ปัจจุบัน “ปลา” เป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ “สุนัขและแมว” เช่นเดียวกับการเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด ความเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี้ยง แต่เราสามารถรักษาหรือบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้อย่างทันท่วงทีถ้าผู้เลี้ยงสังเกตอาการความผิดปกติได้เร็ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าปลาที่เราเลี้ยงเริ่มป่วย มีวิธีสังเกตอย่างไร วันนี้ผมมีข้อมูลดีๆ จาก อาจารย์ น.สพ.ดร.ภัทรพลเปี่ยมสมบูรณ์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาฝากครับ
@จะทราบอย่างไรว่าปลาเริ่มป่วย?
เนื่องจากปลาเค้าส่งเสียงร้องบอกเราไม่ได้ จะว่ายมาหาเราทำท่าทางออดอ้อนเหมือนสุนัขแมวก็ทำไม่ได้ สิ่งที่เจ้าของจะทราบได้ก็คือ “ใช้การสังเกตด้วยตา” ครับ เพราะโดยทั่วไป ผู้เลี้ยงก็จะคุ้นเคยกับพฤติกรรมปรกติประจำวันของปลารวมถึงเห็นลักษณะภายนอกของปลาอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรผิดปกติก็จะพอสังเกตและทราบเบื้องต้นได้
@อาการหรือพฤติกรรมที่บ่งบอกว่าปลาป่วยมีไรบ้าง?
- กินอาหารน้อยลง อาหารเหลือ ดูเบื่ออาหาร
การที่ปลาไม่กินอาหาร หรือกินน้อยกว่าปกติมักเป็นอาการแรกๆ ที่พบเมื่อเริ่มป่วย อย่างไรก็ตามก็ยังไม่สามารถชี้ชัดถึงสาเหตุได้ ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งจากการติดเชื้อ ปัญหาคุณภาพน้ำ หรือการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่ รวมถึงปลาอาจไม่ป่วยจริงก็ได้ แต่เป็นที่สภาพอากาศ โดยเฉพาะปลาที่เลี้ยงนอกบ้าน เช่น ช่วงอากาศเย็นหรือฝนตก อาจพบปลากินอาหารน้อยลงได้ เพราะฉะนั้นควรสังเกตอาการอย่างอื่นร่วมด้วย
- แยกฝูง แอบตามมุมตู้ นอนอยู่กับพื้นตู้ หรือว่ายเอื่อยๆ เกาะขอบบ่อ
ข้อนี้ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งแทบจะฟันธงได้เลยว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ โดยธรรมชาติปลามักอยู่รวมฝูง ถ้ามีการแยกตัว แสดงว่าเค้าเริ่มป่วยแล้ว แต่ถ้าเลี้ยงอยู่ตัวเดียวก็อาจสังเกตว่าปลาไม่คึกคักเหมือนเดิม หรือไปอยู่ในตำแหน่งเดิมนานๆ และการว่ายน้ำลดลงเป็นต้น
- แผ่นปิดเหงือกขยับเร็ว (หายใจเร็ว) หรือขึ้นมาอ้าปากหายใจบนผิวน้ำบ่อยขึ้น
ข้อนี้แสดงถึงการที่ปลาต้องการออกซิเจนมากขึ้น (เหมือนคนหายใจหอบ) อาจเกิดได้จากเหงือกทำงานได้ไม่ดี เนื่องจากมีความผิดปกติจากการติดเชื้อบางอย่างทำให้เหงือกทำงานได้ไม่เต็มที่ หรืออาจเกิดจากปัญหาคุณภาพน้ำ เช่น ออกซิเจนในน้ำต่ำก็เป็นได้
- ว่ายน้ำเอาตัวถูวัสดุต่างในตู้เลี้ยง ว่ายแฉลบน้ำ (flashing)
พฤติกรรมดังกล่าวมักเกิดจากความระคายเคือง หรือพูดง่ายๆ คือปลามีอาการ “คัน” โดยอาจเกิดได้จากการติดปรสิตภายนอก แพ้สารเคมีบางอย่างที่ใส่หรือปนเปื้อนลงไปในน้ำ ปลามักจะมีอาการร่วมคือปลาผลิต “เมือกตัว” มากขึ้นกว่าปกติ อาจพบเมือกขาวๆ เกาะตามตัว น้ำขุ่นๆ ข้นๆ หรือมีฟองลอยบนผิวน้ำ
- ว่ายน้ำผิดปกติ ว่ายหมุนควง หัวทิ่ม หงายท้อง ลอยเอื่อย หรือนอนที่ก้นตู้ หรือก้นบ่อ
อาการทั้งหมดนี้แสดงถึงการป่วยที่ชัดเจน ควรมีการจัดการแก้ไขโดยเร็ว หลายๆ กรณีถ้าพบอาการดังนี้แล้วรักษาได้ลำบาก
- พบรอยโรคตามตัว
พบแผลรอยช้ำตามตัว มีบาดแผล มีเลือดออก มีจุดสีขาวบนผิวหนัง เกล็ดตั้ง ตามเหงือกมีรอยบวมแดง หางหรือครีบกร่อน เปื่อย ตาเป็นฝ้า ขุ่นหรือมีเลือดออก มีขุยขาวๆ เกาะตามตัวช่องท้องขยายขนาดผิดปกติ เป็นต้น
การเลี้ยงปลานั้นมีความหลากหลาย ทั้งชนิดของปลาและวัตถุประสงค์ของการเลี้ยง (เลี้ยงเพื่อเป็นเพื่อน เพื่อเสริมบารมี เพื่อเป็นอาหาร) อย่างไรก็ตาม เมื่อปลาป่วย ปลาหลายๆ ชนิดก็มักแสดงอาการหรือรอยโรคที่อาจคล้ายคลึงหรือแตกต่างกันได้ดังนั้น “การหมั่นสังเกตปลาที่เลี้ยงไว้เป็นประจำ” เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ และเมื่อพบความผิดปกติ ควรเฝ้าระวัง สังเกตอาการให้ละเอียด ทำการแยกปลาที่ป่วยออกมาเลี้ยงไว้ในภาชนะที่มีน้ำสะอาด (น้ำที่มีคุณภาพเหมาะสมต่อการเลี้ยง ไม่ควรใช้น้ำประปาโดยตรง) และให้หัวอากาศตลอดเวลา ควรจดบันทึกอาการและขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสัตว์น้ำหรือสัตวแพทย์โดยตรง เพื่อจะได้ทำการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงทีครับ
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ และ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี