ช่วงนี้มีการแชร์กันในโลกโซเชียล ว่า “มีการฉีดฮอร์โมนเข้าไปบริเวณหน้าอกของลูกไก่ ซึ่งหากกินเข้าไปแล้วจะเกิดอันตราย รวมถึงทำให้เด็กเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วกว่าปกติด้วย” จะเป็นอย่างนั้นจริงหรือ วันนี้เรามาคุยเรื่องนี้กันครับ
เมื่อดูจากคลิปที่พูดถึงกันนั้นแล้ว คิดว่าน่าจะเป็นการฉีดวัคซีนให้ไก่ที่จะมาทำเป็นพ่อแม่พันธุ์ที่มีอายุประมาณ 6-10 สัปดาห์มากกว่า ไม่น่าจะเป็นการฉีดฮอร์โมนตามที่กล่าวกันครับ
เนื่องจากในปัจจุบันนี้ อุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่เนื้อของไทยนั้น ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ฮอร์โมนเพื่อเร่งการเจริญเติบโตเลยครับ เหตุผลคือ
1.มีการพัฒนาสายพันธุ์ ให้มีอัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อดีขึ้น ทำให้ไก่กินอาหารแล้วโตเร็ว
2.มีระบบการจัดการที่ดี ใช้การเลี้ยงเข้าและออกเป็นชุดๆ (all in all out) ทำให้สามารถควบคุมปริมาณการใช้อุปกรณ์ สิ้นเปลืองได้ จึงเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย
3.โรงเรือนที่ใช้เลี้ยงเป็นระบบที่ทำให้ไก่มีสุขสภาวะที่ดี มีการปรับระยะเวลาการให้แสงและการควบคุม สภาพแวดล้อม เพื่อกระตุ้นให้ไก่ออกกำลังและกินอาหารได้ตลอดเวลา ไก่ก็จะโตเร็วขึ้น
4.มีพัฒนาด้านคุณภาพของอาหาร ให้เหมาะกับอัตราการแลกเนื้อ ซึ่งมีการปรับสูตรอาหารเพื่อเน้นให้มีคุณค่าทางโภชนาการและสารอาหารที่ครบถ้วน เหมาะสมกับไก่ในแต่ละช่วงอายุ ก็จะทำให้ไก่เติบโตเร็วขึ้น
5.มีระบบการป้องกันโรคที่ดี มีการทำวัคซีนและการถ่ายพยาธิเพื่อลดโอกาสการป่วยของไก่ (ข้อนี้น่าจะเป็นภาพเหตุการณ์ในคลิปที่แชร์กันครับ)
6.ระยะเวลาในการเลี้ยง ซึ่งการเลี้ยงไก่เชิงอุตสาหกรรมนั้น ใช้เวลาในการเลี้ยงสั้นกว่าสมัยก่อนมาก โดยใช้ระยะเพียงแค่ประมาณ 40 วันต่อรุ่นเท่านั้น ซึ่งไม่จำเป็นไม่ต้องพึ่งฮอร์โมนให้เปลืองเงินและอันตรายเลยครับ
สิ่งที่สำคัญ การใช้ฮอร์โมนในไก่นั้นเป็นสิ่ง“ผิดกฎหมาย” ทั่วโลก และในประเทศไทยนั้น มีกฎหมายห้ามการใช้ฮอร์โมนในไก่และผลิตภัณฑ์ที่เป็นอาหารมา 30 ปีแล้วครับ(ตั้งแต่ปี พ.ศ.2529)
ดังนั้นค่อนข้างมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่า การเลี้ยงไก่เชิงอุตสาหกรรมในปัจจุบันค่อนข้างปลอดภัยจากฮอร์โมนอย่างที่หลายๆ คนกลัวกันครับ
ส่วนการที่เด็กยุคใหม่นั้นมีการเจริญเติบโตทางด้านร่างกายเร็ว กว่าสมัยก่อน โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงนั้นน่าจะมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายอย่าง ได้แก่ ปัจจัยภายในร่างกาย เช่น การสร้างสารเคมีจากต่อมใต้สมอง และต่อมหมวกไตรวมถึง ปัจจัยจากภายนอกเช่น ปัจจุบันนี้อาหารการกินที่มีความสมบูรณ์กว่าในสมัยก่อนมาก โดยเฉพาะการนิยมบริโภคอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น ขนมจากแป้ง และไขมันที่แทรกในอาหารสำเร็จรูป รวมถึงหนังหมูหรือหนังไก่ที่ติดมันโดยเฉพาะกรรมวิธีในการปรุง ที่มักจะเน้นในเรื่องของการทอดด้วยน้ำมัน มากกว่านึ่งหรือต้มด้วยครับ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี