สุนัขกลุ่มที่มีใบหน้าสั้นๆ หัวกลมๆ ตัวอ้วนๆ เช่น ปั๊ก บูลด็อก บอสตัน เทอร์เรียร์นั้น เป็นสายพันธุ์สุนัขที่มีความน่ารัก ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน สุนัขกลุ่มนี้มีข้อจำกัดและข้อควรระวังในการเลี้ยงอย่างไร วันนี้ผมมีข้อมูลจากอ.สพ.ญ.ดร.ณัฐวรรณ ตั้งมหากุล ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาฝากครับ
สาเหตุโน้มนำของปัญหาในสุนัขกลุ่มนี้
สุนัขสายพันธุ์กลุ่มหน้าสั้น เช่น ปั๊ก ชิห์สุ ปักกิ่ง บอสตันเทอร์เรียร์ และบูลด็อก นั้นมีลักษณะทางกายวิภาคของกะโหลกโพรงจมูก และระบบทางเดินหายใจส่วนต้นที่แตกต่างจากสายพันธุ์อื่นทำให้เกิดปัญหาโรคทางเดินหายใจที่ทำให้เกิดอาการหายใจลำบากได้ง่ายกว่ากลุ่มสุนัขพันธุ์หน้ายาว เช่น โดเบอร์แมนดัลเมเชี่ยน ค็อกเกอร์สแปเนียล มิเนียเจอร์พินเชอร์
ตัวอย่างของปัญหาที่พบ
ปัญหาโรคทางเดินหายใจที่ทำให้เกิดอาการหายใจลำบากที่พบได้ในสุนัขพันธุ์หน้าสั้น ได้แก่ กลุ่มอาการทางเดินหายใจอุดตันในสุนัขพันธุ์หน้าสั้น (brachycephalic obstructive airway syndrome ; BOAS) พบได้บ่อยในสุนัขสายพันธุ์ เช่น ปั๊ก ชิห์สุปักกิ่ง บอสตัน เทอร์เรียร์ และบูลด็อก เนื่องจากสุนัขเหล่านี้จะมีความผิดปกติของโครงสร้างทางเดินหายใจส่วนหน้า ได้แก่ รูจมูกตีบแคบ ความผิดปกติของกระดูกอ่อนด้านในโพรงจมูก เพดานอ่อนที่ยาวและหนาผิดปกติ ลิ้นมีขนาดใหญ่ รวมทั้งอาจพบความผิดปกติของกล่องเสียงและหลอดลมที่มีขนาดเล็กกว่าปกติด้วย ซึ่งความผิดปกติเหล่านี้ทำให้เกิดแรงต้านในการหายใจที่มากขึ้นจากการตีบแคบหรืออุดตันของทางเดินหายใจ ส่งผลให้เกิดอาการหายใจลำบากและโน้มนำไปสู่ความผิดปกติของโครงสร้างทางเดินหายใจส่วนปลายเมื่อมีอาการรุนแรงเป็นเวลานานได้
อาการที่พบ
อาการที่สามารถพบได้ในสุนัขหน้าสั้นที่มีปัญหานี้ แบ่งระดับการแสดงออกได้เป็น 2 ระดับตามความรุนแรง ได้แก่
อาการไม่รุนแรง สุนัขจะแสดงอาการที่สังเกตได้ชัดเจนได้แก่ การหายใจเสียงดังโดยเฉพาะเวลาออกกำลังกายหรือตื่นเต้นและพบอาการกรนในขณะนอนหลับ
อาการรุนแรง สุนัขจะแสดงอาการหายใจเสียงดัง มีลักษณะคล้ายเสียงกรนอาการขากเสมหะ หายใจลำบาก เหนื่อยง่ายออกกำลังกายได้น้อยลง และอาจพบว่าสุนัขเป็นลมขณะออกกำลังกายได้ นอกจากนี้ยังสามารถพบความผิดปกติในการนอนคล้ายอาการหยุดหายใจขณะนอนหลับในคนได้อีกด้วย ซึ่งอาการต่างๆ เหล่านี้จะมีความรุนแรงมากขึ้นเมื่ออากาศร้อนหรือมีความชื้นในอากาศมากขึ้น นอกจากนี้ในสุนัขบางพันธุ์ เช่น สุนัขกลุ่มสายพันธุ์บูลด็อก ยังพบอาการผิดปกติของทางเดินอาหาร
เช่น อาการอาเจียนหรือขย้อนได้
การตรวจวินิจฉัย
การวินิจฉัยกลุ่มอาการทางเดินหายใจอุดตันในสุนัขพันธุ์หน้าสั้นนี้ทำได้โดย การประเมินจากสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยง ประวัติอาการป่วย และการตรวจร่างกายโดยสัตวแพทย์ เพื่อดูความผิดปกติของโครงสร้างและอาการของทางเดินหายใจดังที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว
การรักษา
สำหรับการรักษากลุ่มอาการนี้ ทำได้โดยการผ่าตัดเพื่อแก้ไขโครงสร้างทางเดินหายใจส่วนต้นที่ผิดปกติ ได้แก่ การแก้ไขการตีบแคบของรูจมูก และการตัดเพดานอ่อนส่วนที่ยาวเกินไป เพื่อลดการอุดตันทางเดินหายใจ ทำให้สุนัขสามารถหายใจได้ดีขึ้น
การดูแลและการป้องกัน
การจัดการและดูแลสุนัขหน้าสั้นที่มีปัญหานี้ที่เจ้าของสามารถทำได้ ได้แก่ การควบคุมน้ำหนัก และลดน้ำหนักในกรณีที่สุนัขมีน้ำหนักเกิน เพราะความอ้วนจะยิ่งส่งผลให้มีอาการหายใจลำบากมากขึ้น รวมทั้งสังเกตอาการและการหายใจของสุนัขทั้งในขณะพักและขณะออกกำลังกาย เนื่องจากกลุ่มอาการทางเดินหายใจอุดตันในสุนัขพันธุ์หน้าสั้นนี้ ไม่สามารถรักษาให้หายได้โดยการจัดการดูแลที่บ้านหรือการใช้ยา
เมื่ออ่านเรื่องราววันนี้แล้ว อย่าลืมไปสังเกตอาการที่สัตว์เลี้ยงของเราด้วยนะครับว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจหรือไม่ ในกรณีที่สงสัยว่าสุนัขมีปัญหากลุ่มอาการนี้ แนะนำให้เจ้าของสุนัขรีบปรึกษาสัตวแพทย์ โดยนำสุนัขเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและทำการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อลดโอกาสการพัฒนาของโรคไปจนเกิดความรุนแรง ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ครับ
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ และฝ่ายประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี