดยไม่ผ่านการปรึกษาแพทย์และเภสัชกร
แต่หากยังไม่แน่ใจว่าตนเองเครียดมากเกินไปหรือไม่ ขอให้ประเมินตนเอง โดยทำแบบประเมินภาวะซึมเศร้า 9 คำถาม (9Q) หรือ แบบประเมินความเครียด 5 คำถาม (ST-5) โดยทำประเมินผ่าน website ของกรมสุขภาพจิต https://dmh.go.th/test/ แล้วถ้าหากมีคำถามเกี่ยวกับยาหรือสุขภาพเบื้องต้น กรุณาสอบถามผ่าน line @guruya ศูนย์ข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี