บทความพิเศษ : ‘รู้จักเรารู้จักจีน’ ราชวงศ์ต่างๆของจีน

บทความพิเศษ : ‘รู้จักเรารู้จักจีน’ ราชวงศ์ต่างๆของจีน

วันเสาร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

อาณาจักรจีนอันยิ่งใหญ่ เจริญรุ่งเรืองมาหลายพันปีพร้อมกับอาณาจักรเมโสโปเตเมีย อินเดีย  กรีก และอียิปต์  ก่อนการตั้งประเทศไทย สิ่งประดิษฐ์สำคัญห้าอย่างของจีนคือ ตัวอักษร  กระดาษ เข็มทิศ ดินปืน การพิมพ์  ผ่านการปกครองของกษัตริย์ราชวงศ์ต่างๆ

ประวัติศาสตร์จีนอันยาวนานกว่าสี่พันปีถูกแบ่งออกเป็นช่วงเวลาต่างๆ ที่เรียกว่า "ราชวงศ์" ซึ่งแต่ละราชวงศ์ปกครองแผ่นดินจีนด้วยระบอบจักรพรรดิ ราชวงศ์เหล่านี้ได้สร้างสรรค์และทำลายวัฒนธรรม กฎหมาย และโครงสร้างสังคมอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการทำความเข้าใจราชวงศ์ต่างๆของจีนจึงเป็นกุญแจสำคัญในการรู้จักมหาอำนาจแห่งเอเชียนี้ การเปรียบเทียบกับสมัยต่างๆ ของไทยจะช่วยให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นและเข้าใจเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ได้ง่ายขึ้น


ราชวงศ์จีนยุคโบราณ   ตามตำนานเล่าขานระบุว่า ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ จีนได้สร้างอารยธรรมแรกเริ่มภายใต้ ราชวงศ์เซี่ย (夏朝 Xia Dynasty) (1,500-1,000 ปีก่อนพุทธกาล) มีจักรพรรดิสำคัญคือ พระเจ้ายู่ ( 禹 Yǔ)  ที่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมบริเวณแม่น้ำเหลืองได้สำเร็จที่มณฑลเหอหนาน เป็นเวลา อยู่ในช่วงยุคหินต่อกับโลหะ ใกล้เคียงกับสมัยบ้านเชียงของไทย   และ ราชวงศ์ซาง (Shang Dynasty) (ราว 1,000-500 ปีก่อนพุทธกาล ) โดย ยังไม่มีการก่อตั้งอาณาจักรที่เป็นปึกแผ่นชัดเจน ผู้คนดำรงชีวิตด้วยการเกษตรกรรมและล่าสัตว์ในชุมชนขนาดเล็ก แต่เริ่มมีอักษรจีนใช้แล้ว

เมื่อเข้าสู่ ราชวงศ์โจว (Zhou Dynasty) (ราว 500 ปีก่อนพุทธกาล-พ.ศ. 287) ซึ่งเป็นยุคที่การปกครองแบบศักดินา  ซุนหวู  ขงจื๊อ  และเล่าจื๊อ  ตรงกับยุค อาณาจักรฟูนาน และ อาณาจักรทวารวดี ซึ่งได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอินเดีย

ราชวงศ์ฉิน  หรือ จิ๋น  (Qin Dynasty) (พ.ศ. 322-337 ) ซึ่งเป็นราชวงศ์แรกที่จิ๋นซีฮ่องเต้ รวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่งเดียวและสร้าง กำแพงเมืองจีน 

ราชวงศ์ฮั่น (Han Dynasty) (พ.ศ. 337-763) เป็นยุคทองทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยีที่เทียบได้กับจักรวรรดิโรมันในโลกตะวันตก ในช่วงนี้ศาสนาพุทธได้หยั่งรากลึกในดินแดนสุวรรณภูมิ และประเทศจีน

หลังจากความวุ่นวายในยุคสามก๊ก Three Kingdoms (พ.ศ.763-823) ซึ่งตรงกับสมัยฟูนัน เป็นสมัยของราชวงศ์จิ้น Jin Dynasty (พ.ศ. 813-963) ราชวงศ์เหนือใต้  Northern and Southern Dynasties (พ.ศ. 963-1124)ราชวงศ์จีนได้รวมตัวกันอีกครั้งในสมัย ราชวงศ์สุย (Sui Dynasty) (พ.ศ.1124-1162) ซึ่งมีการขุดคลองใหญ่ Grand Canal  

จีนสมัย ราชวงศ์ถัง (Tang Dynasty) (พ.ศ. 1161-1450) มีความเจริญรุ่งเรืองทางศิลปะ วรรณกรรม และการค้าเป็นอย่างมาก   พระถังซำจั๋งเดินทางบกไปสืบพุทธศาสนาที่ประเทศอินเดีย   ในช่วงเวลาเดียวกัน อาณาจักรหริภุญชัย และ อาณาจักรศรีวิชัย กำลังเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะในเรื่องการค้าและศาสนาพุทธ

สมัยห้าราชวงศ์สิบอาณาจักร Five Dynasties and Ten Kingdoms (พ.ศ. 1450-1503)

ราชวงศ์ซ่ง หรือซ้อง (Song Dynasty) (พ.ศ. 1503-1814) จีนก้าวหน้าอย่างมากในด้านวิทยาศาสตร์และเศรษฐกิจ โดยมีการประดิษฐ์ดินปืนและเข็มทิศ ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคเจนละและ อาณาจักรสุโขทัยตอนต้น  มีการนำเทคนิคการทำเครื่องเคลือบดินเผา ศิลาดล  จากจีนมาผลิตที่กรุงสุโขทัย

ต่อมาพวกมองโกลได้เข้ายึดครองจีนและก่อตั้ง ราชวงศ์หงวนหรือหยวน (Yuan Dynasty) (พ.ศ.1822-1911) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อาณาจักรสุโขทัยของไทยอยู่ในช่วงปลาย ในขณะที่จีนก็เริ่มฟื้นตัวและเข้าสู่ยุคทองอีกครั้งภายใต้ ราชวงศ์หมิง (Ming Dynasty) (พ.ศ. 1911-2187) ซึ่งเป็นราชวงศ์ที่สร้างความยิ่งใหญ่ทางทะเลและฟื้นฟูวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมขึ้นมาใหม่ ยุคนี้ตรงกับช่วงเวลาที่ประเทศไทยเข้าสู่ยุค กรุงศรีอยุธยาตอนต้น   ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไทยมีความสัมพันธ์ทางการค้าและการทูตกับจีนอย่างใกล้ชิด

ต่อจากนั้นเป็นสมัยของพวกแมนจูจากแมนจูเรีย เข้ามาครอบครอง ตั้งราชวงศ์ชิง (Qing Dynasty) (พ.ศ. 2187-2455 หรือ ค.ศ. 1644-1912) ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของจีนตรงกับช่วงปลาย กรุงศรีอยุธยา จนถึง กรุงรัตนโกสินทร์ ของไทย เป็นช่วงเวลาที่จีนเริ่มเผชิญกับอิทธิพลของมหาอำนาจตะวันตกและเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายก่อนจะล่มสลายลง  แล้วสถาปนาระบบสาธารณรัฐ ตั้งแต่ พ.ศ. 2454 จนถึงปัจจุบัน

ราชวงศ์ต่างๆ ของจีนและสมัยต่างๆ ของไทยเผยให้เห็นถึงวิวัฒนาการทางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกันแต่ก็มีความเชื่อมโยงกันในบางช่วงเวลา ในขณะที่จีนมีราชวงศ์ที่รุ่งเรืองและล่มสลายสลับกันไปอย่างต่อเนื่อง ไทยก็มีอาณาจักรที่ก่อตั้งและล่มสลายเช่นกัน โดย จีนมีระบบกษัตริย์ที่สิ้นสุดลงในปีพ.ศ. 2455 แล้วเปลี่ยนเป็นระบบสาธารณรัฐ

โดย อาทร  จันทวิมล

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top