ในปัจจุบันนี้ หลายๆ บ้านจัดว่า “สัตว์เลี้ยง” เป็นสมาชิก “คนหนึ่ง”ในครอบครัวเลยทีเดียว มีความผูกพันกันมากขึ้น มีการใส่ใจ การดูแลอย่างดี และมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น ประกอบกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการสัตวแพทย์ก็มีมากขึ้น ส่งผลให้สัตว์เลี้ยงมีอายุที่ยืนยาวขึ้นซึ่งแน่นอนว่าสุนัขวัยอาวุโส สุนัขวัยชรา หรือสุนัขสูงวัย (ขออนุญาตเลี่ยงไม่ใช่คำว่า “แก่” นะครับ) ก็ย่อมต้องการการดูแลที่เพิ่มขึ้นมากกว่าตอนเป็นหนุ่มเป็นสาว การเอาใจใส่และการดูแลเขาในวัยชรา ก็จะถือเป็นการให้รางวัลตอบแทน “ความจงรักภักดี” ที่เขามีให้เรามาตลอดช่วงชีวิต ให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขที่สุด ตลอดจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตตามอายุขัยของพวกเขา เท่าที่เจ้าของคนหนึ่งอย่างเราๆ จะทำได้ ซึ่งวันนี้ผมก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจจาก “คุณหมอกวาง”สัตวแพทย์หญิง ดร.ฉัตรวลี บุญธรรม เกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานใน“การดูแลสัตว์เลี้ยงเมื่อก้าวเข้าสู่วัยชรา” มาฝากครับ
เมื่อไหร่ถึงจะเรียกว่า ก้าวเข้าสู่วัยชรา?
เป็นคำถามแรกๆ ที่หลายคนสงสัยกัน เพราะอายุขัยของสัตว์นั้นจะแตกต่างจากในคน ในสุนัขพันธุ์ใหญ่ (เช่น ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ เกรทเดน เซนท์เบอร์นาร์ต เชาเชา บูลมัสทีฟ ฯลฯ) จะมีอายุขัยสั้นกว่าและมักจะเข้าสู่วัยชราเร็วกว่าสุนัขพันธุ์เล็ก (เช่นแจ็ครัสเซล บีเกิ้ล พุดเดิ้ล ชิห์สุ ชิวาวา ปอมเมอเรเนียน ฯลฯ)
โดยสุนัขพันธุ์ใหญ่จะเริ่มเข้าสู่วัยชราเมื่ออายุ 6 ปี ส่วนสุนัขพันธุ์เล็กรวมถึงในแมวจะเริ่มเข้าสู่วัยชราเมื่ออายุประมาณ 7 ปี
เมื่อเข้าสู่วัยชรา เราต้องดูแลเรื่องอะไรบ้าง
เมื่อแก่ตัวลง มีหลายสิ่งที่ต้องใส่ใจดูแล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน การดูแลสุขภาพร่างกาย กิจกรรมต่างๆ ความสะอาดของที่พักอาศัย ตลอดจนเรื่องสภาพที่เปลี่ยนแปลงไป
อาหาร
อาหารเป็นสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง สุนัขแก่จะมีความกระฉับกระเฉงลดน้อยลง จึงต้องการอาหารที่ให้พลังงานลดลงเช่นเดียวกัน ที่สำคัญคือ “รูปแบบของอาหาร” ไม่ว่าจะเป็นอาหารเม็ด อาหารเปียก อาหารเหลว โดยต้องคำนึงถึง “ความแข็ง” ซึ่งต้องปรับให้เหมาะกับสุนัขแก่ที่มักจะพบปัญหาเหงือกและฟัน
อย่างไรก็ตาม “โภชนาการ” ของอาหารต่างๆ ก็ต้องปรับเปลี่ยนตามสภาพร่างกายของสุนัขแต่ละตัวด้วย โดยเฉพาะตัวที่มีปัญหา เช่น โรคหัวใจ หรือโรคไต ก็ต้องปรับอาหารเพื่อคุมปริมาณเกลือแร่ต่างๆ ต้องมีการลดการปรุงแต่งรสชาติของอาหารที่ปรุงเอง เช่น ลดแร่ธาตุโซเดียมและความเค็มจากน้ำปลาและซอสปรุงรส ลดการใช้น้ำตาลในอาหาร ลดปริมาณโปรตีนลงเพื่อไม่ให้ไตทำงานหนัก เพิ่มอาหารที่มีเส้นใยอาหาร (fiber) อาจต้องมีการเพิ่มแร่ธาตุแคลเซียมหรือกระดูกป่นลงไปในอาหาร และจะต้องมีน้ำสะอาดให้เพียงพอด้วย
การฉีดวัคซีนป้องกันโรค การตรวจเช็คสุขภาพประจำปี
ควรฉีดวัคซีนเป็นประจำ รวมถึงมีโปรแกรมการพบสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ซึ่งสิ่งที่มักตรวจในการตรวจประจำปีนั้นได้แก่ การตรวจเลือด เพื่อดูค่าความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ค่าทางเคมีของเลือดที่แสดงการทำงานของตับ ไตและปริมาณของเสียในเลือด นอกจากนี้ อาจต้องทำการ X-ray หรือทำ ultrasound เพื่อตรวจดูความผิดปกติของร่างกายที่เฉพาะเจาะจง เนื่องจากมีหลายครั้งที่ทำให้พบความผิดปกติเร็วกว่า
กิจกรรมที่ทำประจำในแต่ละวัน
การขับถ่าย
พบว่าในสุนัขชรามักจะมีปัญหาในเรื่องการกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระเช่นเดียวกับในคนที่สูงวัย ซึ่งมีสาเหตุมาจากระบบประสาทที่เสื่อมลงตามวัย ปัญหาของระบบทางเดินปัสสาวะ หรือแม้กระทั่งต่อมลูกหมากโตที่สามารถพบได้บ่อยในสุนัขเพศผู้ที่ไม่ได้ทำหมัน เจ้าของควรหมั่นสังเกตการขับถ่ายทุกวัน หากสุนัขมีอาการฉี่กระปริบกระปรอยหรือเบ่งปัสสาวะแต่ไม่สามารถปัสสาวะได้ อาจทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ภายใน 24 ชั่วโมง เลยทีเดียว
(ต่อสัปดาห์หน้า)
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี