หากสุนัขที่เราเลี้ยงมีอาการที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ซึม เบื่ออาหารอาเจียน ท้องเสีย ถ่ายเหลวจนมีมูกเลือดปน อ่อนแรง และมีภาวะแห้งน้ำ(dehydration) รวมถึงแสดงอาการปวดช่องท้องส่วนหน้า เช่น โก่งตัว หรือร้องเมื่อกดบริเวณท้อง เป็นต้น อาการเหล่านี้ อาจบ่งว่า สุนัขอาจมีปัญหาเรื่อง “โรคตับอ่อนอักเสบ (pancreatitis)” อยู่ก็ได้ วันนี้เรามาทำความรู้จักโรคนี้กันครับ
@ก่อนอื่นมารู้จักตับอ่อนกันก่อน
มาทำความเข้าใจกันก่อน ว่า ตับอ่อน (pancreas) ไม่ใช่ตับ (liver) และไม่ใช่ตับเหล็ก (ม้าม หรือ spleen) ตับอ่อนเป็นอวัยวะขนาดเล็กในช่องท้องส่วนต้นใกล้กับกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น (duodenum ) ทำหน้าที่เป็นทั้งต่อมชนิดมีท่อ (exocrine gland) ที่สร้างน้ำย่อยสำหรับย่อยโปรตีนไขมันและคาร์โบไฮเดรตซึ่งมีท่อไปเปิดที่ลำไส้เล็กส่วนต้น และยังเป็นต่อมไร้ท่อ (endocrine) ที่สร้างฮอร์โมนสำคัญเกี่ยวกับการควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย เช่น insulin (ที่ดึงน้ำตาลในเลือดเข้าสู่เซลล์ หากขาดแล้วจะส่งผลให้เกิด “โรคเบาหวาน”) และ glucagon (ที่สลายน้ำตาลที่สะสมไว้เข้าสู่กระแสเลือด กรณีที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป) ด้วย
@โรคที่เกี่ยวกับตับอ่อนมีอะไรบ้าง
โรคของตับอ่อนในสุนัขที่พบได้นั้น มีไม่มาก ได้แก่เนื้องอกและมะเร็งตับอ่อน รวมถึงตับอ่อนอักเสบทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง
@โรคตับอ่อนอักเสบ (pancreatitis) คืออะไร
ตับอ่อนอักเสบ เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่เกิดการย่อยสลายโดยเอนไซม์ของตับอ่อนเอง (autodigestion) โรคนี้สามารถพบได้ในสุนัขที่มีอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป และสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือโรคตับอ่อนอักเสบแบบเฉียบพลัน และโรคตับอ่อนอักเสบแบบเรื้อรัง
ตับอ่อนอักเสบแบบเฉียบพลัน จะมีรูปแบบการดำเนินโรคที่รวดเร็ว อาการที่พบจะมีความหลากหลายและไม่จำเพาะ ซึ่งอาจทำให้สับสนกับโรคอื่นที่เกี่ยวข้องกับทางเดินอาหารได้ มักพบว่าเป็นแบบประเภทนี้มากกว่า
ตับอ่อนอักเสบแบบเรื้อรัง จะแสดงอาการไม่รุนแรง เป็นๆ หายๆ แต่อาการมักไม่หนักจนถึงขั้นเสียชีวิต แต่ทำให้สุขภาพของสุนัขทรุดโทรมและมีปัญหาโรคอื่นแทรกซ้อนตามมาได้
@สาเหตุโน้มนำ
จากที่กล่าวไปแล้วว่า สาเหตุของตับอ่อนอักเสบ มักเกิดจากการทำงานผิดปกติของเอนไซม์ที่สร้างโดยตับอ่อนเอง เกิดการย่อยสลายตัวเอง แต่สาเหตุโน้มนำมาจาก
-สุนัขอ้วนที่มีระดับไขมันในกระแสเลือดสูง (hyperlipidaemia) โดยเฉพาะสุนัขที่กินอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอดต่างๆ เป็นประจำ
-สายพันธุ์ มีการศึกษาพบว่า สายพันธุ์สุนัขที่มีโอกาสป่วยเป็นโรคตับอ่อนอักเสบแบบเฉียบพลันได้ง่าย ได้แก่ Yorkshire terriers, Cocker spaniels, Miniature Poodles, Miniature Schnauzers, Shetland sheepdog เป็นต้น ส่วนโรคตับอ่อนอักเสบแบบเรื้อรังมักพบในสุนัขสายพันธุ์ Boxer และ Collies เป็นต้น
-การป่วยจากโรคบางชนิด เช่น โรคตับและท่อน้ำดี ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ ภาวะฮอร์โมนต่อมหมวกไตสูง โรคพยาธิในเม็ดเลือด
ชนิด Babisiosis
-การที่ได้รับยาหรือสารเคมีบางอย่าง เช่น ยาแก้อักเสบในกลุ่ม สเตียรอยด์ azathioprine, sulphonamides, tetracyclines, salicylates เป็นต้น และยังพบว่าสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกที่ตับอ่อน (อาจมาจากอุบัติเหตุหรือการผ่าตัด) หรือการเกิดภาวะขาดเลือด (ischemia) ก็สามารถทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคตับอ่อนอักเสบได้เช่นกัน
@อาการที่พบ
อาการที่พบโดยทั่วไปสุนัขมักมีอาการ ซึม เบื่ออาหาร อาเจียน และปวดท้องอย่างรุนแรง มักมีอาการถ่ายเหลว หรือถ่ายเหลวมีเลือดปนร่วมด้วย มีภาวะแห้งน้ำ (dehydration) แสดงอาการปวดท้อง อาจพบอาการดีซ่าน หายใจลำบาก บางรายที่มีอาการรุนแรง สามารถทำให้สุนัขช็อกและเสียชีวิตได้ เนื่องจากเกิดภาวะลิ่มเลือดแพร่กระจายในหลอดเลือด หรือ disseminated intravascular coagulation (DIC) ทำให้การทำงานของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายล้มเหลว และเกิดภาวะช็อกตามมา
ในสุนัขที่มีอาการของประเภทเรื้อรัง มักจะแสดงอาการไม่รุนแรง อาจมีอาการอาเจียนและท้องเสียประปราย สุนัขยังคงกินอาหารได้ แต่อาจมีน้ำหนักตัวลดลง เป็นๆ หายๆ สุขภาพทรุดโทรมและเกิดโรคอื่นแทรกซ้อนตามมา
เรื่องราวเกี่ยวกับโรคตับอ่อนอักเสบยังไม่หมดแค่นี้ครับ สัปดาห์หน้าเรามาคุยกันถึงวิธีการการตรวจวินิจฉัย และการดูแลรักษากันครับ
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ และ ฝ่ายประชาสัมพันธ์
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี